- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 February 2015 16:22
- Hits: 1853
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +8.29 จุด แรงเก็งกำไรหุ้นรายตัว (งบ-ปันผลดี)
SET แกว่งทั้งแดนบวกและลบในกรอบแคบ 1598-1613 แต่กรอบแกว่งขยับขึ้นจากวันก่อนหน้า มีแรงซื้อหุ้นเป็นรายตัว เก็งงบ Q4 และคาดหวังเงินปันผล อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลการเจรจาหนี้กรีซอยู่ หลังยังไม่คืบหน้า ต้องเจรจาใหม่ 16 ก.พ.นี้ ด้านเงินทุนตปท.เริ่มไหลเข้าระลอกใหม่ โดยต่างชาติซื้อสุทธิต่อเป็นวันที่สอง 1.8 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : ซิกแซกขึ้นทดสอบไฮต้นเดือนนี้ที่ 1619-20 (ลุ้น! ผ่าน)
หุ้นโลกเมื่อคืน (12 ก.พ.) ปรับขึ้นกันถ้วนหน้า จากบรรยากาศการลงทุนในเชิงบวก (1) ยูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ทำให้แนวโน้มการลงโทษรัสเซียของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป น่าจะผ่อนคลายลงในอนาคต รวมทั้งยูเครนจะได้รับเงินช่วยเหลือจาก IMF จำนวน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในช่วง 4 ปีข้างหน้า เพื่อพยุงศก.ที่อ่อนแอลงจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อข้ามปี (2) ทั้งกรีซและเยอรมันส่งสัญญาณพร้อมจะประนีประนอมในการเจรจาผ่อนคลายเงื่อนไขเงินกู้แก่กรีซ ด้านตัวเลขศก.สหรัฐฯ เมื่อคืนออกมาแย่กว่าคาด แต่อาจช่วยให้ความกังวลการขึ้นอัตราดบ.เร็วของผ่อนคลายลง ด้านน้ำมัน WTI รีบาวด์ +2.37$ มาที่ 51.21$/bbl มอง SET ซิกแซกขึ้น จากบรรยากาศเชิงบวกของหุ้นตปท. รวมทั้งเงินทุนตปท.ที่มีแนวโน้มไหลเข้าระลอกใหม่ แนวต้าน คือ ไฮต้นเดือนนี้ที่1619-20 ซึ่งเราให้น้ำหนักมีโอกาสทำนิวไฮ ระหว่างแกว่งจากแรงขายทำกำไร แนวรับ 1600+/- อนึ่ง คาดหุ้น ACAP, AJD, AJD-W1, AJD-W2, BRR, CHOW, FPI, NBC, NBC-W1, PDI, RCI, RCI-W1, SIAM, STAR, STAR-W2, TAKUNI, TH, TH-W1, TSR, WIIK ติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ถือ Let Profits Run / ทยอยสะสมเพิ่ม
เรามองบรรยากาศการลงทุนช่วงครึ่งเดือนหลัง มีแนวโน้มเงียบเหงา จาก (1) เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวตรุษจีนของตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคนี้ (2) ความไม่แน่นอนของการเจรจาหนี้ของกรีซ (3) รอติดตามการหารือระหว่างปธ. FED และสภาคองเกรสเกี่ยวกับแนวโน้มศก.และทิศทางนโยบายการเงินใน 24-25 ก.พ. นี้ ว่าจะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดบ.เร็วหรือไม่ อย่างไรก็ดีเรามองปัญหาหนี้กรีซเป็นเพียงปัจจัยรบกวนระยะสั้น ขณะที่เรามองการประชุม FED-สภาคองเกรส ปธ.FED ไม่น่าผลีผลามเร่งส่งสัญญาณขึ้นดบ.เร็ว เพราะอย่างเร็วที่สุดที่ FED จะปรับขึ้น คือ การประชุมเดือน มิ.ย. ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 4 เดือนเต็มในการพิจาณาข้อมูลทางศก.ให้ถี่ถ้วน นอกจากนี้ ยังมีการประชุมอีก 2 ครั้ง (17-18 มี.ค. และ 28-29 เม.ย.) น่าจะเพียงพอต่อการส่งสัญญาณขึ้นดบ. ด้วยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อกระแสเงินทุนตปท.ไหลเข้า หลัง ECB ทำ QE และผลกระทบด้านฤดูกาลที่หลังผ่านช่วงตรุษจีนไปแล้ว ตลาดหุ้นไทยมักปรับขึ้นเฉลี่ย +2.7% และ +5.6% ในช่วง 2 สัปดาห์ และ 1 เดือนหลังวันตรุษจีน เรายังคงเป้า SET ก.พ. ขึ้นทดสอบ 1650+/- อย่างไรก็ดี เพื่อความรอบคอบ หากตลาดกังวลมากกับ FED ขึ้นอัตราดบ.เร็วในปีนี้ จนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นสูงกว่าระดับ 2.1% ขึ้นไป ภาพการลงทุนจะเปลี่ยน โดยหาก SET ไหลลงจนหลุดระดับ 1570 ซึ่งเราถือเป็นจุดถอยให้ทยอยขายหยุดขาดทุน (Stop Loss) เลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว (Selective Buy) / Let Profits Run
หุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการ 4Q14F ออกมาดีและราคายังมี upside หุ้นแนะนำ คือ กลุ่มสื่อสาร - JAS, INTUCH, THCOM กลุ่มอสังหาฯ – AMATA, PACE, RML, SC อื่น ๆ – ASK, DEMCO, MAJOR, MALEE, SUTHA ส่วน ตลาด mai – BKD, PCA, XO
หุ้นปันผลดีงวดนี้ (คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าระดับ 3% ขึ้นไป โดยเรียงลำดับจาก Div. Yield มากไปหาน้อย) KGI, CSP, MBAX, MFEC, TWS, CPI, STPI, TICON, RML, ASK, SRICHA, SENA, ASP, KTB, SITHAI, AP, SIRI
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
13 ก.พ. EU ตัวเลข GDP (SA) ของสหภาพยุโรปในไตรมาส 4/57
US ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U. of Michigan Conf.) ของสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. (เบื้องต้น)
16 ก.พ. JP ตัวเลขผลผลิตภาคอุตฯ-อัตราการใช้กำลังการผลิตของญี่ปุ่นใน ธ.ค., GDPของญี่ปุ่นใน 4Q14
TH ตัวเลข GDP ของไทยใน4Q14
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537 02-633-6471 : [email protected]