- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 February 2015 15:25
- Hits: 1673
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (26-30 มกราคม 57)
SET แกว่งตัวลงตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีแนวต้านทางเทคนิคกดดันที่ระดับ 1,600 จุด ท่ามกลางข่าวดีจากฝั่งการประชุม FOMC สำหรับมุมมองดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดไทยยังไม่มีปัจจัยเด่นสนับสนุน ปิดตลาดดัชนีปิดที่ 1581.25 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง 17.08 จุด จากสัปดาห์ก่อน
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) ปริมาณสภาพคล่องในตลาดเงินที่เพิ่มขึ้นหลังการประชุม ECB ที่มีการดำเนินมาตร QE ในวงเงินที่มากกว่าคาด รวมถึงมุมมองของ FED ต่อการคงดอกเบี้ยนโยบาย ยังเป็นบวกต่อสภาพคล่องในระบบ
(+) น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.71 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 8.3% ด้วยมุมมองที่ผ่อนคลายลงในด้านอุปทานหลังจากที่รายงานตัวเลขแท่นขุดในสหรัฐฯรายสัปดาห์ลดลง
(+) Fund Flow ต่างชาติมีทิศทางไหลเข้า จากที่นักลงทุนต่างชาติมี Net Buy 9,450 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน
(-) สหรัฐเผยตัวเลข GDP ช่วงไตรมาส 4 ปี 57 ขยายตัว 2.6% ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ขยายตัว 3.2%
(-) เหตุระเบิดบริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS และหน้าห้างพารากอนในช่วงค่ำของวันที่ 1
ก.พ.58
(-) การเจรจาหนี้ของกรีซกับกลุ่ม EU และ IMF เป็นประเด็นที่ค้างคา ขณะที่เริมมีความกังวลว่าสเปนจะเดินตามรอยกรีซ หลังจากที่ประชาชนรวมตัวกันบนถนนนับแสนคนในกรุงมาดริดเพื่อสนับสนุน พรรคที่มีนโยบายต่อต้านการรัดเข็มขัด
(+/-) ประเด็นการเมืองในประเทศอาจมีความร้อนแรงขึ้นหลังความชัดเจนของคำตัดสินการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
(+/-) ผลประกอบการปี 57ของบริษัทจดทะเบียน
(+/-) ตัวเลขดัชนี Market PMI
(+/-) การประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย/อินเดีย/อังกฤษ
(+/-) การเจรจาลดหนี้ระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้
ความคิดเห็น
ดัชนีในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway เรามองดัชนีจะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยตลาดยังมี Fund Flow ต่างชาติช่วยสนับสนุนเมื่อดัชนีอ่อนตัว รวมถึงคาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบ rebound แรง ขณะที่ข่าวลบในตลาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และปัญหาการชำระหนี้ของกรีซ สำหรับภายในประเทศ ประเด็นการลงทุนของภาครัฐเป็นปัจจัยบวกหลัก
กลยุทธ์การลงทุน
ทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัว เช่นกลุ่มสายการบิน และท่องเที่ยว และเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลดีจากการขยายการลงทุนของภาครัฐเข่น ก่อสร้าง ICT เป็นต้น
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 2-5 ก.พ. 58
SET Closed 1,581.25 High: 1,610.78 Low : 1,581.01
Resistant 1,590 , 1,605 Support 1,580, 1,572 หากหลุด 1,550 จุดให้ขายหุ้นปริมาณมาก
SET ขึ้นทดสอบ 1,600 มากกว่า 8 ครั้งในช่วงระหว่างการซื้อขายตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ และเผชิญแรงขายอย่างจริงจังทุกครั้ง จนวันศุกร์แรงกดดันทำให้ SET ปิดต่ำสุดของสัปดาห์ ส่งผลให้เครื่องมือวัดค่าระยะสั้น RSI บอกทิศทางลง และ MACD สัญญาณระยะกลางมีแนวโน้มที่จะเกิดสัญญาณขายอีกครั้ง หาก SET ยังปรับตัวลงต่อในสัปดาห์นี้
กลยุทธ์
เราคาดว่า SET จะผันผวนตลอดสัปดาห์ แต่แกว่งตัวไม่กว้างมาก โดยแนวโน้มลงจะได้เปรียบกว่าแนวโน้มขึ้น และต้องระวังสัญญาณที่สำคัญดังต่อไปนี้
1. SET มีโอกาสเปิดตัวต่ำลงในวันจันทร์ ให้สังเกตราคาปิดหากทรงตัวเหนือราคาเปิดและไม่ต่ำกว่า 1,575 แสดงว่า SET ยังไม่เสียทรง ให้ถือหุ้นต่อได้
2. หากใกล้ปิดตลาด MACD ตัดเส้น signal ลง เราถือเป็นสัญญาณขายที่ 1 ของรอบนี้ ให้ขายหุ้นเหลือครี่งหนึ่งของพอร์ทแล้วไปรอแนวรับ 1,550 จุด
3. หาก SET ต่ำกว่า 1,550 จุด จะทำให้ต่ำกว่า Parobolic เป็นสัญญาณขายที่ 2 ให้ถือเงินสดมากกว่าหุ้น
4. หาก SET ผ่าน 1,605 จุด และไม่ปิดต่ำกว่านี้วันใด ให้ follow buy ไปขายที่ 1,650 จุด
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
JAS ราคาปิด 8.30 บาท แนวต้าน 8.50 , 9.85 แนวรับ 8.20 , 8.00
* แนวโน้มกำไร 4Q57 ยังแข็งแกร่ง และคาดว่าทั้งปี 57 กำไรปกติจะเติบโต 15%YoY
* บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขายกองทุน JASIF (28 ม.ค. 58- 3 ก.พ. 58) มูลค่า 5.5-5.7 หมื่นลบ.
* คาดมีโอกาสเห็นบริษัทฯจะจ่ายเงินปันผลพิเศษอีก 0.5-1 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6-12% หลังการจำหน่ายกองทุน JASIF เรียบร้อยแล้ว
กราฟ JAS อยู่ในช่วงของการปรับตัวสูงขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านกรอบบนของแนว Side way ที่ 8.50 บาท โดย RSI มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้นและค่อนข้างแข็งแรง เราคาดว่าจะผ่านแนวต้านนี้ไม่ยาก เพื่อเดินหน้าไปยังแนวต้านถัดไป
คำแนะนำ
1. หากอ่อนตัวลงตามภาวะตลาดแนะนำเข้าซื้อสะสม
2. หากผ่านแนวต้าน 8.50 บาท ให้ซื้อเพิ่ม
3. เมื่อชนแนวต้าน 9.85 บาท แบ่งขายทำกำไรกึ่งหนึ่ง เนื่องจากราคาจะ overbought จากนั้นลงมาตั้งรับใหม่
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