- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 03 February 2015 16:45
- Hits: 1937
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น 3 กุมภาพันธ์ 2558
Up and Down (2)
วันนี้คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวรับ 1,571 แนวต้าน 1,592 จุด
ระยะสัปดาห์ คาดแนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,600/1,610 จุด ปัจจัยลบ ตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้คาดชะลอลง ส่งผลวิตก Earning downward revision, ส่วนปัจจัยหนุนดัชนีฯ คาดจะมาจากการรีบาวด์ (ไม่ไกล) ของหุ้นน้ำมัน ตามราคาน้ำมันดิบ (เด้งมาเป็นโอกาสในการขาย Short)
ระยะเดือน (กพ.) คาดความผันผวนของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดการเงินโลก และ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกแย่กว่าคาด จะกดดันหุ้นโลก และหุ้นไทย กลยุทธ์ แนะนำ รีบาวด์เป็นโอกาสในการกระชับพอร์ต หุ้นใหญ่ (น้ำมัน ปิโตรเคมี สินค้าโภคภัณฑ์ แบงก์ บ้าน ฯลฯ) แนวรับรายเดือนคาด 1,550 ถ้าหลุดคาดแนวรับถัดไป 1,515 จุด แนวต้าน 1,600 (+/-10) จุด
หุ้นแนะนำ เก็งกำไรหุ้น Local play: AIE และ HMPRO (เรา Upgrade rating to BUY)
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) HMPRO เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ จาก ถือ ราคาเป้าหมาย 9.4 บ. คาดกำไร 4Q14 ที่ 1 พันล้านบาท +8% y-y, +31% q-q และ คาดกำไร 1Q-2Q15 โตต่อเนื่อง 12-18% y-y, และกำไรครึ่งหลังของปีนี้จะเร่งตัวขึ้นอีกเป็น +20% y-y เราคาดราคาหุ้นควรจะเทรดที่ราคาสูงกว่านี้หากเทียบอัตราการเติบโตกับ PE ปัจจุบัน ทั้งนี้ PE ปัจจุบันเทรดที่ 25.9 เท่า ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 ปี และ เท่ากับค่าเฉลี่ย 5 ปี แต่อัตราการเติบโตต่อจากนี้จะดีกว่าช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ปัจจัยหนุนการเติบโตจะมาจากผลขาดทุนจาก HMPRO มาเลเซียปีนี้คาดทรงตัวที่ 100 ล้านบาท มีแนวโน้มเริ่มมีกำไรราวปลายปีนี้ และ MEGAHOME ที่รุกตลาดล่างในประเทศจะมีกำไรเติบโตสูงตั้งแต่ 2H15 เป็นต้นไป
(0) TCAP พบประธานบริษัทฯ เมื่อวาน โดยให้เป้าหมายสินเชื่อและ NIM (ส่วนต่างดอกเบี้ย) ที่ ไม่มี positive upside ต่อประมาณการณ์กำไรของเรา โดยสินเชื่อคาดโต 2-4% จาก SME โต 8-10% แต่เช่าซื้อลง 2-3% คาด NIM ที่ 2.7-2.9% เพิ่มขึ้นจากปี 14 ที่ 2.67% ส่วนตั้งสำรองมองจะเพิ่มขึ้นอีก ตั้งเป้า Coverage ratio ที่ 100% จาก 85% ขณะที่หนี้เสียมองเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ เราคงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 33.25 บ.
