WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

รอบด้านตลาดหุ้น
Trading range


    วันนี้คาดดัชนีฯ Sideway up แนวรับ 1,600 ต้าน 1,620 จุด ข่าวบวกหนุนตลาด มาจาก วานนี้ รัสเซีย-ยูเครน บรรลุข้อตกลงหยุดยิง เริ่ม 15 กพ.นี้ เปิดโอกาสยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย, ECB แถลงฯ ส่งสัญญาณอุ้มกรีซตลาดลดวิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้
     ระยะสัปดาห์ คาดตลาดหุ้นไทยผันผวน (Trading range) ตามรายงานงบการเงิน บจ. ที่จะทยอยประกาศ แนะกลยุทธ์ "เลือกซื้อเล่นสั้น"
    ระยะเดือน (กพ.) คาดความผันผวนของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดการเงินโลก และ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกแย่กว่าคาด จะกดดันหุ้นโลก และหุ้นไทย กลยุทธ์ แนะนำ รีบาวด์เป็นโอกาสในการกระชับพอร์ต หุ้นใหญ่ (น้ำมัน ปิโตรเคมี สินค้าโภคภัณฑ์ แบงก์ บ้าน ฯลฯ) แนะเล่นหุ้น Local play แนวรับรายเดือนคาด 1,550 (ถ้าหลุดคาดแนวรับถัดไป 1,515 จุด) แนวต้าน 1,600 (+/-10) จุด (กรณีผิดคาด ถ้าขึ้นไปยืนเหนือ 1,610 จุด แนวโน้มเปลี่ยนแปลง ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,650 จุด)
หุ้นแนะนำ EA (แนวรับ 27.25 บ. ต้าน 29/30 บ.) SF กำไรดีกว่าคาด PE 12.6 เท่า VS กลุ่มฯ 20 เท่า

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) LPN รายงานกำไร 4Q14 ที่ 743 ล้านบาท (+34% y-y, 32% q-q) กำไรดีตามคาด และคงคาดกำไรปีนี้ โต 36% ดีกว่ากลุ่ม ประเด็นสนับสนุนการลงทุน คือ การประกาศจ่ายปันผลสูงกว่าคาด โดย Payout ratio ขยับขึ้นเป็น 58% (จากเราคาด 52%) ปันผลต่อหุ้น 2H14 ที่ 0.54 บาท คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 27 บาท
(0/-) TOP ขาดทุน 4Q14 6.5 พันล้านบาท (3Q14 ขาดทุน 2.2 พันล้านบาท) รวมทั้งปีขาดทุนสุทธิ 4 พันล้านบาท ส่วนกำไรหลักปี 2015 เราคงคาดการที่ 7.8 พันล้านบาท / งบขาดทุนตามตลาดคาด (No surprise)
(-) CPN รายงานค่าเช่าไตรมาส 4/14 อยู่ที่ 1,492บ/ตรม./เดือน -1% y-y, -2% q-q และ same store rental rate +1.3% แย่กว่าคาดที่ 4% และเราปรับสมมุติฐาน same-store rental growth ปี 15 ลงจาก 4.5% เหลือ 2.5% แต่การปรับลดค่าใช้จ่ายลงคาดชดเชยรายได้ที่เสียไป ส่งผลเรายังคงประมาณการณ์ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 57 บ.
(0) TISCO รายงานสินเชื่อเดือน มค.-1.5% m-m (No surprise) เรามองว่ามีโอกาสที่กำไรปีนี้จะดีกว่าคาดเดิมถ้าแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย แนะนำ Trading buy TP 51 บ.
(+) SF เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท ผลการดำเนินงาน 4Q14 +87%YoY, +34%QoQ และมากกว่าที่เราคาด 12%, หุ้นปันผลที่จะจ่ายมากกว่าเราและตลาดคาดการ โดยจ่ายในอัตรา 5:1 มากกว่าคาดที่ 8:1 คาดหุ้นปันผลครั้งนี้จะสามารถหนุน wealth ผู้ถือหุ้นให้เพิ่มได้ 20% อิงจากอดีตที่ราคาหุ้นสามารถกลับขึ้นไปบนระดับราคาก่อน XD ได้ ปี 2015 เราคงประมาณการกำไรที่ 897 ล้านบาท เติบโต 28% และมีแนวโน้มปรับขึ้นจากกำไร 4Q14 ที่ออกมาสูงกว่าคาด นอกจากนี้ประมาณการของเรายังไม่ได้รวมถึงกำไรจากการขายที่ดินบางใหญ่ คาดราว 300-400 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในช่วง 2Q-3Q15 นี้ และราคาหุ้นปัจจุบันซื้อ-ขายบน PE เพียง 12.6x (เทียบกับกลุ่มที่ 20x) ยังคงเป็นระดับราคาที่ถูกในการเข้าซื้อ

หุ้นมีข่าว
(+) THCOM กำไรออกมาดีกว่าคาด THCOM reported a Bt425m net profit for 4Q14, up 48% YoY and 52% QoQ. Excluding a Bt23m FX loss in 4Q14, core profit would be Bt448m, up 27% YoY but down 4% QoQ. Net profit exceeded our estimate by 33%, on lower-than-assumed FX loss. Core profit beat our model by 12% due to the slightly higher revenue and service costs and tax expenses lower than our assumptions.
(+) PACE เปิดจองโครงการใหญ่หัวหิน สำหรับกลุ่มลูกค้า VIP และเปิดตัวโครงการใหม่ แถวหลังสวน สุดสัปดาห์นี้
(*) นายกฯสั่งอุตสาหกรรมศึกษาแนวทางตั้งอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
(+) IRPC มอร์แกนสแตนเลย์ Upgrade เป็น overweight (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) EA ข่าว BOI อนุมัติส่งเสริมการลงทุนพลังงานลม 8 โครงการ 448.5MW พร้อมศึกษาลงทุน วินเอนเนอยี่ (WEH)
(-) PTT PTTEP กลุ่มค้านเปิดสัมปทานฯยื่นนายก ชะลอเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21
(+) Opportunity day ผู้บริหาร บจ.พบนักลงทุน วันจันทร์ 23 กพ. SNC SMPC IVL L&E AMATA FSMART FPI อังคาร 24 กพ. LHK GC KTC CSL THCOM JMART JMT / พุธ 25 กพ. PTTGC ADVANC INTUCH / พฤหัส 26 กพ. BANPU TOP TRT BCP SPCG IRPC (ตาราง ณ.วันที่ 12 กพ. อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(0) เมื่อวาน US retail sales (มค) -0.8% แย่กว่าคาดที่ -0.4% จาก -0.9% m-m, ธ.กลางฟิลิปปินส์ คงดอกเบี้ย 4% ตามคาด
(+) เมื่อวาน มาเลเซีย GDP 1Q14 +5.8% ดีเกินคาดที่ +5% จาก 5.6% y-y
(0) ศุกร์ US Import price (มค.) คาด -3.2% จาก -2.5% m-m, กรีซเลือกตั้ง ปธน.
(+) นายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่าการเจรจาระหว่างกรีซและประเทศเจ้าหนี้จะสามารถหาทางออกร่วมกันได้ รวมทั้งข่าวทีว่าธนาคารกลางกรีซแถลงเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินในกองทุนฉุกเฉินช่วยเหลือทางการเงินต่อภาคธนาคารของกรีซอีก 5 พันล้านยูโร สู่ระดับ 6.5 หมื่นล้านยูโร โดยการขยายวงเงินดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์จนถึงวันที่ 18 ก.พ.
(+) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียและผู้นำจากฝรั่งเศส เยอรมนี และยูเครน ได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว รวมถึงการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ของยูเครนและการหยุดยิง โดยการหยุดยิงนั้นจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.นี้

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ปัดฝุ่นไฮสปีดเทรน-เลียนชินคันเซน'บิ๊กตู่'ไฟเขียวให้เอกชนลงทุน-เน้นไปเมืองท่องเที่ยว
รัฐบาลปัดฝุ่น "ไฮสปีดเทรน" ดึงเอกชนร่วมลงทุนเดินรถ ชี้เป็นคนละส่วนกับโครงการรัฐบาล เน้นเส้นทางกรุงเทพฯ-เมืองท่องเที่ยวต่างๆ เล็งเป้าสายกรุงเทพฯ-พัทยา มีความเป็นไปได้มากที่สุด ชี้ให้เอกชนทำได้ไม่มีปัญหาเหมือนกับชินคันเซนของญี่ปุ่น (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)

เทแสนล.แก้จน คสช.สั่งแบงก์รัฐเดินหน้าลดเหลื่อมล้ำ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอุ้มรากหญ้า
แบงก์รัฐผนึกกำลังอัดสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากแสนล้านบาท ชงมาตรการเสนอ คสช. แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ก.พ.นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชนเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

ถกกรีซเหลวไม่ได้ข้อสรุปเงินเอเชียร่วง
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน 19 ชาติ ต่อปัญหาวิกฤตหนี้กรีซไม่สามารถหาข้อยุติกันได้หลังถกเครียดกันนาน 6 ชั่วโมง ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม โดย ที่ประชุมได้เลื่อนการตัดสินใจไปในสัปดาห์หน้าว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรกับความช่วยเหลือก้อน ต่อไปของกรีซหลังจากที่เงินช่วยเหลือก้อนปัจจุบันจะหมดอายุลงในปลายเดือน ก.พ.นี้ และกรีซจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือก้อน ต่อไปมูลค่า 7,000 ล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้เสีย (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

ดันเอกชนทำแอร์พอร์ตลิงก์ รฟท.ชี้ลดขั้นตอนอนุมัติสกัดหนี้เพิ่ม ช่วยแก้สารพัดปัญหา-แถมคล่องตัว
พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดเผยว่า ควรเปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามาเป็นผู้เดินรถเพื่อให้การให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มีประสิทธิภาพเพราะมีความคล่องตัวมากกว่า สามารถจัดหาขบวนรถใหม่และอุปกรณ์อะไหล่ต่างๆ ให้เพียงพอได้อย่างรวดเร็วเพราะดำเนินการได้ทันที ในขณะที่การดำเนินงานของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จะต้องเข้าสู่การพิจารณาหลายขั้นตอน และต้องนำเรื่องเสนอไปยัง รฟท.พิจารณาอนุมัติด้วย จึงส่งผลให้การดำเนินการต่างๆ ล่าช้า (หนังสือพิมพ์มติชน)

นักวิชาการแนะรบ.จัด'วาระชาติ'ดูแลรักษาระบบรางคู่งานก่อสร้าง
นายประมวล สุธีจารุวัฒน อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตรองผู้อำนวยการสถาบันขนส่ง เปิดเผยถึงโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมามีการนำเสนอเฉพาะข้อมูลการดำเนินโครงการ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่ใช้จากเดิมเป็น 2 ล้านล้านบาท มาเป็น 2.4 ล้านล้านบาท และภายหลังได้ขึ้นมาอยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท แต่ยังไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องการดูแลรักษาภายหลังก่อสร้างเสร็จแล้ว ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากดูแลรักษาไม่มีประสิทธิภาพก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้ เช่น กรณีของรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงก์ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เดินรถเอง ซึ่งมีปัญหาตามมามากมาย โดยเฉพาะเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ชิ้นต่างๆ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง จนเกิดความล่าช้าและมีปัญหาขึ้น (หนังสือพิมพ์มติชน)

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

รายงานวันนี้
หุ้น: TOP คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 50.00
TOP รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 4/57 จำนวนมากที่ 6,479 ล้านบาท ตรงคามคาดการณ์ของเราและตลาด แต่รายงานกำไรหลักที่ 2,102 ล้านบาทเทียบกับขาดทุนหลัก 845 ล้านบาทในไตรมาสก่อน ซึ่งตรงตามที่เราคาดเช่นกัน
ประเด็นหลักสำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/57 ได้แก่ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน และ LCM รวม 12,252 ล้านบาท รวมถึงส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์ที่ลดลงซึ่งเป็นปัจจัยที่ถ่วงต่อค่าการกลั่นรวมเฉลี่ยจากการดำเนินงาน
บริษัทอาจพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิในไตรมาส 1/58 ได้ หากราคาน้ำมันดิบดูไบยังทรงตัวที่ 54 เหรียญต่อบาร์เรลได้จนถึงสิ้นเดือนมี.ค. แต่เรามีมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทเนื่องจากค่าการกลั่นรวมเฉลี่ยจากการดำเนินงานจะอ่อนตัวลง อีกทั้งยังมีปัจจัยลบอื่นๆ เช่น อะโรเมติกส์ที่ยังซบเซา ลูปเบสมาร์จิ้นลดลงอย่างมากจากไตรมาส 4/57 การเข้าสู่ช่วง low season ของความต้องการน้ำมันสำเร็จรูป และ การลดกำลังการผลิตทั้งในส่วนอะโรเมติกส์และโรงกลั่น
เรามีมุมมองเชิงลบต่อ TOP ในระยะสั้นเนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนซึ่งเป็นผลจากผลประโยชน์จากพรีเมี่ยมบนราคาน้ำมันดิบที่ลดลง อีกทั้งราคายังได้สะท้อนค่าการกลั่นช่วงฤดูกาลไปแล้ว
นักวิเคราะห์: ธนัทเทพ จันทรกานต์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: LPN คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 27.00
LPN รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 (ไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2557) ที่ 743 ล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 34% YoY และ 32% QoQ ตรงตามคาดการณ์ของเราและตลาด ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 2557 อยู่ที่ 2 พันล้านบาท ลดลง 13%
กำไรสุทธิที่เติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 4/57 มีปัจจัยหนุนจากรายได้ที่ขยายตัวและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น
คาดบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/58 เติบโต YoY หนุนจากรายได้และอัตรากำไรสุทธิที่มากขึ้น แต่เราคิดว่ากำไรสุทธิไตรมาสดังกล่าวคาดจะหดตัว QoQ ตามปกติ
เรายังคงมองว่ากำไรของ LPN ในปี 2558 จะเติบโตโดดเด่นที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่เราให้คำแนะนำ พร้อมกับมีความชัดเจนของรายได้มากที่สุด
LPN เป็นหุ้นที่เราชื่นชอบที่สุดในกลุ่มจากกำไรปี 2558 ที่เติบโตแข็งแกร่งมากที่สุดและยังมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่สูง

นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: BIGC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 270.00
BIGC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 ที่ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 60% QoQ ต่ำกว่าประมาณการของเรา 7%
ยอดขายเติบโต 3% YoY เป็น 31,800 ล้านบาทใมนไตรมาส 4/57 ยอดขายสาขาเดิมกลับมาเติบโต 0.5%
กำไรไตรมาส 1/58 คาดอ่อนตัวลง QoQ จากช่วงฤดูกาล แต่คาดจะเติบโต 20% YoY
เรายังคงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลง
คาดกำไรของ BIGC จะเติบโตโดดเด่นกว่าคู่แข่งในไตรมาส 1/58-3/58

นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: BTS คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 11.50

กำไรหลักของ BTS ไตรมาส 4/57 (ม.ค.-มี.ค. 58) มีแนวโน้มอ่อนตัวลง YoY และ QoQ จากรายได้ธุรกิจอสังหาฯที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มากขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจสื่อที่น้อยลง แต่คาดกำไรสุทธิเติบโตจากกำไรพิเศษ
ผู้บริหารยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายสายโครงการขนส่งมวลชน โดยคาดจะชนะประมูลในหลายโครงการ
นอกจากธุรกิจอสังหาฯซึ่ง BTS ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นแล้ว การขยายสาขาร้านอาหาร Chef Man และโครงการ AEON Rabbit Member Card จะยังจะเป็นอัพไซด์ต่อกำไรของบริษัทในระยะยาวอีกด้วย
เราเชื่อว่าคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/57 ที่เติบโตแข็งแกร่งและความคาดหวังต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้อีก

นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: BBL คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 232.00
BBL ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2558 เติบโตปานกลางที่ 3-5% (เราคาด 5%) หนุนโดยสินเชื่อ SME และสินเชื่อต่างประเทศหลังเติบโต 1.7% ในปี 2557
การเปิด AEC จะช่วยหนุนภาคการบริโภคและการใช้จ่ายด้านโครงสร้าพื้นฐานทั่วภูมิภาคในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาวให้แก่ธนาคารได้อีก 2-3 ปี
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียมปี 2558 เติบโต 6-8% หลังเติบโต 2.4% ในปีก่อน และตั้งสมมติฐานส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ที่ 2.3-2.4% เทียบกับ 2.37% ในปี 2557 (เราคาด 2.34%)
นอกจากนี้ ธนาคารตั้งเป้าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายรับปี 2558 ลดลงจาก 47% ในปีก่อนเป็น 44-45% ในปีนี้ (เราคาด 46%)
ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยหนุนให้สินเชื่อของธนาคารมีอัพไซด์ในการเติบโตหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เราแนะนำ ซื้อ

นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: SF คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 10.60
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท และมองว่าราคาหุ้นสามารถขึ้นต่อได้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงาน 4Q14 ที่ออกมาเติบโตสูง (+87%YoY, +34%QoQ) และมากกว่าที่เราคาดไว้ถึง 12% อีกทั้งยังมีหุ้นปันผลที่จะจ่ายมากกว่าเราและตลาดคาดการ โดยจ่ายในอัตรา 5:1 มากกว่าคาดที่ 8:1
คาดหุ้นปันผลครั้งนี้จะสามารถหนุน wealth ผู้ถือหุ้นให้เพิ่มได้ 20% อิงจากอดีตที่ราคาหุ้นสามารถกลับขึ้นไปบนระดับราคาก่อน XD ได้
สำหรับปี 2015 เราคงประมาณการกำไรที่ 897 ล้านบาท เติบโต 28% และมีแนวโน้มปรับขึ้นจากกำไร 4Q14 ที่ออกมาสูงกว่าคาด
นอกจากนี้ประมาณการของเรายังไม่ได้รวมถึงกำไรจากการขายที่ดินบางใหญ่ คาดราว 300-400 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในช่วง 2Q-3Q15 นี้ และราคาหุ้นปัจจุบันซื้อ-ขายบน PE เพียง 12.6x (เทียบกับกลุ่มที่ 20x) ซึ่งยังคงเป็นระดับราคาที่ถูกในการเข้าซื้อ

นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!