WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ทดสอบ 1630+/- จุด...ไม่ผ่านขายก่อน
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี

       ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิดปรับขึ้น 8.29 จุด ที่ 1613.40 จุด โดยปัจจัยกระตุ้นการลงทุน คือ การเก็งกำไรผลประกอบการและเงินปันผล รวมทั้งมีความหวังว่าเมื่อ ECB เดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรแล้วจะทำให้มีสภาพคล่องไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเงิน &ตลาดทุนมากขึ้น นักลงทุนต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิ ส่วนอีก 2 กลุ่มเป็นขายสุทธิรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี และยูเครน บรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว โดยการหยุดยิงจะเริ่มตั้งแต่ 15 ก.พ.นี้ และ IMF ให้เงินกู้ช่วยเหลือกับยูเครนอีก 4 หมื่นล้านUS$ เพื่อช่วยเหลือให้ยูเครนหลุดพ้นการล้มละลาย ด้านกรีซ ทาง ECB ได้เพิ่มวงเงินในกองทุนช่วยหลือฉุกเฉินกับภาคธนาคารของกรีซ 5 พันล้านยูโรเป็น 6.5 หมื่นล้านยูโร โดยมีผลถึง 18 ก.พ.58 ส่วนในประเทศก็มีการเก็งกำไรผลประกอบการและแนวโน้มปี 2558 รวมถึงเงินปันผล ด้านการลงทุนในโครงการภาครัฐ คาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น รับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง,แบงค์ใหญ่, ขนส่งและสื่อสาร เป็นต้น หุ้นพื้นฐานที่แนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น THCOM

     การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวก ภาพตลาดเป็นการแกว่ง โดยอาจมีการปรับขึ้นก่อนแล้วค่อยถอยลงในระยะต่อไป ระยะสั้นให้แนวต้านไว้ที่ 1620-1630 จุด ค่าลบควรลดพอร์ตตาม ต่ำกว่า 1600 Stop loss

สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ MCS, SYNTEC, SC, SITHAI ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือPACE, TIPCO, PRIN, SENA หุ้นที่หลุด List คือ –ไม่มี- สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและราคาปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าพิจารณา Take Profit ตามรอบ คือLH, QH, IRPC, PRINC

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- สหรัฐ : ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ลดลง 0.8% สู่ระดับ 4.3977 แสนล้านดอลลาร์ แย่กว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.5%

• สหรัฐ : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่ม 25,000ราย เป็น 304,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ290,000 ราย

+ กรีซ : ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินในกองทุนฉุกเฉินช่วยเหลือภาคธนาคารของกรีซอีก 5 พันล้านยูโร สู่ระดับ 6.5หมื่นล้านยูโร โดยการขยายวงเงินดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1สัปดาห์จนถึงวันที่ 18 ก.พ.58 โดยธนาคารของกรีซต่างพึ่งพาการกู้ยืมเงินจากกองทุนฉุกเฉินดังกล่าว หลังจากไม่สามารถเข้ากู้ยืมเงินโดยตรงจากECB ในช่องทางปกติได้

+ ยูเครน : ได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย & IMF ให้เงินกู้ช่วยเหลือ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยว่ารัสเซียและผู้นำจากฝรั่งเศส เยอรมนี และยูเครน ได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้วรวมถึงการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ของยูเครนและการหยุดยิง โดยการหยุดยิงนั้นจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ด้าน IMF ประกาศให้เงินกู้แก่ยูเครนเป็นจำนวน 4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือประเทศให้พ้นจากภาวะล้มละลาย

+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น...ความกังวลเรื่องยูเครนผ่อนคลายลง โดยดัชนี DJIA ปิดบวก 110.24 จุด หรือ +0.62% ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น56.43 จุด หรือ +1.18% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 19.95 จุด หรือ +0.96%ปัจจัยหนุน คือ การที่รัสเซียบรรลุข้อตกลงด้านสันติภาพกันแล้ว

+ สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้น...โททาลลดการลงทุน & สำรวจ โดย WTIส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนBRENT เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุนคือ ข่าวว่าบริษัทโททาล เอสเอ ของฝรั่งเศส ประกาศลดการลงทุนปี 2558ลงเหลือ 2.3-2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จากปีก่อนที่ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์และปรับลดงบประมาณด้านการสำรวจน้ำมันลง 30% สู่ระดับ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

• สัญญาทองคำปิดทรงตัว สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,220.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• แผนยุทธศาสตร์ให้เอกชนร่วมทุนใน 5 ปีข้างหน้า (2558-2562)ประกอบด้วยโครงการระบบขนส่งทางราง, ถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทาง,ท่าเรือ, รถไฟความเร็วสูง, โครงการโทรคมนาคมและอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 15% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนใน 8ปีข้างหน้าประมาณ 3 แสนล้านบาท ส่วนของปี 2558 คาดว่าการลงทุนร่วมของภาคเอกชนจะมีมูลค่าราว 5.5 หมื่นล้านบาท
ด้านที่ประชุม BOI ได้อนุมัติส่งเสริมโครงการลงทุนอีก 23 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 7.72 หมื่นล้านบาท โดยหลักเป็นกิจการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม, ชีวมวล, ขยะ และกิจการขนส่งทางอากาศ
ความเห็น Retail Research : นับว่าแผนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันภาคเอกชนก็กลับมาขยายลงทุนมากขึ้น เราคาดว่าจะเริ่มเห็นเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบอย่างชัดเจนตั้งแต่ 2H58 นี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเรื่องดีกับกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่นรับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง, นิคมอุตสาหกรรม, แบงค์ใหญ่ที่เน้นปล่อยสินเชื่อโครงการ, ขนส่งและสื่อสาร หุ้นเด่นในช่วงนี้ ได้แก่ CK,ROJNA, BBL, KTB, KBANK, AOT, BTS, INTUCH, THCOM, AIT เป็นต้น
+ TOP : ธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ปี 2558 มีแนวโน้มดีขึ้น รายงานขาดทุนสุทธิ 6.5 พันล้านบาทใน 4Q57 (-3.2 บาท/หุ้น) โดยหลักมาจากขาดทุนในสต็อก 10.5 พันล้านบาท หรือ 11.7 US$/bbl หากไม่รวมผลขาดทุนในสต็อกจะมี Core profit 5.8 พันล้านบาทใน 4Q57 แนวโน้มค่าการกลั่นดีขึ้นในปี 2558 จาก Crude discount และมูลค่า Fuel loss ของโรงกลั่นต่ำลง ซึ่งปกติแล้วโรงกลั่นจะมี Fuel loss ประมาณ 3% และส่วนนี้จะผลักดันให้ Core profit ในปี 2558 พลิกฟื้นได้ คาดกำไรสุทธิมีโอกาสกลับมาอยู่ในระดับ 9-10 พันล้านบาทได้ในปีนี้ จากที่ขาดทุนสุทธิ 4พันล้านบาทในปี 2557 แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 60 บาท อิงกับ P/BV ปี2558 ที่ 1.4 เท่า บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.60 บาท กำหนด XD 24 ก.พ.58 ชำระเงิน 29 เม.ย.58 คิดเป็น Dividend Yield 1.2%
• In the News : EFORL ผู้บริหารกล่าวว่าในปี 2558 แผนขยายสาขาวุฒิศักดิ์คลีนิคเพิ่มอีก 4 สาขา โดยจะขยายไปในประเทศลาวและกัมพูชาทั้งนี้ คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในต้นไตรมาส 2/58 โดยปัจจุบัน วุฒิศักดิ์คลินิก มีสาขาในประเทศไทย อยู่ 120 สาขา และมีสาขาในต่างประเทศ 11สาขา ในกลุ่ม CLMV (ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ) สำหรับทั้งปี 2558ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตกว่า 50% เป็น 4 พันล้านบาท ด้านกำไรสุทธิปี2558 คาดว่าจะขยายตัวสูงเมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิไม่น้อยกว่า200 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!