- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 February 2015 15:31
- Hits: 1249
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “กลับมายืนเหนือ 1,600”
SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการเคลื่อนไหวผันผวนระหว่างวันจากความไม่แน่นอนของการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ พร้อมแรงกดดันจากราคาน้ำมัน แต่ด้วยแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มสื่อสาร อสังหา ทำให้ดัชนีกลับมาในแดนบวก โดย SET ปิดที่ 1,605.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.15 จุด (0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดเริ่มคาดหมายว่าคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) อาจจะยื่นข้อเสนอประนีประนอมในการประชุม โดยจะมีการขยายเวลาการชำระหนี้ของกรีซออกไปอีก 6 เดือน
(+) IMF ระบุการเจรจาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครนมีความคืบหน้า ก่อนการแถลงการณ์ในวันนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ท่ามกลางการสู้รบอย่างหนักในภาคตะวันออก ซึ่งได้คร่าชีวิตประชาชนจำนวนมาก
(+) บอร์ด PPP เห็นชอบจัดกลุ่มโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 3 ระดับ สร้างความคล่องตัวในการลงทุนของรัฐในอนาคต ก่อนนำเสนอครม. เมษายน นี้
(-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลง หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
(-) ความผันผวนของการส่งออกยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักในการกดดันการขยายตัวของ GDP ในปี 58 ให้ต่ำกว่าเป้าที่ 4% หลัง BOT ยังคงย้ำว่ายังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษเพิ่มเติม
(+/-) การเจรจาระหว่าง นายยานิส วารูเฟกิส รัฐมนตรีคลังของกรีซและบรรดารัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนเมื่อคืนนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปต่อการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซแต่อย่างใด ก่อนที่มาตรการช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซฉบับปัจจุบันของสหภาพยุโรป (EU) จะหมดอายุลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* Earning Season ของการทยอยรายงานผลประกอบการ
* ความคืบหน้าการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซในการเจรจาสุดยอดผู้นำยุโรป วันพฤหัสบดี ก่อนการประชุมรมว คลังอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
* การรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของไทยในสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุน “แกว่งตัว”
คาดหมายการเคลื่อนไหวในกรอบแคบของดัขนีในวันนี้ ท่ามกลางความผันผวนของการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซที่ยังไม่คืบหน้า แม้ว่าจะมีสัญญาณบวกมากขึ้นจากการคาดหมายการออกแผนในระยะสั้นเพื่อยืดเวลาเจรจาออกไป เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงมาอีกครั้ง ด้านในประเทศ การลงทุนของรัฐยังคงเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ เน้นการลงทุนในหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มไตรมาส 4 ในระดับดี และปันผลที่น่าพอใจ
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AMATA ซื้อเก็งกำไร
* แนวโน้มไตรมาส 4 อยู่ในระดับดี จากการโอนที่ดินจำนวนมาก โดยมีกว่า 400 ไร่ในอมตะนครซึ่งเป็นนิคมที่มี Margin ดี
* รอปัจจัยบวกในส่วนของการขายสินทรัพย์เข้า REIT ในช่วงไตรมาส 1 และ นำ AMATA เวียดนาม บริษัทย่อยที่ AMATA ถือหุ้นอยู่ 88% เข้าจดทะเบียนในตลาดในไตรมาส 2
SIRI ซื้อเก็งกำไร
* แนวโน้มไตรมาส 4 อยู่ในระดับดี จากการรับรู้งาน Condo ในมือที่มีอยู่ในระดับสูง
* คาดหมายการขยายตัวในปี 58 จากปริมาณ Backlog กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท บนยอด Pre Sales ในปีนี้อีก 3 หมื่นล้านบาท คาดหมายการจ่ายปันผลระดับ Dividend Yield ราว 4%
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ
