- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 February 2015 16:45
- Hits: 1880
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้จะอ่อนตัวบ้างแต่คาดไม่รุนแรง ดังนั้นยังซื้อลบแล้วเน้นถือ!!
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ยังอยู่ในช่วงแกว่งขึ้น เพื่อลุ้นเป้าหมายขยับเข้าใกล้ 1649.77 จุดตามคาด ถึงแม้ว่าอาจจะมีช่วงอ่อนตัวบ้าง แต่กรอบปรับลงคาดว่าไม่รุนแรง ดังนั้นจึงยังเน้นซื้อช่วงลบแล้วเน้นถือต่อเนื่องมากกว่าอยู่
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEC, LDC, TPIPL(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET เริ่มมีแรงขายกดดันอีกครั้ง หลังช่วงต้นชั่วโมงดีดขึ้นต่อเนื่องพอควร ก่อนที่ดัชนีจะค่อยๆ ซึมลงมาเหลือบวกน้อยลง และ call ปิดเป็นลบไปเล็กน้อย ขณะที่เช้านี้ยังมีแรงกดดันจากภาวะตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดเป็นลบ แม้ว่าเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะพลิกกลับมาปิดบวกเล็กน้อยได้ จากตัวเลขผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนเข้ามาช่วยหนุนก็ตาม แต่ในระหว่างวันดัชนีดาวโจนส์ก็แกว่งตัวผันผวนมาก เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่กลับมาร่วงลงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ SET ยังมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายกดดันต่อเนื่องในเช้าวันนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม FSS คาดว่าแรงขายที่ออกมากดดันน่าจะมีไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับเริ่มเข้าใกล้ช่วงทยอยประกาศผลประกอบการของ บจ.ต่างๆ แล้วด้วย ทำให้ FSS คาดว่าจะยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนให้ SET สามารถขยับขึ้นหาจุดสูงสุดเดิมแถว 1649.77 จุดได้ในเร็วๆ นี้
แนวรับ 1595-1592 , 1588-1584 จุด
แนวต้าน 1605-1610 , 1615-1625 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในปริมาณหนาแน่นขึ้น โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$324 ล้าน เกาหลีใต้ US$199 ล้าน ไทย US$74.7 ล้าน อินโดนีเซีย US$69.4 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$27.7 ล้าน แต่ขายเวียดนาม US$0.4 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังไหลเข้าแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ECB กดดันกรีซ ส่วนจีนลดดอกเบี้ย ECB ประกาศไม่ยอมรับซื้อพันธบัตรกรีซโดยตรง หมายความว่ากรีซไม่สามารถกู้ยืมเงินโดยตรงจาก ECB ได้ แต่ต้องกู้ผ่านธนาคารกลางของกรีซเองซึ่งทำให้มีดอกเบี้ยจ่ายแพงขึ้น และเย็นวานนี้ ธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR (เงินฝากขั้นต่ำที่แบงก์ต้องสำรองไว้ก่อนปล่อยกู้) 0.5% เหลือ 19.5% คาดว่าจะเพิ่มสภาพคล่องให้ระบบ 2 แสนล้านหยวน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง ค่าเงินบาทไม่ตอบสนองมากนัก ยังคงแกว่งแคบในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
(+) ADVANC รายงานผลประกอบการเย็นนี้ เราคาดว่า 4Q14 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2014 เราคาดกำไรปกติ +11% Q-Q, +9% Y-Y เป็น 9.82 พันล้านบาท จากรายได้ Non Voice และยอดขายมือถือ (iPhone 6) ขณะเดียวกันต้นทุนค่า Regulatory Cost น่าจะลดลงมาก เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 300 บาท และคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลงวด 2H14 หุ้นละ 6.36 บาท (yield 2.6%)
