- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 February 2015 16:49
- Hits: 2019
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +6.62, NASDAQ -11.04, S&P -8.52, FTSE -11.78, CAC +18.40 และ DAX +20.37 ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยได้รับปัจจัยบวกจาก (1) ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน เช่น โซนี่ และวอลท์ ดีสนีย์ (2) ธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ของเงินฝากธนาคาร โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว ขณะที่มีปัจจัยลบจาก (1) ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงรุนแรงกว่า 4USD ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และ(2) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน – มค. เพิ่มขึ้น 213,000 ราย ต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 240,000 ราย
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซ ที่คาดมีสัญญาณที่ดี
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มีค. -US$4.60 อยู่ที่ US$48.45 ต่อบาร์เรล
ภายใต้ปัจจัยกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบล่าสุด เพิ่มขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล
......ราคาทองคำส่งมอบเดือน เมย. +US$4.2 อยู่ที่ US$1,264.5 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนสภาพคล่องภายในประเทศ
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +2,436 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ +60 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ผันผวน? ภายใต้ปัจจัยกดดันจากประเด็นต่างประเทศ (1) ราคาน้ำมันล่าสุดที่ลดลงกว่า 4USD ซึ่งคาดกลับมากดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังปรับขึ้นตามราคาน้ำมันตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ (2) สถานการณ์ในกรีซ ที่กลับมามีความไม่แน่นอน หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุไม่ยอมรับการนำพันธบัตรกรีซเพื่อมาใช้ระดมทุนครั้งใหม่ เนื่องจากพันธบัตรของรัฐบาลกรีซอยู่ในระดับ “ขยะ" (junk) ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ECB โดยมาตรการความช่วยเหลือทางการเงินของสหภาพยุโรป (EU) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ต่อกรีซที่จะครบกำหนด 28/2/57 มูลค่า 240,000 ล้านยูโร หรือ 270,000 ล้านUSD
.....อย่างไรก็ตามคาดยังมีปัจจัยบวกจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.50% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะทำให้ RRR ของธนาคารขนาดใหญ่ลดลงเหลือ 19.5% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน
.....ขณะที่ประเด็นในประเทศ คาดน้ำหนักต่อ Fund Flow เป็นบวกมากขึ้น หลังต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งทำให้ YTD เป็นยอดซื้อสุทธิสะสมครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี แม้ว่ามูลค่ายังไม่มาก แต่คาดเป็นสัญญาณที่ดี โดยในระยะกลางยังมีมุมมองที่ดีต่อ Fund Flow ที่คาดได้รับปัจจัยหนุนบ้างจากประเด็นการเริ่มใช้วงเงิน QE ของ ECB ตั้งแต่เดือนมีค. เป็นต้นไป และยังแนะติดตามการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเงินเฟ้อล่าสุดติดลบ รวมถึงประเด็นการเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q/57 – สิ้นเดือนกพ.
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.02 อยู่ที่ 1.80% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.00 อยู่ที่ 18.33
หุ้นแนะนำ : TICON
ประเด็นที่ต้องติดตาม (5 – 6 ก.พ.’58)
5/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - ธค. (3) ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วย – 4Q/57
6/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - มค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788