- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 February 2015 17:15
- Hits: 1558
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +305.36, NASDAQ +51.05, S&P +29.18, FTSE +89.25,CAC +50.23 และ DAX +62.94 ภายใต้ปัจจัยบวก (1) สัญญาณที่ดีจากความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของรัฐบาลกรีซชุดใหม่ ซึ่งมีท่าทีอ่อนลง และจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ แต่ยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่ โดยเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ และจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆ ถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย และ (2) กลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมัน หลังบริษัทพลังงานหลายแห่งวานแผนที่จะปรับลดการลงทุนในปีนี้ ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นสามารถช่วยชดเชยปัจจัยลบจากยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ – ธค. ลดลง เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันอีก 3.4%
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มีค. +US$3.48 อยู่ที่ US$53.05 ต่อบาร์เรล
หลังบริษัทพลังงานหลายแห่งประกาศปรับลดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมัน รวมถึงบริษัทบริติช ปิโตรเลียม (BP) ที่ในปี’58 จะลดค่าใช้จ่ายลงทุน 13% อยู่ที่ 35,000 ล้านUSD หลังราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างมาก และบริษัทเชฟรอนที่ประกาศเช่นเดียวกันในสัปดาห์ที่แล้ว
......ราคาทองคำส่งมอบเดือน เมย. -US$16.6 อยู่ที่ US$1,260.3 ต่อออนซ์ จากการขายทำกำไร และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของกรีซข้างต้น
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +2,274 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -2,376 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : คาดมีโอกาสปรับขึ้น? ตามตลาดต่างประเทศ ภายใต้ปัจจัยหนุนจาก (1) สถานการณ์ในกรีซ หลังการเจรจาหนี้ที่มีสัญญาณดีขึ้น และคาดช่วยลดความกังวลต่อประเด็นก่อนหน้าที่กรีซอาจจะเผชิญกับปัญหาหนี้สินจนถึงกับต้องถูกบีบให้ออกจากกลุ่มยูโรโซน โดยมาตรการความช่วยเหลือทางการเงินของสหภาพยุโรป (EU) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ต่อกรีซที่จะครบกำหนด 28/2/57 มูลค่า 240,000 ล้านยูโร หรือ 270,000 ล้านUSD (2) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ล่าสุดกว่า 3USD ซึ่งคาดยังส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานทั้ง PTT และ PTTEP ตลอดจนกลุ่มโรงกลั่นทั้ง TOP, PTTGC, IRPC และ BCP ที่เริ่มมีกำไรจากสต็อกน้ำมันในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น
.....ขณะที่ประเด็นในประเทศ ยังให้น้ำหนักเป็นบวกต่อ Fund Flow ล่าสุดต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 2,200 ล้านบาท และทำให้ YTD ยอดขายสุทธิสะสมลดลงเหลือเพียง 2,376 ล้านบาท และในระยะกลางยังมีมุมมองที่ดีต่อ Fund Flow ที่คาดได้รับปัจจัยหนุนบ้างจากประเด็นการเริ่มใช้วงเงิน QE ของ ECB ตั้งแต่เดือนมีค. เป็นต้นไป และยังแนะติดตามการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเงินเฟ้อล่าสุดติดลบ รวมถึงประเด็นการเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q/57 – สิ้นเดือนกพ.
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.11 อยู่ที่ 1.78% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -2.10 อยู่ที่ 17.33
หุ้นแนะนำ : PTTGC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (4 – 6 ก.พ.’58)
4/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน - มค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - มค.(3) ดัชนี PMI ภาคบริการ - มค. (4) สต็อกน้ำมัน
5/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - ธค. (3) ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วย – 4Q/57
6/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - มค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788