WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ปรับลงเล็กน้อย
       ทิศทางตลาดวันนี้คาดว่าจะปรับลงเล็กน้อย ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เช้านี้ปรับตัวลง จากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ต่ำลง และการเผยผลสำรวจ ADP ของสหรัฐที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานในเดือน ม.ค. 2558 ต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทั้งนี้คาดว่าแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานของไทยในวันนี้จะน้อยลงเช่นกัน อย่างไรก็ดีแนวโน้มการไหลเข้าของเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติสู่ตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะช่วยพยุงทิศทางตลาดได้บางส่วน
แนวรับ/แนวต้าน : 1580/1600
  กลยุทธ์ : ทยอยขายบ้างเมื่อดัชนีอยู่ใกล้ 1600 จุด หาจังหวะซื้อเมื่อดัชนีย่อลงเข้าใกล้ 1580 จุด   เก็บกลุ่มพลังงานทดแทน รับเหมา และแบงก์
  สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
  นักลงทุนระยะสั้น : STEC(30.25), BGH(21.50)
  นักลงทุนระยะยาว : KBANK(290), KTB(29)

จับข่าวมาเก็งกำไร
  CENTEL : เราคาดว่าบริษัทจะรายงานผลการดำเนินงานตามปกติในไตรมาสที่ 4/57ที่ 470.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.3%qoq และ 61.6%yoy ผลักดันจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมในกทม.และการขยายอย่างต่อเนื่องของธุรกิจร้านอาหาร เราคาดการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานตามปกติในปี 2558 ที่ 29.4% การลงทุนในโรงแรมใหม่ๆที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว คงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มในระยะยาวที่ดี ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 41.75 บาท(รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
  + พาณิชย์ เรียกถกห้างฯ ปรับราคาอาหารจานเดียว หลังพบต้นทุนน้ำมัน และอาหารสดลดลงแต่ราคากลับไม่ลดตาม แถมบางรายการยังปรับขึ้นอีก เตรียมเสนอ ครม.ผลักดันเรื่องการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติตั้งบอร์ดส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศลุยทำงานตามเป้าหมาย เมินหลายหน่วยงานปรับลดเป้าลง ยันส่งออกโต 4% พร้อมผนึกกำลังรัฐ-เอกชน เร่งขยายการค้าชายแดนปีนี้โต 30% มูลค่า 1.5 ล้านล้าน ทางด้านจีนย้ำความสำคัญไทย-จีน เผย ปี 57 มูลค่าการค้ารวมกว่า 2 ล้านล้านบาท แม้ไทยเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ระบุ 5 ปี มีแผนลงทุนต่างประเทศ 5 แสนล้านดอลลาร์ ด้านภาคเอกชนหวังความร่วมมือ 2 ประเทศ ดันจีดีพีพุ่ง 6% แนะดึงความพร้อมด้านเงินทุน เทคโนโลยี ชี้อนาคตจีนเน้นอุตสาหกรรมหนัก เปิดทางเอสเอ็มอีเจาะตลาด

ปัจจัยต่างประเทศ
  + ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด หรือ +0.04%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  + สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน มี.ค.ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!