WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +139.55, NASDAQ +61.63, S&P +21.85, FTSE -8.03, CAC +44.57 และ DAX +90.32 ภายใต้ปัจจัยหนุนจาก (1) เริ่มมีความคาดหวังว่าการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซอาจจะมีทางออก จากข่าวที่ว่าทาง ECB อาจจะขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ. ออกไปอีก 6 เดือน โดยให้เวลากรีซในการเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ และ (2) สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขยอด ค้าส่งเดือน ธ.ค. ลดลงมากกว่าคาด ขณะที่อยู่ระหว่างติดตามการประชุมของ รมต.คลัง EU เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินต่อกรีซในวันที่ 11/2/58 และต่อด้วยการเจรจาของผู้นำ EU ในวันที่ 12/2/58 ในประเด็นดังกล่าว
  …..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. -US$2.84 อยู่ที่ US$50.02 ต่อบาร์เรล หลังจาก IEA ออกประกาศเตือนว่าปริมาณอุปทานน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูง อาจจะส่งผลให้ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามคาดราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพียง ระยะสั้น เนื่องจากยังคงเผชิญกับภาวะไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานน้ำมันในตลาดโลก
......ราคาทองคำส่งมอบเดือน เม.ย. -US$9.3 อยู่ที่ US$1,232.2 ต่อออนซ์ จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด คือในช่วงเดือน มิ.ย. ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นลดความน่าสนใจในการลงทุนทองคำ
   (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -145 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ +1,173 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : ยังคงผันผวน แนวต้านบริเวณ 1,600 จุดยังคงแข็งแกร่ง? โดยที่ภาพรวมตลาดเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด คือในช่วงเดือน มิ.ย. นี้ หลังจากประกาศตัวเลขอัตราการว่างงานทรงตัวในระดับต่ำที่ 5.7% ในขณะที่ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์ในกรีซ และการประชุมของ รมต.คลัง EU ในวันนี้ ขณะที่มาตรการความช่วยเหลือทางการเงินของสหภาพยุโรป (EU) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ต่อกรีซที่จะครบกำหนด 28/2/57 มูลค่า 240,000 ล้านยูโร หรือ 270,000 M.USD ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง ส่งผลกดดันต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน
  .....ทางด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการขายทำกำไรช่วงดัชนีเข้าใกล้ 1,600 จุด แม้ล่าสุดต่างชาติจะขายสุทธิ แต่มูลค่าไม่มากนัก และยอด YTD ยังเป็นซื้อสุทธิสะสมประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งในระยะกลางยังมีมุมมองที่ดีต่อ Fund Flow ที่คาดได้รับปัจจัยหนุนบ้าง จากประเด็นการเริ่มใช้วงเงิน QE ของ ECB ตั้งแต่เดือนมี.ค. เป็นต้นไป ขณะที่ยังแนะติดตามการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเงินเฟ้อล่าสุดติดลบ รวมถึงประเด็นการเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q/57 – ในช่วงสิ้นเดือนก.พ.
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.04 อยู่ที่ 1.99% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.32 อยู่ที่ 17.23


  หุ้นแนะนำ : KTC
  ประเด็นที่ต้องติดตาม (11 - 13 ก.พ.’58)
   11/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน (2) งบประมาณของรัฐบาลกลาง - มค.
   12/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ยอดค้าปลีก - มค. (3) สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ - ธค.
   13/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคานำเข้าและส่งออก - มค. (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - กพ.

นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!