- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 February 2015 15:23
- Hits: 1265
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ใกล้จะเริ่มทรงตัวและดีดกลับขึ้นได้ ดังนั้นซื้อแล้วถือ!
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังปรับตัวลงอยู่ แต่ FSS คาดว่ากรอบลบจำกัดและลุ้นกลับไปแกว่งบวกขึ้นหาเป้าหมายได้ ดังนั้นซื้อลบแล้วยังเน้นถือ
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SITHAI, JSP, THCOM(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังปรับตัวลงอีก หลังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซ แต่เช้านี้น่าจะผ่อนคลายลงบ้าง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเริ่มพลิกกลับมาแกว่งตัวด้านบวกอีกครั้ง เพราะได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่ากรีซอาจจะสามารถบรรลุข้อตกลงการประนอมหนี้สินกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ ก่อนที่มาตรการช่วยเหลือทางการเงินฉบับปัจจุบันของสหภาพยุโรป(EU) จะหมดอายุลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้ แต่กรอบการบวกอาจจะยังจำกัด เพราะนักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบอยู่ หลังวานนี้ราคาน้ำมันกลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้ง จากคาดการณ์ของ IEA ที่ว่าสต็อกน้ำมันในกลุ่ม OECD จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่ยังค่อนข้างแกว่งทรงตัว และแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในบ้านเราที่ยังเบาบาง รวมทั้งแรงซื้อจากการเก็งกำไรผลประกอบการของ บจ. ต่างๆ ที่ FSS คาดว่าจะทยอยมีเข้ามาต่อเนื่องในช่วงถัดจากนี้ น่าจะช่วยพยุงให้ SET มีกรอบลบจำกัดเช่นกัน และสุดท้ายยังมีสิทธิช่วยหนุนให้ดัชนีกลับไปขยับขึ้นอีกครั้ง โดยยังลุ้นขยับขึ้นไปที่ High เดิมแถว 1649.77 จุดได้
แนวรับ 1592-1588 , 1584-1580 จุด
แนวต้าน 1602-1606 , 1610-1620 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$160.7 ล้าน อินโดนีเซีย US$20.3 ล้าน และเวียดนาม US$3.5 ล้าน แต่ขายเกาหลีใต้ US$96.1 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$31.1 ล้าน และไทย US44.5 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ตลาดเพิ่มความหวังในการแก้หนี้กรีซ การประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ในวันนี้ ตลาดคาดหวังว่าอาจเห็นภาพของการประนีประนอมเพื่อให้กรีซสามารถชำระหนี้ได้ เช่นยืดเวลาชำระหนี้ออกไป 6 เดือน ส่วนสัปดาห์หน้า มีการประชุมรมว.คลังกลุ่มยูโรโซน ซึ่งตลาดก็คาดหวังเช่นกันว่าจะมีข้อตกลงเฉพาะหน้าที่จะช่วยแก้ปัญหาหนี้ของกรีซได้
(-) DTAC น่าผิดหวัง เราปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 95 บาทจาก 110 บาท ลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมซื้อ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติ 4Q14 ลดลงถึง 31% Q-Q และ 42% Y-Y ทำให้ทั้งปีกำไรหดตัว 10% Y-Y เพราะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำตลาดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่ไม่สามารถดึงตลาดกลับคืนมาจากคู่แข่งได้ ส่วนปี 2015 เราเชื่อว่าการที่ DTAC จะเน้นการทำ Network Sharing (ร่วมลงทุนกับ Operator อื่นๆในการใช้โครงข่ายร่วมกัน) แทนการสร้างโครงข่ายเองเหมือนคู่แข่ง เป็นนโยบายที่จะทำให้ DTAC โตต่ำกว่าคู่แข่ง เราปรับลดกำไรปีนี้ลง 11% เหลือเติบโตเพียง 4% Y-Y
(+) LIT จะได้ประโยชน์จากการประมูลภาครัฐที่จะกลับสู่ปกติในปี 2015 โดยเฉพาะการผลักดันนโยบาย Digital Economy ซึ่งเป็นการส่งเสริมการใช้ IT ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ LIT ยังมีเป้าขยายเข้าสู่งานภาคเอกชนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ Factoring และสินเชื่อโครงการซึ่งเป็นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินเชื่ออื่น เราคาดยอดคงค้างของลูกหนี้ในปี 2015 เพิ่มขึ้น 35% Y-Y และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 24% Y-Y เป็น 58 ล้านบาท ประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.22 บาท แนะนำซื้อ ส่วนกำไร 4Q14 เราคาด -5% Q-Q, +80% Y-Y
(+) AMATA แนวโน้มกำไรปกติ 4Q14 ดีกว่าที่เคยคาด อาจโตสูงถึง 339% Q-Q และ 709% Y-Y เป็น 605 ล้านบาทเพราะสามารถโอนที่ดินที่อมตะนครได้ 400-500 ไร่ แต่การขายที่ดินในช่วง 4Q14 ขายได้เพียง 40 ไร่ ทำให้ทั้งปี 2014 ขายได้ 371 ไร่ และทำให้ Backlog ที่จะรอรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย กำไรปกติในปีนี้จึงมีโอกาสหดตัว แต่จะมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT (คาดกำไรเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท) และมีแผน IPO หุ้น Amata VN ประมาณ 1H15 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นจนกว่าการขาย REIT และ IPO จะเสร็จสิ้น ดังนั้น แม้ว่าราคาหุ้นจะสูงกว่าราคาเป้าหมายของเราที่ 17.80 บาท แต่แนะนำซื้อเก็งกำไร
(-) IRPC ถึงแม้จะมีขาดทุนสุทธิ 5,779 ล้านบาทใน 4Q14 ตามที่เราคาด และยังมองว่าปี 2015 ฟื้นตัวเป็นกำไร 2,663 ล้านบาทซึ่งยังต่ำกว่าในอดีตมาก แต่ราคาหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นกว่า 2% รับการฟื้นตัวในปี 2015 แล้วจนเกินราคาเป้าหมายที่ 3.60 บาท จึงปรับคำแนะนำลงเป็นขาย จากเดิมถือ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ราว 1% แม้ว่าจะประเด็นหนี้ของกรีซยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา แต่น่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกันหลังมีข่าวลือว่าการเจรจาระหว่างกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้น่าจะสามารถประนีประนอมและบรรลุข้อตกลงได้
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมแม้ตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นจะปิดบวกได้ค่อนข้างดี แต่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างแต่เริ่มมีจังหวะอ่อนค่าเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 50.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง IEA มีคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบของ OECD จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในช่วงกลางปีนี้และระบุว่าราคาน้ำมันอาจปรับตัวลงต่อ
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,232.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 9.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่ารวมถึงสินทรัพย์เสี่ยงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11 ก.พ. - MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกชุดใหม่ เริ่มใช้ 2 มี.ค.
12 ก.พ. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ม.ค.)
- ยูโรโซน: 4Q14 GDP
16 ก.พ. - ไทย: 4Q14 GDP (สศค.คาด GDP 4Q14 โต 2.3% Y-Y ทั้งปีโต 0.7%), JASIF เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
- ญี่ปุ่น: 4Q14 GDP
17 ก.พ. - ไทย: PLANB เริ่มเทรด (ราคา IPO 2 บาท)
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- ยูโรโซน: Zew Survey Expectation (ก.พ.)
18-20ก.พ. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี ฮ่องกง จีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน
18 ก.พ. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Housing start, Building permits (ม.ค.)
19 ก.พ. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852