WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

“ซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1600”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
    ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบ 1607-1619 จุด ปิดตลาด -7.85 จุด ที่ 1608.04 จุด โดยแรงขายหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT, ADVANC, ABICO, PTTEP, BAY, INTUCH, TRUE กดดันตลาด แม้ว่าแรงซื้อหุ้นปิโตรเคมี (SCC, PTTGC) และหุ้นขนาดกลาง-เล็กแต่ก็ไม่สามารถชดเชยได้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.5 พันล้านบาท พอร์ตบล.ขายสุทธิ 380 กว่าล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิแต่ไม่มาก ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ 1.5 พันล้านบาท

     ผลประชุมรมว.คลังกรีซและยูโรโซนในวันแรก (16 ก.พ.) ไม่มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลกรีซไม่ยอมรับร่างแถลงการณ์ของกลุ่มยุโรปในการขยายระยะเวลาให้ความช่วยเหลือกรีซออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งปัจจัยนี้ฉุดตลาดหุ้นกรีซ & ยุโรปให้อ่อนตัวลง รวมถึงกดดันตลาดหุ้นเอเชีย & ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าเช้าวันนี้ให้ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ระยะทางของการปรับลงไม่รุนแรงเพราะตลาดมีความหวังว่ากรีซและเจ้าหนี้ยูโรโซนจะได้ข้อสรุปเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้และการเยียวยาผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดก่อนสิ้นสุดมาตรการฉบับปัจจุบันวันที่ 28 ก.พ.นี้ รวมทั้งการเก็งกำไรผลประกอบการ & เงินปันผลบจ.ที่ทยอยรายงานออกมาถึงสิ้นเดือนนี้ก็ช่วยพยุงไว้ด้วย ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีจังหวะอ่อนตัว โดยหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น QH

การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเปลี่ยนเป็นลบ แต่อาจมีการรีบาวด์สลับก่อน แล้วค่อยถอยลงในระยะต่อไป ระยะสั้นให้แนวต้านไว้ที่1620-1630, 1650 จุด ค่าลบควรลดพอร์ตตาม ต่ำกว่า 1600 Stop loss

สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ MFEC, CTW, EPCO, AP ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือPACE, MCS, SC, SITHAI หุ้นที่หลุด List คือ TIPCO, PRIN สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและราคาปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าพิจารณา Take Profit ตามรอบ คือ SENA, SYNTEC

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
-กรีซ : การประชุมรมว.คลังกรีซและยูโรโซนวันแรก 16 ก.พ.ไม่มีความคืบหน้า โดยกรีซไม่ยินยอมที่จะเดินหน้าปฎิบัติตามเงื่อนไขเดิมของมาตรการและยืนยันคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด โดยกรีซปฎิเสธร่างแถลงการณ์ของกลุ่มยูโรปที่ให้มีการขยายระยะเวลาช่วยเหลือกรีซออกไปอีก 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูการประชุมต่อในวันนี้ (17 ก.พ.) ตลาดหุ้นกรีซร่วงลงเพราะตลาดคาดการณ์ว่าการประชุมรอบนี้จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ

+ อังกฤษ : สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) ปรับเพิ่มตัวเลขGDP Growth ปี 2558 สู่ระดับ 2.7% (เดิม 2.5%) และคาดว่าจะเติบโต2.6% ในปี 2559 ปัจจัยหนุน คือ การลงทุนและการส่งออกที่เพิ่ม 5.8%และ 2.9% ในปี 2558 และ 6.5% และ 5.5% ในปี 2559 ตามลำดับสำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะต่ำกว่า 1% ในปีนี้ และอัตราการว่างงานเท่ากับ 5.2% ในปี 2558
+ ยูโรโซน : ตัวเลขเกินดุลการค้าภาคสินค้าเดือนธ.ค.57 เท่ากับ 2.43หมื่นล้านยูโร (2.77 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยมาจากมูลค่าส่งออกลดลง1.1% และนำเข้าหดตัว 2.4%

