- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 February 2015 16:18
- Hits: 1534
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
มุมมองในทางเทคนิค
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีฯ เปิดตลาดที่ 1606.06 จุด จากนั้นก็ปรับตัวลดลงไปซื้อขายในแดนลบเกือบทั้งวัน เป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกับหลายๆวันที่ผ่านมา โดยสามารถดีดตัวขึ้นมาปิดบวกได้สำเร็จ และเป็นการปิดที่ระดับสูงสุดของวัน ที่ระดับ 1613.40 จุด ด้วย โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการเหวี่ยงตัวมาก คือ PTT ที่ซื้อขายในแดนลบมาตลอดวัน แต่กลับขึ้นมาปิดในแดนบวก
ดัชนีฯ ปิดตลาดที่ 1613.40 จุด สูงขึ้น 8.29 จุด หรือ 0.52%
คาดการณ์ตลาดวันนี้
ดัชนีฯ ระหว่างวันอาจไม่สวยนัก แต่สามารถขึ้นมาปิดบวกได้ และผ่านแนวต้านที่ 1610 ขึ้นมาได้ ประเมินว่าดัชนีฯ ในตอนนี้ ยังไม่เสถียรเท่าที่ควร คือพร้อมจะขึ้นและพร้อมจะลงได้ตลอดเวลา
วันนี้ คาดดัชนีฯ จะขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1619 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเมื่อสัปดาห์ก่อน
คำแนะนำในวันนี้ หากดัชนีฯ เดินหน้าต่อ ยังแนะนำให้ถือหุ้นไว้ก่อน และถ้าขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1619 จุดไม่ผ่านอาจเลือกขายทำกำไรช่วงสั้นก่อน
กลยุทธ์ : “ ขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 1619 ”
Support 1610 ,1600, 1583 , 1575 ,1570 จุด Resistance 1619 , 1630 , 1667 จุด
สุทธิวิทย์ เทศนาบุญ
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical Investment Analyst
เลขทะเบียน : 028533
Tel 02- 6481129 Email: [email protected],th
มงคล พ่วงเภตรา
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ทางเทคนิค
Tel 02- 6481123 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 ก.พ.) - SET Index ปิดที่ 1,613.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.29 จุด หรือ 0.52% มูลค่าการซื้อขาย 54,413.52 ล้านบาท นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว แต่มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่หลายๆตัวกดดัชนีฯ ให้อยู่ในแดนลบเกือบทั้งวัน แต่ช่วงบ่าย ข่าวที่ประชุมผู้นำ 4 ประเทศยุโรป ร่วมกันแก้วิกฤติยูเครนได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพ น่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นกลับในช่วงท้ายตลาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป มีปัจจัยร่วมกันคือ การบรรลุข้อตกลงสันติภาพของยูเครนและนายกรัฐมนตรีของกรีซออกมายืนยันว่ากรีซและเจ้าหนี้จะหาทางออกที่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายได้ ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น มีปัจจัยเฉพาะตัว คือข่าวบวกในเรื่องผลประกอบการแต่ตัวเลขยอดค้าปลีกและตัวเลขเคลมการว่างงานออกมาเป็นลบ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นทั้งสองโซนนั้น ดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปิดในแดนบวก ซึ่งจะเป็นบวกมาถึงตลาดหุ้นเอเซียในวันนี้ด้วย
ราคาน้ำมันดิบ WTI (Mar) - ปิดตลาดที่ $51.21 เหรียญ/บาร์เรล สูงขึ้น 2.37 เหรียญ ราคาน้ำมันเป็นบวกจาก 2 ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ปรับลดกำลังผลิตและงบลงทุนลง
พลังงานทดแทน , สายการบิน - บีโอไอ ไฟเขียว 23โครงการ มูลค่า 7.7 หมื่นล้านบาท มีหลายธุรกิจที่ขอส่งเสริมการลงทุน อาทิเช่น โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน (EA, KTIS) และกิจการขนส่งทางอากาศ (NOK)
กลุ่มธนาคาร - ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 57 ที่ผ่านมาเติบโตได้ 5% ชะลอตัวลงจากในปี 56 ที่เติบโตได้ 11% .....และคาดว่า ในปีนี้สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์จะเติบโตได้ 7% ซึ่งถือว่าดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา
ทิศทางตลาดหุ้นไทย คาดแรงหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่เป็นบวกจากเรื่องของยูเครน จะส่งผลบวกมาถึงตลาดหุ้นเช้านี้ด้วย ซึ่งจะทำให้มีแรงซื้อต่อเนื่องจากวันก่อน ขณะที่ การรายงานผลประกอบการและเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน ยังมีผลต่อหุ้นเป็นรายตัว เช่นเดียวกับวันที่ผ่านมา
กลยุทธ์การลงทุน การเข้าลงทุนในวันนี้ เป็นวันสุดท้ายที่ตลาดยังไม่ทิ้งความกังวลในเรื่องทางออกในการแก้ปัญหาของกรีซ ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันจันทร์(16 ก.พ.) คาดตลาดจะมีความผันผวน นักลงทุนส่วนใหญ่จะลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ (ยกเว้นหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัว) โดยความสนใจของนักลงทุนในวันนี้ เราคาดว่า จะไปที่หุ้นขนาดใหญ่บางตัว (PTT , KBANK, BBL,TMB) และหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ได้มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมทั้งเรื่องของผลประกอบการที่กำลังทยอยออกมา (INTUCH ,THCOM , LH , QH, SIRI ,LPN, BH , BGH, IVL, CPN, TUF)
Stock in Focus
DELTA -: (ราคาปิด 71.00 บาท; ราคาเป้าหมายโดย KTBST 68.60 บาท) …หลังรายงานผลการดำเนินงานปี '57 ที่มีกำไร 6.1 พันลบ. ขยายตัว 11.3% บริษัทฯ เผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้และกำไรในปี '58 จะทำจุดสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน (สอดคล้องกับ KTBST ที่ประมาณการว่ากำไรปี '58 จะโต 9.4%) เนื่องจากบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่อัตรากำไรสูงซึ่งจะทำให้ margin โดยรวมของบริษัทสูงขึ้น …… นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อธุรกิจผลิต พาวเวอร์ ซัพพลาย อันดับ 2 ของโลก ของยุโรป เชื่อว่าธุรกิจนี้จะช่วยให้บริษัทขยายตลาดได้มากขึ้น ... เรามองว่า อดีตที่ผ่านมา DELTA นั้นมีผลการดำเนินงานที่ดีมาต่อเนื่อง การเติบโตของกำไร เฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา ('55-'57) เฉลี่ยสูงถึง 13.6% ต่อปี แม้ ปี '58 เรามองว่าโตไม่มากเพราะกว่าเศรษฐกิจโลกนั้นกว่าจะฟื้นตัวคงเป็นครึ่งปีหลัง แต่ตั้งแต่ปี '59 เป็นต้นไป ผลจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์และการซื้อธุรกิจใหม่ จะทำให้ผลการดำเนินงานในปีถัดๆไปนั้น จะมีการเติบโตดังเช่นอดีตที่ผ่านมา
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123
และทีมวิเคราะห์