(+) KAMART แม้กำไรสุทธิใน 4Q14 จะยังไม่โดดเด่นเพราะจะมีการบันทึกค่าเบี้ยปรับภาษีซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และบันทึกผลขาดทุนจากงานส่วนหนึ่งของธุรกิจเก่าสมัยที่เป็น DISTAR ทำให้กำไรสุทธิใน 4Q14 -11% Y-Y, +13% Q-Q แต่กำไรปกติ คาดโตแรง +25% Q-Q, +103% Y-Y หลังจากหมดภาระกับรายการพิเศษดังกล่าวแล้ว ผลประกอบการปี 2015 จะสะท้อนธุรกิจเครื่องสำอางที่โตแรงได้ดียิ่งขึ้น เราคาดกำไรปีนี้โต 53% Y-Y และโตเฉลี่ย 21% ในปี 2016-17 จากการรุก Modern Trade เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ได้ที่ 9 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
(0) SINGER เป็นไปได้ว่ากำไรใน 4Q14 อาจสร้างความผิดหวัง แทนที่จะเติบโตแต่กลับทรงตัวใกล้เคียง 3Q14 คือ 48 ล้านบาท เพราะกำลังซื้อของลูกค้ายังไม่ฟื้น เราปรับกำไรปี 2014 ลง 5% เป็นหดตัวจากปีก่อนหน้า 18% แต่คาดว่าจะฟื้นตัว 34% Y-Y โดยยังไม่น่าเห็นรายได้จากธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ในปีนี้ ประมาณการกำไรปี 2015 ของเราจึงมี upside หาก SINGER รุกสู่ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ เพราะมีศักยภาพพร้อมทั้งฐานลูกค้า จำนวนสาขา ฐานข้อมูล และบุคคลากร ระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น แต่เรายังคงคำแนะนำซื้อลงทุน และคงราคาเป้าหมาย 19 บาท
(0) GLOBAL แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q14 จะฟื้นตัว Q-Q จากฐานที่ต่ำ และได้รับผลบวกจากการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละพันของภาครัฐ โดยคาดยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะพลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส แต่การฟื้นตัวของกำไรใน 4Q14 ยังไม่ถึงระดับที่เคยทำได้ในอดีต ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2014 น่าจะลดลง 22% Y-Y และจะกลับมาฟื้นตัว 32% Y-Y ในปีนี้ เรายังคงราคาเป้าหมาย 13 บาท แม้ผลประกอบการจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ราคาหุ้นที่ขยับขึ้นก็สะท้อนการฟื้นตัวไปบ้างแล้วจนเหลือ upside เพียง 8% จึงยังคงแนะนำถือ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนลบหลัง ECB กดดันกรีซอีกครั้งด้วยการเตรียมยกเลิกไม่ให้กรีซใช้ตราสารหนี้ค้ำประกันอีกต่อไป โดยมีเพียง DJIA เท่านั้นที่ปิดบวกได้เล็กน้อย
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดผสมโดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาสถานการณ์หนี้ของกรีซ
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบจากในกรีซที่มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ แต่ยังได้รับแรงหนุนหลังจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างโดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ดิ่งแรง 4.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแรงในช่วงหลายวันก่อนหน้า รวมถึงแรงกดดันจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นมากกว่าตลาดคาด
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,264.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสภาพคล้องในประเทศ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5 ก.พ. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
- อินโดนีเซีย: 4Q14 GDP (ตลาดคาด -1.5% Q-Q, +4.9% Y-Y)
- อังกฤษ: BOE ประชุม
6 ก.พ. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ม.ค.)
8 ก.พ. - จีน: ดุลการค้า (ม.ค.)
10 ก.พ. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.), ยอดสินเชื่อเดือน ม.ค.
12 ก.พ. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ม.ค.)
- ยูโรโซน: 4Q14 GDP
16 ก.พ. - ไทย: 4Q14 GDP (สศค.คาด GDP 4Q14 โต 2.3% Y-Y ทั้งปีโต 0.7%)
- ญี่ปุ่น: 4Q14 GDP
17 ก.พ. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- ยูโรโซน: Zew Survey Expectation (ก.พ.)
18-20ก.พ. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี ฮ่องกง จีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852