- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 February 2015 16:39
- Hits: 1347
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Play on SMID Cap
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งกรอบแคบ 1,610-1,620 จุด แม้ว่า GDP ใน 4Q57 เติบโต 2.3% yoy ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.0% yoy และบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียเป็นกลางถึงบวกก็ตาม แต่แนวต้าน 1,620 จุด ยังคงกดดันจิตวิทยาการลงทุน อีกทั้งตลาดหุ้นยุโรปเปิดย่อตัว กดดันภาวะการลงทุน และ SET INDEX ย่อตัวลงปิด 1,608.84 จุด ลบ 7.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44,967 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติยังคงใช้กลยุทธ์ Arbitrage ด้วยการขายสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 อีก 1,511 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 1,560 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 1,888 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ติดตามการประชุม ครม. วันนี้
•ผลการเจรจาระหว่าง กรีซ และ รมว.คลังอียู รอบ 2 วานนี้ ล้มเหลว โดยกรีซยังคงยืนยันที่จะไม่รับเงื่อนไขตามแผนเดิมที่ตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ Troika
•วันนี้ตลาดหุ้นไต้หวัน / เวียดนามปิดทำการ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 16 แม้ว่า GDP ใน 4Q57 ของไทยจะออกมาดีกว่าคาดที่ 2.3% yoy แต่กลับไม่เรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้มากนัก เนื่องจาก ประเด็นกรีซ กลับมากดดันบรรยากาศการลงทุน อีกทั้งเป็นสัปดาห์ของเทศกาลวันตรุษจีนในวันที่ 19 ก.พ. ทำให้นักลงทุนภายในประเทศบางส่วนชะลอการลงทุน รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่อาจไม่ต้องการปรับพอร์ตในช่วงเทศกาลนี้ ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายชะลอตัวลงเหลือ 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท/วัน และผลที่ตามมาคือ กรอบแกว่งของ SET INDEX ในสัปดาห์นี้น่าจะอยู่บริเวณ 1,600-1,620 จุด การเก็งกำไรเป็นรายตัวต่อผลการดำเนินงานน่าจะเป็นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงสั้นๆ ที่ตลาดเงียบเช่นนี้
สำหรับสถานการณ์ในกรีซ เรากลับไม่ให้น้ำหนักเช่นเดียวกับที่ผ่านมา เพราะเราเชื่อว่า ท้ายที่สุดกรีซจะต้องยินยอมในเงื่อนไขของเจ้าหนี้บางส่วน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และกรีซยังสามารถพึ่งพิงเครดิตรวมของกลุ่มอียู และเงินช่วยเหลือจาก ECB และอียู ในการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน แต่แน่นอนว่า การเจรจา มีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. ซึ่งเป็นเส้นตายของกรณีดังกล่าว
ตลาด Nikkei / Kosipi (7.21 น.) เปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน และการเจรจาระหว่างกรีซ และ อียู คว้าน้ำเหลว
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เน้นหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น หรือหุ้นหลักที่ให้ผลตอบแทนปันผลงวดนี้ที่อยู่ในระดับสูง เป็นทางเลือกของการลงทุน
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: TASCO
Speculative Buy: ANAN
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.TASCO : ราคาปิด 90.00 บาท ราคาเหมาะสม 90.00 บาท
a)TASCO จะรายงานผลประกอบการ 4Q57 ในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q57 จะขยายตัว +12% qoq และพลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ ใน 4Q56 ที่ 50 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 475 ล้านบาท 4Q57
b)คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในปี 2558 เนื่องจากกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 1.02 แสนล้านบาท +12% yoy และจะเป็นปีแรกที่เห็นผลประโยชน์เต็มที่จากการร่วมทุนกับ SK Energy เพื่อเพิ่มยอดขายยางมะตอยในภูมิภาค
c)นอกจากนั้น นโยบายนำยางพารามาผสมยางมะตอยเพื่อพยุงราคายางพาราจะเป็นบวกต่อ TASCO เนื่องจากเป็นเจ้าของเทคโนโลยี
d)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.3% yoy เป็น 1,250 ล้านบาท และ Valuation ยังน่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 10.9 เท่า และประมาณการกำไรของเรามี Upside Risk เนื่องจากใช้สมมติฐานที่ค่อนข้างระมัดระวังในการทำประมาณการ จึงมีโอกาสที่จะทบทวนประมาณการกำไรหลังรายงานงบ 4Q57 และได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริหาร
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.ANAN : ราคาปิด 3.84 บาท ราคาเหมาะสม 4.60 บาท
a)ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการ 4Q57 จะขยายตัวโดดเด่น qoq ในเบื้องต้นเราคาดการณ์กำไร 4Q57 ราว 450 ล้านบาท เติบโต +100% qoq จากการบันทึกรายได้ของโครงการ Ideo สาทร – ท่าพระ และ Elio Del Ray
b)เชื่อว่าหากการควบคุมค่าใช้จ่าย และอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ดีต่อเนื่องใน 4Q57 อาจส่งผลให้กำไรสุทธิ 4Q57 ออกมาดีกว่าคาดการณ์และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาดได้เช่นกัน
c)ตั้งเป้า Presales ปี 2558 ที่ 23,000 ล้านบาท เติบโต +14% yoy จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการรวม 28,500 – 29,500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น Catalyst ต่อราคาหุ้นได้ หากการเปิดขายได้รับการตอบรับเชิงบวกจากตลาด และเราประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากจุดเด่นของ ANAN อยู่ที่ทำเลโครงการ, ภาพลักษณ์ และมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน
a)ราคาหุ้นปัจจุบัน PER 2558 ที่ 11.3 เท่า และจะลดลงเหลือ 8.5 เท่าในปี 2559 เนื่องจากมี Backlog รอรับรู้รายได้ในปี 2558 ราว 4.7 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นสูงถึง 9.7 พันล้านบาท และ 8.3 พันล้านบาท ในปี 2559 และ 2560 ตามลำดับ ช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรให้ขยายตัวโดดเด่นในปี 2559 – 2560
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิอีก US$159 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$568 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX Closed 427.8 4,207.6 13,190.4 9,188.0
KOSPI 146.3 0.2 -541.1 6,165.50 4,875.1
JSE 48.5 100.9 535.2 3,750.60 -1,806.4
PSE 10.0 36.9 830.6 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม Closed 6.0 34.6 135.6 263.2
SET INDEX -46.4 -4.1 61.9 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงเลือกใช้ Arbitrage strategy ระหว่างตลาดหุ้นไทย และ Set50 Index Futures
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -1,511 -132
SET50 Index Futures (สัญญา) +1,560 +1,859
SSF (สัญญา) +502 +899
Metal Futures (สัญญา) +96 +86
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +1,888 -2,827
นักลงทุนต่างชาติ แม้คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,511 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 1,643 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า ซื้อสุทธิ 2,359 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 1,920 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 เช่นกันอีก 1,560 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 3,419 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 1,356 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 5,585 สัญญา คาดว่าเป็นการสะสมสถานะ Long ต่อเนื่อง เมื่อ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นอีกเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 6.65 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 5.02 จุด
ดังนั้นนักลงทุนต่างชาติ น่าจะเปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures เมื่อราคา Futures ต่ำกว่า SET50 Index จึงยังคงเป็นลักษณะของ Arbitrage เช่นเดิม
ขณะที่ นักลงทุนกลุ่มนี้ กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 1,888 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 5,442 ล้านบาท ส่วนหนึ่งน่าจะนำเงินจากการขายในตลาดหุ้นมาพักไว้ในตลาดตราสารหนี้ อีกทั้งราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงตลอด 9 วันทำการที่ผ่านมา ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 9 อีก 4.90bps ปิดที่ 2.807%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 294 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 375 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 67.65 6.91% 365.26
INTUCH 47.34 6.73% 82.78
SCC 35.01 1.85% 513.32
KBANK 31.37 5.50% 224.04
AOT 29.54 4.39% 311.59
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 10 เน้นกลุ่มธนาคารและอสังหาฯ เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 236 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,147 ล้านบาท รวม 10 วันทำการซื้อสุทธิ 13,393 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มอสังหาฯ ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 280 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 424 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 117 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 437 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 75 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มอาหารถูกขายสุทธิสูงสุด 150 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 119 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 116 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
BBL 296.60 43.73 CPF -127.89 17.98
LH 174.02 45.93 DTAC -117.42 17.87
STEC 143.85 27.23 SCC -100.10 16.26
TRUE 80.42 7.03 KTB -82.63 11.45
BECL 74.03 27.85 CK -77.16 12.57
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong