WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

คาด SET จะเริ่มทรงตัวได้และมีลุ้นดีดขึ้น ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือ!

  กลยุทธ์ : คาด SET เริ่มมีลุ้นแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น ซึ่ง FSS คาดว่ากรอบลบไม่ลึกและยังลุ้นกลับไปแกว่งบวกต่อเนื่องได้ตามคาด ดังนั้นซื้อลบแล้วยังเน้นถือ
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : TUF, TSE, EGCO(buy back)
  แนวโน้ม : SET วานนี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยเฉพาะภาคบ่ายที่ปรับตัวลงแรงกว่า 10 จุดในช่วงแรกหลังทรงตัวแคบมาตลอดครึ่งวันเช้า โดยแรงขายส่วนใหญ่อยู่ในหุ้นกลุ่ม ICT และกลุ่มพลังงานเป็นหลัก แต่สุดท้ายก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีพลิกกลับขึ้นมาปิดเป็นบวกกว่า 10 จุดแทนได้ แสดงถึงแรงซื้อที่ยังมีอยู่พอควร ซึ่งคาดว่าแรงซื้อ-แรงขายที่ทำให้ตลาดค่อนข้างผันผวนรุนแรงส่วนหนึ่งมาจากการเก็งกำไรผลการประชุมฉุกเฉินระหว่างกรีซกับ รมว.คลังยูโรโซน ที่มีขึ้นในช่วงค่ำเมื่อคืนนี้ด้วย ซึ่งผลที่ออกมายังไม่มีความคืบหน้ามากนัก โดยต้องรอติดตามจากการประชุมต่อเนื่องในวันจันทร์ที่ 16 ก.พ.อีกครั้ง โดยคืนนี้จะมีการประชุมของผู้นำสหภาพยุโรป(EU) เกี่ยวกับเรื่องของกรีซเช่นกัน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ไม่ได้ปรับตัวลงมากนัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในลักษณะแกว่งทรงตัวบวก-ลบแคบๆ เพื่อรอลุ้นผลการเจรจาในช่วงถัดไปอยู่ ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะอยู่ในลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นกว่าช่วงหลายวันที่ผ่านมา และยังมีลุ้นโอกาสกลับไปแกว่งบวกต่อเนื่องในช่วงถัดไปได้ตามคาด
  แนวรับ 1602-1598 , 1595-1590 จุด
  แนวต้าน 1610-1616 , 1620-1625 จุด
  Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคทุกตลาดในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$247.8 ล้าน เกาหลีใต้ US$87.8 ล้าน อินโดนีเซีย US$47.6 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$20.5 ล้าน ไทย US$17.1 ล้าน และเวียดนาม US$6.2 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) การเจรจาช่วยกรีซคืนวานล้มเหลว การประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) คืนวานนี้ ยังไม่คืบหน้า ตลาดรอความหวังจากการประชุมรมว.คลังกลุ่มยูโรโซนวันจันทร์หน้า ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือเฉพาะหน้าแก่กรีซก่อนที่ความช่วยเหลือทางการเงินฉบับปัจจุบันจะหมดอายุสิ้นเดือน ก.พ. นี้ ค่าเงินยูโรยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า แต่ค่าเงินบาทถือว่ามีเสถียรภาพมากกว่า (อ่อนค่าน้อยกว่า) เงินสกุลเอเชียอื่นๆ
  (-) LHBANK เราปรับประมาณการกำไรปี 2015 ขึ้น 27% เป็น 1,262 ล้านบาท +5% Y-Y จาก NIM และ Cost to income ratio ที่มีแนวโน้มดีกว่าที่คาดเดิม และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 1.70 บาท จากเดิม 1.40 บาท แต่ยังคงแนะนำขาย ราคาหุ้นปัจจุบันไม่ได้สะท้อนพื้นฐานแต่เป็นการเก็งกำไรราคาที่จะเพิ่มทุนให้พันธมิตรใหม่ ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นการเพิ่มทุนแบบ PP และน่าจะมีจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านหุ้น หรือกว่า 50% ของจำนวนหุ้นปัจจุบัน เพื่อให้เงินกองทุนปรับขึ้นไปเหนือ 20% จากปัจจุบันที่ 12% ซึ่งถือเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับผู้ถือหุ้นเดิมที่จะถูกกระทบจาก dilution ถึง 35%
  (-) BEC แนวโน้มกำไร 4Q14 ยังลดลงต่อเนื่อง เราคาดลดลง 11% Q-Q และ 31% Y-Y จากผลกระทบของการเกิดทีวีช่องใหม่ๆเพิ่มขึ้น (ทีวีดิจิตอล) ทำให้รายได้ค่าโฆษณาของ BEC ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากช่องทีวีดิจิตอล 3 ช่อง (ช่องเด็ก, SD, HD) รับรู้เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสที่สอง แนวโน้มกำไรปี 2015 คาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงปีก่อน เพราะถูกกดดันจากต้นทุนทีวีดิจิตอล ขณะที่ส่วนแบ่งผู้ชมและส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาในเดือน ธ.ค. ลดลงเหลือ 27.5% และ 24.9% จากก่อนที่จะมีทีวีดิจิตอลที่อยู่ที่ 33-39% เป็นผลลบต่อรายได้ เรายังคงแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 45 บาท
  (+) THCOM กำไรเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 425 ล้านบาทใน 4Q14 +52% Q-Q, +48% Y-Y หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติลดลงเล็กน้อย 4% Q-Q และ 2% Y-Y จากค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากไทยคม 7 ขณะที่ยังรับรู้รายได้ไม่เต็มที่ ทำให้กำไรปกติทั้งปี 2014 โต 27% Y-Y เราเห็นแนวโน้มที่ดีของรายได้จากธุรกิจดาวเทียม เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2015 โต 21% Y-Y ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 50 บาท ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.65 บาท/หุ้น (yield 1.8%) XD 2 เม.ย. 2015
  (0) MSCI Index Review รอบนี้ (1 มี.ค. – 29 พ.ค. 2015) ไม่มีการปรับหุ้นไทยในทั้ง 3 ดัชนี (Large cap, Small cap, Micro cap)

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาแกว่งตัวผันผวนและปิดในกรอบแคบๆโดยนักลงทุนจับตาผลการประชุมฉุกเฉินในการเจรจาระหว่างกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังของประเทศในยูโรโซนในเรื่องสถานการณ์หนี้ของกรีซ
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยตลาดจับตาดูประเด็นหนี้ของกร๊ซว่าจะได้ข้อสรุปที่ดีหรือไม่ รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอีกครั้ง
  ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างค่อนไปในด้านอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.54-32.70 บาท/ดอลลาร์
  น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 48.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.18 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,219.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 12.60 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรจากประเด็นความกังวลต่อสถานการณ์หนี้กรีซ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

12 ก.พ. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ม.ค.)
- ยูโรโซน: 4Q14 GDP
16 ก.พ. - ไทย: 4Q14 GDP (สศค.คาด GDP 4Q14 โต 2.3% Y-Y ทั้งปีโต 0.7%), JASIF เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
- ญี่ปุ่น: 4Q14 GDP
- ยูโรโซน: การประชุม รมว.คลังของประเทศสมาชิก 
17 ก.พ. - ไทย: PLANB เริ่มเทรด (ราคา IPO 2 บาท)
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- ยูโรโซน: Zew Survey Expectation (ก.พ.)
18-20ก.พ. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี ฮ่องกง จีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน
18 ก.พ. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Housing start, Building permits (ม.ค.)
19 ก.พ. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!