- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 February 2015 16:59
- Hits: 1806
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Test 1620
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปิดบวกอีก 5.71 จุด มาอยู่ที่ 1,613.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,841 ล้านบาท ผลักดันด้วยหุ้น TRUE / PTT / AOT / SCC เป็นหลัก ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวขยับขึ้นเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดรวม ภายใต้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียและยุโรปที่เป็นกลาง
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,758 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 1,499 สัญญา เมื่อส่วนต่างระหว่าง S50H15 ต่ำกว่า SET50 Index กว้างถึง 8.29 จุด ตลาดตราสารหนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 438 ล้านบาท กระแสเงินทุนต่างชาติส่งสัญญาณกลางถึงบวกต่อการลงทุนในไทย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดบวกอีก US$1.21 มาอยู่ที่ US$51.69/barrel เป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมันและโรงกลั่น
•S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ Junk Bond และคงแนวโน้มเป็น “ลบ”
•จีนรายงานการส่งออกเดือนม.ค. หดตัว 3.3% yoy สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาด +5.5% yoy
•นายกฯ เยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. เพื่อหารือเรื่องรถไฟรางคู่อีก 3 เส้นทาง
มุมมองต่อตลาด
เราขยับมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 10 พร้อมให้ภาพของ SET INDEX ในช่วงที่เหลือของเดือนนี้เป็นลักษณะ Sideways-to-Sideways-Up ด้วยการยกฐานของแนวรับขึ้นเป็นขั้นบันได ผลักดันด้วยกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย ก่อนที่ ECB จะเริ่มโครงการ QE ในเดือนมี.ค.เป็นต้นไป เราประเมินว่ากลุ่มธนาคาร / ICT / อสังหาฯ เพราะเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนปันผลงวดนี้สูง และเป็นกลุ่มที่มีสภาพคล่องสูงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่แกว่งตัวระหว่าง US$48-52 ในช่วง 2-3 วันทำการที่ผ่านมา เป็นเพียงการเกิด Technical Rebound ภายใต้ปัจจัยพื้นฐานของการกำหนดราคาน้ำมันดิบยังมีความเปราะบาง ทั้งด้านอุปสงค์ – อุปทาน ดังนั้นการลงทุนในกลุ่มน้ำมัน / โรงกลั่น จึงเป็นเพียงการ Trading ตามรอบสั้นของหุ้นมากกว่าจะเป็นการ buy and hold ณ ราคาปัจจุบัน
สำหรับตลาดหุ้นจีน และ ฮ่องกง วันนี้มีแนวโน้มปรับฐานลงต่อจากปลายสัปดาห์ก่อน หลังจีนรายงานการส่งออกหดตัวมากกว่า 3% yoy ในเดือนม.ค. แม้ว่าจะทำให้ดุลการค้าเกินดุลสูงสุดใหม่มากถึง US$6.0 หมื่นล้านก็ตาม รวมถึงตลาดหุ้นยุโรปในรอบบ่าย หลัง S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ Junk Bond
ตลาด Nikkei เช้านี้ (7.28 น) เปิดบวกอีก 111 จุด ขณะที่ Kospi เปิดลบ เล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,615-1,620 จุด” และถือเงินสดมากขึ้น เพราะคาดว่า SET INDEX จะแกว่งในกรอบแคบ หากราคาหุ้นเป้าหมายเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย อาจเป็นจังหวะของการสะสมหุ้นเป้าหมาย
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO
Accumulative Buy: ITD / WHA
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.WHA : ราคาปิด 38.50 บาท ราคาเหมาะสม 43.13 บาท
a)MBKET เริ่มต้นคำแนะนำด้วย “ซื้อ” จากมุมมองเชิงบวกหลังผู้ถือหุ้นอนุมัติการเข้าซื้อ HEMRAJ และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตระยะยาวให้ WHA เป็นหุ้นที่มีความโดดเด่นที่สุดในหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
b)เนื่องจากจะได้รับผลบวกถึง 4 ทิศทาง หลังเข้าซื้อ HEMRAJ ได้แก่
I.โครงการพัฒนารถไฟฟ้ารางคู่ และ ASEAN Highway จะเป็นบวกให้มูลค่าที่ดินในนิคม HEMRAJ ที่ อ.มาบตาพุด จ.ระยองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
II.โครงสร้างรายได้ของ WHA จะมีสัดส่วนจาก Recurring income เช่น น้ำ, ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจาก HEMRAJ มีรายได้จาก Recurring Income กว่า 2.6 พันล้านบาทต่อปี
III.คาดว่าจะมีการบันทึกกำไรพิเศษต่อเนื่องในปี 2558 และ ปี 2559 จากการ Spin off สินทรัพย์ของ HEMRAJ
IV.และคาดว่าจะจะไม่เกิด Earning Dilution ต่อ WHA เพราะกำไรที่รับรู้จาก HEMRAJ เพียงพอที่จะหักกลบ Share Dilution จากการเพิ่มทุนของ WHA
c)จุดเด่นของ WHA คือเป็นผู้นำธุรกิจสินค้าคงคลังแบบ Built to Suit จึงมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 65% เทียบกับ AMATA และ ROJNA ที่ 45% และ 16% ตามลำดับ และเชื่อว่าหลังเสร็จสิ้นการซื้อ HEMRAJ จะยิ่งส่งผลบวกต่อบริษัท เพราะจะทำให้มีที่ดินเพื่อรอพัฒนาเป็นของตนเอง และให้บริการได้แบบครบวงจรมากขึ้น
d)ภายใต้สมมติฐานการได้หุ้น HEMRAJ ราว 53% จะส่งผลให้กำไรหลังรวม HEMRAJ เข้าสู่งบการเงินรวมเติบโตถึง +52.4% yoy เป็น 1,890 ล้านบาท ในปี 2558 และ+74% yoy เป็น 3,300 ล้านบาท ในปี 2559
e)WHA จะขึ้นเครื่องหมาย XR ในวันพรุ่งนี้ สัดส่วน 2.75 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นละ 25.50 บาท และ 3 หุ้นเพิ่มทุนจะได้ฟรี 1 Warrant จึงแนะนำซื้อ เพื่อใช้สิทธิ์เพิ่มทุน เนื่องจากการเข้าซื้อ HEMRAJ จะสร้าง Synergy ระยะยาวให้กับ WHA อย่างมีนัยสำคัญ
2.ITD : ราคาปิด 8.90 บาท ราคาเหมาะสม 10.50 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะตอบรับเชิงบวก จากการเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. เพื่อศึกษาและหาความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาโครงการคมนาคมขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ – กาญจนบุรี, กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – อรัญประเทศ และกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา –แหลมฉบัง
b)เชื่อว่า ITD จะได้รับ Sentiment เชิงบวกสูงสุด เนื่องจากจะมีการหารือกันเพื่อยืนยันความพร้อมในการลงทุนโครงการทวายระหว่าง 3 ประเทศได้แก่ ไทย, พม่า และญี่ปุ่น และคาดว่าจะเห็นการเซ็นสัญญากับ ITD เพื่อพัฒนาโครงการทวายอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน ก.พ.
c)นอกจากนั้น ยังมีประเด็นบวกต่อเนื่องรออยู่ในช่วงเดือน มี.ค. – เม.ย. ที่คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการออกประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซที่อุดรธานี และเป็น Upside Risk ที่มีนัยสำคัญเพื่อเปลี่ยนแปลงให้ปัจจัยพื้นฐานของ ITD เปลี่ยนแปลงเป็นบวกอย่างมาก
d)คาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และราคาเหมาะสมของเราอิงความอนุรักษ์นิยมเนื่องจากรวมมูลค่าของโครงการโปรแตซเพียง 2.00 บาท จากทั้งหมดที่ 13.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิ US$241 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$38 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 57.4 79.1 2,985.3 13,190.4 9,188.0
KOSPI -0.1 -121.7 -597.8 6,165.50 4,875.1
JSE 93.8 7.0 215.7 3,750.60 -1,806.4
PSE 30.7 -0.8 734.6 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 4.8 2.1 1.6 135.6 263.2
SET INDEX 53.9 -3.3 56.6 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติสะสมหุ้นไทยต่อเนื่อง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +1,758 -107
SET50 Index Futures (สัญญา) +1,499 -5,232
SSF (สัญญา) +79 -254
Metal Futures (สัญญา) -208 +526
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +438 +923
นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,758 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,713 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 1,499 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เหลือสุทธิไว้ก่อนหน้า เมื่อ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 8.29 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 1.66 จุด จาก
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้ ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 438 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 1,361 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 6,836 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลดลงเป็นวันที่ 3 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 2.00bps ปิดที่ 2.608%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 1,277 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 600 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 178.07 9.19% 376.30
PTTGC 55.34 7.13% 59.02
SCCC 32.11 52.80% 419.69
SCC 29.09 2.84% 498.12
DTAC 21.76 5.10% 91.82
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 กลับมาเน้นกลุ่มอสังหาฯ สูงสุด
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 1,277 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,241 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 4,736 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มอสังหาฯ ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 271 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 130 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 229 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 325 ล้านบาท กลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 196 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 166 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 36 ล้านบาท เท่านั้น
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
LH 250.20 47.25 BBL -82.16 32.57
SCC 176.15 13.25 KBANK -44.64 44.11
PTT 145.49 13.69 BTS -35.59 10.64
KTB 145.24 20.50 TISCO -33.37 26.34
CPALL 114.46 9.73 TRUE -32.21 4.46
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong