- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 February 2015 15:12
- Hits: 1555
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Test 1615
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX เปิดย่อตัวลงทดสอบแนวรับ 1,588 จุด กดดันโดย PTT สอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงหลุดแนว US$50/barrel ในคืนวันก่อนหน้า และเกิด Technical Rebound เด่นในช่วงบ่าย หุ้นกลุ่มธนาคาร / AOT / SCC ฟื้นตัวเด่น ผลักดันให้ SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,600 จุดอีกครั้ง ปิดที่ 1,607.92 จุด บวก 8.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,382 ล้านบาท
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 107 ล้านบาท แต่ Short สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 5,232 สัญญา เมื่อส่วนต่างระหว่าง S50H15 ต่ำกว่า SET50 Index แคบเหลือเพียง 1.66 จุดเท่านั้น โดยนำเงินพักที่ตลาดตราสารหนี้ด้วยการซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 923 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ผลการดำเนินงาน ADVANC ใน 4Q57 กำไรปกติ 9.8 พันล้านบาท ใกล้เคียงที่เราคาดการณ์ แต่เงินปันผลงวด 2H57 เท่ากับ 5.96 บาท ต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อยที่ 6.09 บาท
•ติดตามการรายงานภาวะการจ้างงานของสหรัฐฯ ในคืนนี้
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
•การประกาศปรับดัชนี MSCI คืนวันที่ 11 ก.พ. ตามเวลาประเทศไทย และมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 27 ก.พ.
•การเยือนญี่ปุ่นของนายกฯ วันที่ 8-10 ก.พ. เพื่อหารือโครงการรถไฟรางคู่อีก 3 เส้นทาง
•ติดตามพัฒนาการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซ และกลุ่ม Troika เพื่อหาแนวทางร่วมกันในเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือรอบ
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 10 เพราะเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ อีกทั้งขาดปัจจัยบวกใหม่ที่มีน้ำหนักในการผลักดัน SET INDEX ให้ทะลุแนว 1,620 จุด ขึ้นไปได้
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรงตัวบริเวณ US$50/barrel +/- เราประเมินว่า Upside gain ของราคาน้ำมันดิบเป็นไปอย่างจำกัด เพราะความไม่สมดุลย์ระหว่างอุปสงค์ และ อุปทาน ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญของพื้นฐานการกำหนดราคาน้ำมันดิบ เราจึงให้น้ำหนักกับกลุ่มธนาคาร เพื่อเก็งกำไรต่อเงินปันผล และกลุ่ม ICT ต่อผลการดำเนินงาน และ/หรือ เงินปันผล เป็นทางเลือกของการลงทุนในระลอกนี้ มากกว่า การเข้าเก็งกำไรต่อกลุ่มน้ำมัน เพียงเพื่อหวังการเกิด Technical rebound เท่านั้น
ประเด็นใหญ่ในสัปดาห์หน้า นอกเหนือจากการทยอยประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ติดตามการหารือระหว่างนายกฯ ไทย และ ญี่ปุ่น ต่อโครงการรถไฟรางคู่ จะมีความคืบหน้าจนสามารถลงนามใน MoU ได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง
เราประเมิน SET INDEX วันนี้มีแนวโน้มเปิดขึ้นไปทดสอบแนว 1,615-1,620 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มน้ำมัน ตามการฟื้นตัวของน้ำมันคืนวานนี้ แต่เรายังคงให้น้ำหนักกับกลุ่มธนาคาร และ ADVANC ที่มีประเด็นเงินปันผลรออยู่ ทำให้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างมีเสถียรภาพมากกว่า กลุ่มน้ำมัน
ตลาด Nikkei เช้านี้ (7.33 น) เปิดบวกเด่นกว่า 140 จุด ขณะที่ตลาด Kospi กลับลดลงเล็กน้อย แม้ว่า DJIA คืนวานนี้จะปิดบวกถึง 1.20% ก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,615-1,620 จุด” และกลับมาถือเงินสดมากขึ้นอีกครั้ง เพราะภาพตลาดในสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มแกว่งในกรอบ การรอจังหวะกลับเข้าสะสมหุ้นเป้าหมายที่ราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO
Accumulative Buy: KTB / ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.ITD : ราคาปิด 8.85 บาท ราคาเหมาะสม 10.50 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะตอบรับเชิงบวก จากการเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. เพื่อศึกษาและหาความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาโครงการคมนาคมขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ – กาญจนบุรี, กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – อรัญประเทศ และกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา –แหลมฉบัง
b)เชื่อว่า ITD จะได้รับ Sentiment เชิงบวกสูงสุด เนื่องจากจะมีการหารือกันเพื่อยืนยันความพร้อมในการลงทุนโครงการทวายระหว่าง 3 ประเทศได้แก่ ไทย, พม่า และญี่ปุ่น และคาดว่าจะเห็นการเซ็นสัญญากับ ITD เพื่อพัฒนาโครงการทวายอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน ก.พ.
c)นอกจากนั้น ยังมีประเด็นบวกต่อเนื่องรออยู่ในช่วงเดือน มี.ค. – เม.ย. ที่คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการออกประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซที่อุดรธานี และเป็น Upside Risk ที่มีนัยสำคัญเพื่อเปลี่ยนแปลงให้ปัจจัยพื้นฐานของ ITD เปลี่ยนแปลงเป็นบวกอย่างมาก
d)คาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และราคาเหมาะสมของเราอิงความอนุรักษ์นิยมเนื่องจากรวมมูลค่าของโครงการโปรแตซเพียง 2.00 บาท จากทั้งหมดที่ 13.00 บาท
2.KTB : ราคาปิด 23.40 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คาดว่า KTB จะประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2557 ในช่วงปลายเดือน ก.พ. และคาดการณ์เงินปันผลหุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3.8%
b)คาดสินเชื่อปี 2558 เติบโต +8% yoy จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันให้สินเชื่อรายย่อย และ SME ขยายตัว นอกจากนั้น KTB ยังได้ประโยชน์โดยตรงจากการปล่อยกู้สินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในปีนี้
c)Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงที่ 127% สิ้นสุด 4Q57 จาก 108% ใน 3Q57 จากการตั้งสำรองพิเศษจำนวนมากในปี 2557 ที่ผ่านมา ดังนั้น คาดว่าการตั้งสำรองในปีนี้จะลดลง yoy และหากสภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าคาด อาจส่งผลให้การตั้งสำรองต่ำกว่าประมาณการของเรา และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาดได้เช่นกัน
d)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +9.2% yoy เป็น 3.62 หมื่นล้านบาท และซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.3x เทียบกับ BAY 2.9x, KBANK 1.8x, SCB 1.9x และ TMB 1.7x
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ US$38 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$694 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 79.1 324.0 2,927.9 13,190.4 9,188.0
KOSPI -121.7 199.0 -975.8 6,165.50 4,875.1
JSE 7.0 69.4 121.9 3,750.60 -1,806.4
PSE -0.8 27.7 703.9 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 2.1 -0.4 -3.2 135.6 263.2
SET INDEX -3.3 74.7 2.7 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติเป็นกลางวานนี้
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -107 +2,436
SET50 Index Futures (สัญญา) -5,232 +2,866
SSF (สัญญา) -254 -183
Metal Futures (สัญญา) +526 -1,112
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +923 -6,599
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 107 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า ซื้อสุทธิ 4,710 ล้านบาท กดดันให้ YTD นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้งเพียง 45 ล้านบาท ทั้งนี้อาจเป็นเพียงการปรับพอร์ตช่วงสั้นของนักลงทุนกลุ่มนี้
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิมากถึง 5,232 สัญญา เทียบกับวันก่อนหน้า Long สุทธิ น่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ทั้งหมด และมีสถานะ Short สุทธิบางส่วน เมื่อ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบเพียง 1.66 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 6.20 จุด
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้ กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 923 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 6,836 ล้านบาท น่าจะเป็นการโยกเงินกำไรจากตลาดทุน เข้าตลาดตราสารหนี้ เพื่อพักเงินช่วงสั้น ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลดลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อ 0.23bps ปิดที่ 2.588%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 600 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,007 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 284.67 7.96% 368.12
TRUE 50.13 1.41% 13.52
AOT 31.73 3.28% 316.07
PTTEP 30.05 2.09% 117.55
ADVANC 22.19 1.50% 247.64
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 กลับมาเน้นกลุ่มธนาคารและ ICT อีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,241 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 900 ล้านบาท กลับมาเน้นลุ่มธนาคารและ ICT ลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันลดลง สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มธนาคารกลับมาถูกสะสมสูงสุดอีกครั้ง 514 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 132 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 325 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 164 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 237 ล้านบาท กลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 139 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 130 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มพลังงานถูกขายสุทธิสูงสุด 325 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 339 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี ขายสุทธิ 58 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
SCC 285.13 29.94 PTT -240.68 10.16
SCB 184.68 19.82 PTTEP -194.83 13.28
INTUCH 180.43 21.68 PTTGC -64.39 15.96
KTB 175.86 14.68 TTA -58.15 14.45
LH 129.60 38.32 BIGC -54.76 45.94
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong