- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 January 2015 17:02
- Hits: 1734
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
วิเคราะห์ทางเทคนิค ..............Technical Wiz : บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
แนวโน้มตลาดวันนี้ (30 ม.ค. 58)
แนะนำ/แนวโน้ม 1,580 คือจุดเลี้ยว แนวรับ 1 1,580 แนวต้าน 1 1,595
ดัชนีปิดเมื่อวาน 1,586.40 (-6.41) แนวรับ 2 1,560 แนวต้าน 2 1,605
SET แกว่งตัวตลอดวัน โดยมีจุด 1,600 คอยกดดันจากแรงขายดักทางไม่ให้ขึ้นต่อ อย่างไรก็ตามการอ่อนตัวของ SET ก็ยังไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนว่าจะปรับตัวลงจริงหรือไม่ เราจึงต้องใช้แนวสำคัญ 1,580 จุด และเมื่อ MACD ตัดเส้นค่าเฉลี่ยลง โดยต้องครบ 2 เงื่อนไขนี้เท่านั้น จึงให้ขายหุ้น หากยังคงย่ำๆ และแกว่งตัวไปมา เชื่อว่าตลาดยังไม่มีอะไรน่ากังวลมากนัก
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรตามจังหวะตลาด แบบขึ้นขาย และลงซื้อได้ตลอดวัน
2. คาด SET เปิดบวก ให้เลือกทางขายเมื่อชนแนวต้าน และตั้งรับเมื่ออ่อนตัว ให้ trading แบบฟันปลา
3. หากปิดตลาดหลุด 1,580 จุด แนะให้ลดพอร์ทอย่างเต็มที่
วิเคราะห์ทางเทคนิค รายหลักทรัพย์
AMANAH : ราคาปิด 1.05 บาท
แนวรับ 1.04 บาท แนวต้าน 1.15 บาท
แนว Cut loss หากหลุด 1.00 บาท
กราฟ AMANAH ดีดตัวขึ้นเป็นสัญญาณกลับตัวแบบ Bullish Engulfing ในกราฟแท่งเทียน โดย RSI ผงกหัวขึ้นรับ และหากวันนี้ยังปิดสูงขึ้นจะมีสัญญาณ Strong buy ต่อเนื่องอีกหลายวัน แนะนำเก็งกำไร
TGCI: ราคาปิด 3.24 บาท
แนวรับ 3.20 บาท แนวต้าน 3.50 บาท
แนว cut loss หากหลุด 3.18 บาท
กราฟ TGCI วิ่งผ่านแนวกรอบสามเหลี่ยมขึ้นมาได้ และมีสัญญาณซื้อในแท่งเทียนแบบ Bullish อยู่เหนือแนวจุด parabolic ขณะที่ RSI พุ่งขึ้นเป็น buy signal ทั้งหมดยืนยันการขึ้นต่อ แบบแข็งแกร่ง แนะนำซื้อเก็งกำไร และซื้อเพิ่มหากอ่อนตัว มองแนวทางการขึ้นหลายวัน
* ประเด็นเด็ด หมายถึงการจับประเด็นข่าวที่เป็นจริงหรือเอ่ยอ้างในการซื้อขายเข้ามาเป็นข้อมูลแนบในหุ้นนั้นๆ โดยไม่ได้เป็นการนำมาเป็นข้อมูลแนะนำ
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (29 ม.ค.) SET Index ปิดที่ 1586.40 จุด ลดลง 6.41 จุด หรือ 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53,753.32 ล้านบาท ตลาดถูกกดดันจากตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯมีแนวโน้มจะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยหลังจากเดือนมิ.ย.เป็นต้นไป และตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุน กระทรวงการคลังออกมาปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2557 และ 2558 ลง ส่งผลให้มีการขายหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วงบ่าย
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones สูงขึ้น 225 จุด จากตัวเลขเคลมการว่างงงานที่ลดลง 43,000 ราย และผลประกอบการของบริษัทที่ออกมาดี ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากผลประกอบการของบริษัทที่มีน้ำหนักไปในทางลบกับตลาด แต่ได้ผลบวกจากการปรับตัวเลข GDP ปี 2558 ของเยอรมัน จาก 1.3% เป็น 1.5% เรามองว่าแม้ภาพตลาดต่างประเทศจะดูเป็นบวก แต่ส่วนหนึ่งมาจากผลประกอบการซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตัวมากกว่า จึงส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก
ราคาน้ำมันดิบ WTI (Mar) ปิดตลาดที่ $44.53 เหรียญ/บาร์เรล สูงขึ้น $0.08 เหรียญ ตลาดยังมีความกังวลเรื่อง oversupply แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี ช่วยพยุงราคาน้ำมันไว้
เศรษฐกิจไทย - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 58 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นมาอยู่ที่ 3.9% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.4 - 4.4%) จากในปี 57 ที่คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ 0.7%
การใช้จ่ายของรัฐบาล - นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งการให้มีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งพบว่ายังไม่มีความล่าช้า เบิกจ่ายได้เพียง 60% และที่มีการลงนามทำสัญญาได้แล้วเพียง 20-30% เท่านั้น ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการรอทำสัญา ทั้งนี้เชื่อว่า หลังจากนี้จะเร่งรัดเบิกจ่ายได้เร็วขึ้นในช่วงท้ายของไตรมาสแรกและต้นไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2558
ชิ้นส่วนยานยนต์ -ผลผลิตรถยนต์ของประเทศอินโดนีเซีย สูงขึ้นตามลำดับ ตัวเลขผลผลิตล่าสุดในปี 2557 ห่างจากผลผลิตของไทยเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยที่สุด และคาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์อินโดนีเซียจะแซงหน้าไทยได้ภายในสิบปี
PTT-คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ประชุมวันนี้ วาระสำคัญ คือพิจารณาคือแนวทางการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV
ทิศทางตลาดหุ้นไทย คาดตลาดในวันสุดท้าย ยังคงไร้ปัจจัยบวกที่จะเข้ามาหนุนตลาด ดัชนีฯอาจมี rebound ตามต่างประเทศ แต่จะถูกกดดันจากการที่กระทรวงการคลัง ออกมาปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2557 และ 2558 จะทำให้เกิดความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ (เป็นลบกับหุ้นที่อิงเศรษฐกิจ เช่นกลุ่มธนาคาร) และหากระหว่างวัน ไม่มีข่าวในเชิงบวกเข้ามาในตลาด ดัชนีฯน่าจะปิดลดลงจากวันก่อน
กลยุทธ์การลงทุน วันนี้ หุ้นขนาดใหญ่ที่จะเข้าลงทุนแบบเก็งกำไรช่วงสั้น คงต้องเลือกเป็นบางตัว (BGH, SCC, INTUCH , ADVANC, TRUE, NOK, MINT) แต่ชะลอการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นผลจากแนวโน้ม GDP ที่โตน้อยกว่าที่เคยคาด ….. อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนอยู่ ที่มีการซื้อขายมากในช่วงนี้ อาทิเช่น กลุ่มรับเหมา+วัสดุก่อสร้าง (ITD, STEC , SCP, TGCI) กลุ่ม Media (RS, MONO, GRAMMY, MACO) เป็นต้น
Stock in Focus
SVI (ราคาปิด 4.26 บาท ; ราคาเป้าหมายจากบทวิเคราะห์ล่าสุด โดย IAA 4.20 บาท) หลังจากที่เกิดไฟไหม้โรงงาน เมื่อ 12 พ.ย.57 จนทำให้บริษัทต้องหยุดผลิตไปหลายสัปดาห์ บริษัทฯได้เปิดโรงงานเดิมบนถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.57 อีกทั้งจะเริ่มทำการผลิตจากโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ถึงกระนั้นกำลังการผลิตและรายได้ปี 2558 จะหายไปค่อนข้างมาก (ขึ้นอยู่กับ order ที่จะเข้ามาใหม่) .... ด้านผลการดำเนินงาน คาดบริษัทฯจะบันทึกค่าใช้จ่ายจากความเสียหายทรัพย์สินที่เกิดจากไฟไหม้ ไปตั้งแต่งวด Q4/57 ดังนั้นผลการดำเนินงานปี 2558 จะปรากฎรายได้ซึ่งเป็นรายการพิเศษ (เงินประกันค่าเสียหาย+เงินประกันการสูญเสียรายได้) ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง 2 พันลบ. หรือ 0.88 บาท/หุ้น เมื่อรวมรายได้ 2 โรงงานที่เป็นกำลังการผลิตสำรอง กำไรปี 2558 จะสูงมาก .... ล่าสุด บริษัทได้แจ้งตลาดฯ เรื่องการบริหารเงินสด ด้วยการซื้อหุ้นคือ วงเงิน 1 พันล้านบาท จำนวนหุ้น 200 ล้านหุ้น และนำเงินบางส่วนไปซื้อกองทุน TGGROWTH เนื่องจากบริษัทมีเงินสดเหลืออยู่มาก (ณ 30 ก.ย.57 งบการเงินรวม มีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราว รวมกัน 2.1 พันล้านบาท) ซึ่งผลจากการซื้อหุ้นคืน จะก่อให้เกิดรายได้จากเงินปันผล และหุ้นที่ลดลงจากการซื้อหุ้นคืน จะเพิ่มกำไรต่อหุ้นให้สูงขึ้น และที่สำคัญ จะช่วยพยุงราคาหุ้นไม่ให้ปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์