(+) BGH เราคงมุมมองเชิงบวกหลังพบผู้บริหาร เราคงคาดกำไร 4Q14 ที่1.7 พันล้าบาท +20% y-y, -10% q-q และ 1Q15 คาดโตต่อเนื่องจากลูกค้าผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นตาม High season คาดราคาหุ้นยังมี Upside จากการปรับเพิ่มกำไร จากการควบรวมกิจการ โดยผู้บริหารตั้งเป้าซื้อ รพ.เพิ่มอีก 6 แห่งภายในต้นปี 2016 แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย21 บาท
(-) BH เราปรับคำแนะนำลงจาก ซื้อ เป็น ถือ จากเต็มมูลค่าที่ 155 บาท
(+) DTAC เราปรับคาดการกำไรปี 2014-15 ลงเหลือ 1.3-1.35 หมื่นล้านบาท ปรับลง 5-7% ตามลำดับ จากการปรับรายได้ค่าบริการลง ส่งผลราคาเป้าหมาย (DCF) ปี 2015 ลง เหลือ 120 บาท แต่ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 92.5 บ. ได้ลดลงสะท้อนผลการดำเนินงานที่แย่กว่าคาดไปแล้ว เราคงแนะนำ ซื้อ และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 2015 ที่ 7%
หุ้นมีข่าว
(+) IFEC ข่าวผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่ของโลก Goldwind ตกลงเซ็นสัญญา Supply อุปกรณ์ใ้ห้ IFEC เมื่อ วันที่ 30 มค. ที่ผ่านมา / สะท้อนการก่อสร้าง รฟฟ. ลม ปากผนังและ เกาะใหญ่เป็นไปตามแผน อนึ่ง Goldwind จะ Supply อุปกรณ์ให้ต่อเมื่อมีกำลังลมสูงพอผลิตไฟเท่านั้น สะท้อนโครงการคืบหน้าเป็นไปตามคาด (ราคาเป้าหมาย 20-25 บ. กรณีดีกว่าคาด ถ้า WACC ลดลง เพราะต้นทุนทางการเงินในการลงทุนโรงไฟฟ้าในและต่างประเทศลดลง)
(+) AEONTS: BTS ขยายธุรกิจสมาร์ทการ์ดร่วมกับ อิออน ตั้งเป้าเพิ่มผู้ถือบัตรอีก 7 แสนราย
(-) โรงแรมท่องเที่ยว, โรงพยาบาลที่เน้นลูกค้าต่างชาติ คาดได้รับผลกระทบเชิงจิตวิทยาจากเหตุการณ์วางระเบิดที่สยามพารากอน
(+) BCP กระแสข่าว ก.คลัง ซื้อหุ้น BCP จาก PTT ผ่านวายุภักดิ์ (คาดได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน) ส่วนเอกชน กลุ่มมหากิจศิริ เต็งซื้อบิ๊กล็อต / คาดปลดล็อกปัจจัยกดดันราคาหุ้น จากวิตก ปตท. ขายหุ้นออกมาในตลาด
(+) JMART AIRA รับข่าว ทำธุรกิจสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) เมื่อวาน US ISM (มค.) ลงเหลือ 53.5 แย่กว่าคาดที่ 55 ลดลงจาก 55.5, US Core PCE -0.2% แย่กว่าคาดที่ 0%, Personal spending (ธค.) -0.3% แย่กว่าคาดที่ -0.2% จาก +0.6% m-m/ ไทย รายงานเงินเฟ้อ (มค.) ลดลง 0.41% จาก 0.6% ภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบ Earning downward revision
(-) อังคาร คาด ธนาคารกลางออสเตรเลียลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 2.25%, อินเดีย คาดคงดอกเบี้ย 7.75% (แนวโน้มการใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายสะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอกว่าคาด)
(+) พุธ US ISM ภาคบริการ (มค.) คาด +56.5 จาก 56.2, EU PMI composite (มค.) 52.2 (ไม่เปลี่ยนแปลง)
(-) พฤหัส BOE meeting, อินโดนีเซีย คาด GDP 4Q14 ลงเหลือ 4.9% จาก 5%y-y, ฟิลิปปินส์ คาด เงินเฟ้อ (มค.) CPI ลงเหลือ 2.3% จาก 2.7%
(-) ศุกร์ US การจ้างงานนอกภาคเกษตร +2.31 แสนราย (ลดลงจาก 2.52 แสนราย) และอัตราว่างงาน 5.6% (คงที่)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
คาดศก.ฟื้นยากส่งออกลดหนี้สูงผวาเงินโลกป่วน
"ทีดีอาร์ไอ" คาดเศรษฐกิจไทยปี 58 ฟื้นตัวได้ยาก ทั้งการส่งออกและการบริโภคในประเทศยังไม่มีวี่แววจะดีขึ้น ด้าน "เวิลด์แบงก์" คาดการณ์ "จีดีพี" ของไทยปีนี้เติบโตได้ 3.5% หวั่นตลาดเงินโลกผันผวนและอาจเกิดภาวะเงินฝืด ขณะที่ "สมหมาย" รับเหตุบอมบ์กลางกรุงกระทบเศรษฐกิจแบบปฏิเสธไม่ได้ วอนฝ่ายความมั่นคงเร่งตรวจสอบ หวังช่วยเรียกความเชื่อมั่น (หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์)
ศก.ช็อกบอมบ์ รมว.คลังยอมรับกระทบการลงทุน การเดินทาง ท่องเที่ยว
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า เหตุระเบิดกรุงเทพฯ ย่านใจกลางเศรษฐกิจเมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาถือว่ากระทบกับเศรษฐกิจของไทยแน่นอน ต้องรอฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบว่าระเบิดเกิดจากอะไร เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ไม่มีการตีความไปต่างๆ นานากัน (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ท่องเที่ยวฯชี้บึ้มไม่ป่วน
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เหตุระเบิดวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ยังไม่กระทบนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีน วันที่ 19 ก.พ. ยังคงจัดงานเฉลิมฉลองได้ปกติ ไม่มีนักท่องเที่ยวชาติใดยกเลิกเดินทาง แต่ต้องควบคุมห้ามเกิดซ้ำอีก (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
เศรษฐกิจชะลอทำกำลังสำรองโป่งเร่งถกกฟผ.-เอกชนเลื่อนผุดโรงไฟฟ้า
นายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า จากภาวะอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าปรับสูงขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 20-25% จะค่อยๆ ไต่ระดับสูงถึง 42% ระหว่างปี 2566-2567 จึงอยู่ระหว่างการเจรจากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงผู้ผลิตไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) และรายเล็ก (เอสพีพี) เพื่อให้เลื่อนสร้างโรงไฟฟ้าออกไปในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นหลังปี 2568 แทน (หนังสือพิมพ์มติชน)
เงินเฟ้อม.ค.ติดลบรอบ5ปี ได้อานิสงส์น้ำมัน-ค่าไฟลด รัฐคุยโวคุมสินค้าอยู่หมัด
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน ม.ค. 58 เท่ากับ 106.02 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.41% และเป็นอัตราตัวเลขที่ติดลบครั้งแรก ในรอบ 5 ปี 4 เดือน (64 เดือน) นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 52 ที่เงินเฟ้อติดลบ 1.0% เนื่องจากราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศลดลงมาก รวมถึงมาตรการดูแลค่าครองชีพ และราคาสินค้าของรัฐบาล จนทำให้สินค้าหลายประเภททยอยปรับลดตามราคาน้ำมันดีเซล, ขณะที่ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอที) ก็ลดลง รวมถึงราคาอาหารสดที่สำคัญ ทั้งไข่ไก่ เนื้อสุกร ไก่สด ผักสดบางประเภทปรับตัวลดลง เป็นต้น (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)
ผู้โดยสารสุวรรณภูมิวูบ ไตรมาสแรกหด 0.57%
นายประพนธ์ ปัทมกิจสกุล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ยอดผู้โดยสารที่เดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 58 ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.57 มีทั้งสิ้น 12.9 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 0.57% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 10.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.04% แต่ผู้โดยสารภายในประเทศ มีเพียง 2 ล้านคน ลดลง 8.41% ส่วนเที่ยวบินนั้น มีทั้งสิ้น 75,511 เที่ยวบิน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 4.26% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 59,245 เที่ยวบิน ลดลง 6.18% ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศมี 16,266 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 3.41% (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน