- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 February 2015 16:07
- Hits: 1426
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Friday 13th
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งระหว่าง 1,600-1,610 จุด โดยในช่วงบ่ายข่าวธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มอีก 1.60 แสนล้านหยวน และประธานาธิบดีปูตินบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน เริ่มวันที่ 15 ก.พ. ช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกในช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้ SET INDEX ปิดบวกเด่นถึง 8.29 จุด มาอยู่ที่ 1,613.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,414 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาท คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 เพียง 248 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้า แม้ว่าจะคงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,347 ล้านบาทก็ตาม
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มอีก 1.60 แสนล้านหยวนวานนี้
•รัสเซียลงนามหยุดยิงกับยูเครน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ขณะที่ IMF มีมติให้เงินช่วยเหลือ US$4.0 หมื่นล้านแก่ยูเครน เพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนเกิดผิดนัดชำระหนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
•GDP ใน 4Q57 ของไทยประกาศเช้าวันที่ 16 ก.พ. ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด 2.5% qoq และ 2.4% yoy ทั้งปี 2557 เศรษฐกิจเติบโตเพียง 0.8%
•ความคืบหน้าการเจรจาระหว่าง กรีซ และ รมว.คลัง ของกลุ่มอียูในวันที่ 16 ก.พ. หากมีพัฒนาการในเชิงบวก ย่อมสร้างบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกให้กลับมาเป็นกลางถึงบวกได้
•การประชุม BoJ วันที่ 18 ก.พ. เพื่อติดตามทิศทางนโยบายการเงินของ BoJ จะผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
•รายงานการประชุมเฟดวันที่ 27-28 ม.ค. เผยแพร่วันที่ 19 ก.พ. เน้นมุมมองต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเฟดในการประวิงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ได้
•และเทศกาลวันตรุษจีน วันที่ 19 ก.พ. หลายตลาดหุ้นในเอเชียปิดทำการตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 14 SET INDEX มีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,620 จุด ผลักดันด้วยกระแสเงินทุนต่างชาติที่เริ่มสะสมหุ้นไทยมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธนาคาร / ICT ที่มีจุดเด่นเรื่องผลตอบแทนจากเงินปันผล
ขณะที่ปัจจัยเด่นในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับตัวเลข GDP ใน 4Q57 ของไทย ประกาศเช้าวันจันทร์ หากออกมาดีกว่าคาด จะกลายเป็นการตอกย้ำถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย ภายใต้อัตราเงินเฟ้อต่ำ ย่อมเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเชิงปัจจัยพื้นฐาน
ขณะที่ประเด็นกรีซ ที่จะมีการเจรจารอบใหม่ในวันที่ 16 ก.พ. อาจยังไม่มีความคืบหน้าในแง่ของแผนการช่วยเหลือ เพราะยังเหลือเวลาการเจรจาไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. แต่อาจมีสัญญาณบวกทั้งจากเจ้าหนี้ คือ ECB / EU และลูกหนี้อย่างกรีซ เราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะมีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงเป็นลำดับ เพราะตลาดรับรู้ประเด็นนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
สำหรับภาพตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือจนถึงสิ้นเดือนก.พ. เราประเมิน SET INDEX แกว่งในกรอบระหว่าง 1,590-1,620 จุด ทั้งนี้ SET INDEX มีโอกาสทะลุแนว 1,620 จุดได้ ขึ้นอยู่กับกระแสเงินทุนต่างชาติในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่ ECB จะเริ่มโครงการ QE ในเดือนมี.ค.
ตลาด Nikkei เช้านี้ (7.27 น.) เปิดลบ เล็กน้อย จากแรงกดดันของค่าเงินเยนที่แข็งค่า ขณะที่ Kospi เปิดบวกเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนถือหุ้นที่แนะนำให้เข้าสะสม/ เก็งกำไร เพื่อรอขายทำกำไรหากราคาหุ้นเป้าหมายขยับขึ้น 5.0% หรือสูงกว่า หรืออาจใช้ SET INDEX บริเวณ 1,620 จุด +/- เป็นเกณฑ์ตัดสินใจอีกระดับหนึ่งเช่นกัน”
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: KTB
Speculative Buy: BANPU
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.KTB : ราคาปิด 23.40 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คงมุมมองเชิงบวก และเชื่อหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้ประโยชน์โดยตรงจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องในช่วงที่เหลือเดือน ก.พ. เพื่อปรับพอร์ตลงทุนก่อน ECB จะอัดฉีดเม็ดเงิน QE เข้าสู่ตลาดเงินตั้งแต่เดือน มี.ค.2558 เป็นต้นไป
b)ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เนื่องจากจ่ายเงินปันผลปีละ1 ครั้ง โดยคาดว่าจะประกาศเงินปันผลปี 2557 หุ้นละ 0.90 บาทในช่วงปลายเดือน ก.พ. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3.8%
c)คาดสินเชื่อปี 2558 เติบโต +8% yoy จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันให้สินเชื่อรายย่อย และ SME ขยายตัว นอกจากนั้น KTB ยังได้ประโยชน์โดยตรงจากการปล่อยกู้สินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในปีนี้
d)Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงที่ 127% สิ้นสุด 4Q57 จาก 108% ใน 3Q57 จากการตั้งสำรองพิเศษจำนวนมากในปี 2557 ที่ผ่านมา ดังนั้น คาดว่าการตั้งสำรองในปีนี้จะลดลง yoy และหากสภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าคาด อาจส่งผลให้การตั้งสำรองต่ำกว่าประมาณการของเรา และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาดได้เช่นกัน
e)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +9.2% yoy เป็น 3.62 หมื่นล้านบาท และซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.27x เทียบกับ BAY 2.82x, KBANK 1.83x, SCB 1.89x และ TMB 1.9x
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.BANPU : ราคาปิด 27.50 บาท ราคาเหมาะสม 30.00 บาท
a)MBKET ประเมินว่าราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินมี Momentum เชิงบวก เพื่อ Trading ได้ ในทิศทางเดียวกับราคาถ่านหิน BJI ที่ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันอีก US$2.50/ ตัน เป็น US$69.95/ตัน และเพิ่มขึ้นถึง +14.8% ใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
b)ราคาหุ้น BANPU ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา YTD ปรับตัวขึ้น +10.4% ยังช้ากว่าบริษัทลูกคือ ITMG ในตลาดอินโดนีเซียที่ปรับตัวขึ้น +13.2%
c)เชื่อว่ามี Downside ที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 0.95 เท่า ต่ำกว่าหุ้นกลุ่มพลังงานซื้อขาย PBV 2558 เฉลี่ยราว 1.5 เท่า
d) และโครงสร้างธุรกิจตั้งแต่ปี 2558 จะมีความผันผวนของกำไรที่ลดลง เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเร่งตัวขึ้น จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าหงสาใน 2H58 และรับรู้เต็มปีตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป
f)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.0% yoy เป็น 2.9 พันล้านบาท และ +75.1% yoy เป็น 5.1 พันล้านบาท ในปี 2559
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิอีก US$347 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$339 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 265.4 247.8 3,777.0 13,190.4 9,188.0
KOSPI -75.9 n.a -855.7 6,165.50 4,875.1
JSE 73.3 47.6 385.1 3,750.60 -1,806.4
PSE 22.4 20.5 783.6 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 6.4 6.2 28.6 135.6 263.2
SET INDEX 55.1 17.1 112.2 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อหุ้นในตลาด Spot หนาแน่น
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +1,800 +559
SET50 Index Futures (สัญญา) -248 -1,108
SSF (สัญญา) -142 -1,944
Metal Futures (สัญญา) +180 -9
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -1,347 -1,268
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,359 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 3,563 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 248 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 1,356 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 5,585 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้าต่อเนื่อง กดดันให้ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงอีกเหลือเพียง 2.10 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 4.41 จุด สะท้อนปัจจัยพื้นฐานของ S50H15 ที่ไม่มีเงินปันผล
ดังนั้นนักลงทุนต่างชาติ น่าจะปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures เพื่อทำกำไร และนำเงินที่ได้ไปลงทุนในหุ้นรายตัว ที่ยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน หรือหุ้นปันผล แทน
ขณะที่ นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,347 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 2,615 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,440 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 7 มากถึง 3.34bps ปิดที่ 2.697%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับเป็น 694 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 579 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 181.19 8.34% 353.74
KBANK 66.34 5.22% 225.57
DTAC 62.93 10.35% 93.35
ADVANC 32.20 3.10% 245.04
SCC 27.76 2.99% 499.27
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 เน้นกลุ่ม ICT อย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 2,215 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,321 ล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิ 10,010 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 1,181 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 488 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 485 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 539 ล้านบาท กลุ่มอาหารซื้อสุทธิ 384 ล้านบาท และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 111 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มขนส่ง ถูกขายสุทธิสูงสุด 110 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม HOME ขายสุทธิ 49 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
INTUCH 1,146.56 42.02 KBANK -253.43 32.08
BBL 457.28 42.70 AOT -233.17 34.09
TUF 309.91 12.42 SAMART -76.86 16.01
KTB 236.52 16.94 IRPC -74.02 4.88
BTS 124.25 11.34 PTT -71.76 10.09
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong