- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 February 2015 16:31
- Hits: 1396
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
การฟื้นตัวของราคาน้ำมันหนุน SET...ติดตามการประชุม รมต.คลังยุโรปคืนนี้: SET ปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้านย่อย 1,620 จุด แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ปิดตลาดปรับสูงขึ้น +0.15% ที่ 1,615.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 132 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,620 หรือถัดไปที่ 1,632 จุด จาก 1) การฟื้นตัวแรงของราคาน้ำมันดิบโดย Brent +US$4.47 หลัง GDP 4Q14 ของกลุ่มประเทศใช้เงินยุโรขยายตัว +0.3% ดีกว่าคาด 2) GDP ญึ่ปุ่น +2.2% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยกลุ่มพลังงาน (PTT TOP PTTGC BANPU) มีแนวโน้มเป็น “กลุ่มนำ” ตลาด
“ซื้อ” BANPU และ “เก็งกำไร” ITD: กลยุทธ์หลักแนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง รวมไปถึง “ซื้อ” BANPU (ต้าน 28.75) จากการปรับสูงขึ้นของราคาถ่านหินต่อเนื่อง และเสถียรภาพกำไรที่เพิ่มขึ้นหลังโรงไฟฟ้าหงสาเริ่มผลิตไฟฟ้าตั้งแต่กลางปี 2015 เป็นต้นไป และแนะนำ “เก็งกำไร” ITD (ต้าน 9.7) โดยได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐฯ และความคืบหน้าของเหมืองโปแตซของ ITD ที่ จ.อุดรฯ หลังกรมอุตฯ เริ่มให้ใบอนุญาตเหมือง (TRC ถือ 4%) ที่ จ.ชัยภูมิ 25 ปี วันนี้
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
TACTICAL Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน +0.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-13 ก.พ.2015) ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน +0.1% หรือมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า SET อยู่ 0.40% ซึ่งเรายังไม่ได้รวมผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการขึ้นเครื่องหมาย XW เพื่อรับ Warrant ของ SAMART เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเราจะทำการเพิ่มอัตราผลตอบแทนจาก Warrant เมื่อ Warrant เข้าซื้อขายในตลาด ทั้งนี้ SEAFCO และ TUF ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio หรือ +5.5% และ +5.0% ตามลำดับ ขณะที่ SAMART (ไม่รวมอัตราผลตอบแทนจากการได้มาซึ่ง Warrant จากการขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 11 ก.พ.) AOT และ SPALI ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือ -11%, -2.5% และ -2.5%...ทั้งนี้ TACTICAL Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน 17.6% ตั้งแต่ต้นปี 2015 และ 88.5% ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 7.9% ตั้งแต่ต้นปี 2015 และ 27.9% ตั้งแต่ 13 ม.ค.14
Technical
ทดสอบ 1,650 จุด : SET ฟื้นตัวขึ้นมาใกล้ทดสอบยอด 1650 จุด ถ้าทะลุผ่านยอดนี้ไปได้
จะมีแนวโน้มขึ้นต่อ ข้อสังเกตที่สำคัญดัชนี SET ขณะนี้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นกึ่งกลางแนวโน้มขนาดใหญ่ แม้ว่าเครื่องมือทางเทคนิคจะเป็นลักษณะอ่อนตัวลงตามจังหวะตลาดที่พักตัว แต่ในกรณีที่สามารถผ่านแนวต้าน 1650 จุดได้ เราคาดว่าตลาดจะมีแรงซื้อหุ้นเข้ามาครั้งใหม่ ผลักดันให้ตลาดมีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าจะต้องมีการปรับเป้าหมายดัชนี SET ระยะยาว สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่า SET เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1603 - 1630/1635 จุด
หุ้นซื้อระยะสั้น: CK ฟื้นขึ้นสามารถปิดที่ระดับสูงสุดของวันกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสัปดาห์ แท่งเทียนฟื้นตัวทำรูปแบบ Hammer มีโอกาสทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 30 บาท โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 32 บาทTOP ขึ้นต่ออีกครั้งหลังพักตัวสร้างฐาน การเรียงตัวตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 เป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้ม คาดว่าปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง แนวต้านระยะสั้นที่ 54.50 บาท เป้าหมายถัดไปที่ 56.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,076 หรือ 1,082 จุด เป็นเป้าหมายหลัก ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,058 จุด
Gold Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 19,000-19,400 บาท สำหรับสัญญา GFG15 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับสูงขึ้น US$6.4/ออนซ์ ปิดที่ US$1,227.10/ออนซ์
Oil Futures: แนะนำ “ถือ”/“เปิด” สถานะ Long สัญญา BRH15 (เปลี่ยนจาก BRG15) หลังปรับสูงขึ้นเหนือ 1,840 ตั้งแต่เปิดตลาด และปรับสูงขึ้นถึงเป้าหมายที่ให้ไว้บริเวณ 2,000 ไปแล้วเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเป้าหมายถัดไปที่ 2,300/2,600 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,900
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