- ญี่ปุ่น : ประกาศเตือนภัยสึนามิหลังเกิดแผ่นดินไหว 6.9 ริกเตอร์ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเช้าวันนี้ 06.05 น. (เวลาไทย) ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานความผิดปกติของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองโอนากาวาและอาโอโมริ
+ ญี่ปุ่น & จีน : การลงทุนโดยตรงของญี่ปุ่นในจีนเริ่มฟื้นตัว โดยในเดือนม.ค.58 มูลค่าการลงทุนโดยตรง (FDI) ของญี่ปุ่นในจีนเพิ่ม 3.2%YoYจากที่ร่วงแรง 38.8%YoY ในปี 2557 เพราะข้อพิพาทเรื่องดินแดน และมีการลงทุนโดยตรง (จากทุกประเทศ) เข้าไปในจีนเพิ่มถึง 29.4%YoY ในเดือนม.ค.58
• ตลาดหุ้น & โภคภัณฑ์สหรัฐปิดทำการวันจันทร์ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• GDP ไตรมาส 4/57 ของไทยเติบโต 2.3%YoY และทั้งปี 2557ขยายตัว 0.7% ซึ่งการเติบโตดีกว่าไตรมาส 3/57 ที่ 0.6%YoY ทั้งนี้การบริโภคสินค้าไม่คงทนของภาคเอกชนในไตรมาส 4/57 เติบโตได้ดีขึ้นเป็น3.8%YoY (จาก 2.7%YoY ในไตรมาสก่อนหน้า) แต่การบริโภคสินค้าคงทนยังหดตัวตามยอดขายรถยนต์ที่ลดลง การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น4.1%YoY ในไตรมาส 4/57 ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน การลงทุนภาคก่อสร้างกลับมาเติบโตได้หลังหดตัวมา 4 ไตรมาสต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนภาครัฐยังต่ำ แต่การบริโภคภาครัฐดีขึ้นโดยเพิ่มขึ้น 5.5%YoY ในไตรมาส4/57 การส่งออกเติบโต 4.9%YoY การนำเข้าลดลงตามราคาพลังงานและการท่องเที่ยวฟื้นตัวตามปัจจัยฤดูกาลและการยกเว้นไม่ต้องทำวีซ่าในนักท่องเที่ยวจีนและไต้หวัน

•/+ แนวโน้มปี 2558 คาดว่าจะดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยช่วง2H58 จะดีกว่า 1H58 เพราะเม็ดเงินลงทุนเริ่มเข้าสู่ระบบทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น การหมุนเวียนของเม็ดเงินดีขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือการฟื้นตัวที่ล่าช้าของเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำยาวนานและหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูง ทาง DBS Group Research ยังคาดการณ์GDP Growth ของไทยปี 2558 ไว้ที่ 3.8% โดยโอกาสที่จะมี PositiveSurprise จำกัด เนื่องจากการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐค่อนข้างล่าช้าและการส่งออกมีโอกาสเติบโตได้น้อยกว่าที่เราคาดการณ์ไว้

+ รมว.คมนาคมเผยว่ามีความคืบหน้าในการเจรจาร่วมมือรถไฟรางคู่ไทย-จีนเมื่อ 11-13 ก.พ.58 ที่กรุงปักกิ่ง ว่าไทยรับผิดชอบหลักในการเวนคืนที่ดิน การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ส่วนจีนรับผิดชอบเรื่องการสำรวจ ออกแบบ และงานที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน คือการประเมินค่าก่อสร้าง การลงทุนใช้รูปแบบ EPC (EngineeringProcurement Construction) ซึ่งงานแต่ละส่วนจัดสรรให้บริษัทไทยและบริษัทของจีน ทำร่วมกัน ยกเว้นงานก่อสร้างที่ใช้เทคนิคสูง เช่น การเจาะอุโมงค์ งานวางระบบรางและระบบอาณัติสัญญาณ ที่จะต้องให้ทางจีนเป็นผู้ดำเนินการหลัก ส่วนเงินลงทุน เบื้องต้นจีนให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยราว 2% โดยรัฐบาลไทยมีฐานะเป็นเจ้าของโครงการ ทั้งนี้จะมีประชุมหารือร่วมกันในรายละเอียดอีกรอบที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 10-11 มี.ค.นี้

+ ไทย-ญี่ปุ่นได้ลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง (MOI) พัฒนาคมนาตมระบบราง (รถไฟความเร็วสูง) ไปแล้ว โดยไทยเสนอข้อมูลเส้นทางรถไฟให้ทางญี่ปุ่นพิจารณา 3 เส้นทาง คือ 1.แม่สอด-พิษณุโลก-ขอนแก่น-มุกดาหาร ระยะทาง 770 กม. 2. พุน้ำร้อน- กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-มาบตาพุด ระยะทาง 339 กม. และ 3.กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ระยะทาง 653 กม.เบื้องต้นจะให้ญี่ปุ่นเลือก 1 เส้นทาง ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าทางญี่ปุ่นจะเลือกเส้นทางใด
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!