- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 January 2015 16:14
- Hits: 2121
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
มุมมองตลาด
ตลาดทุนทั่วโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นทั้งยุโรปและเอเชียรวมถึงประเทศไทย ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นทดสอบ 1600 จุด อย่างไรก็ตามดัชนียังไม่สามารถยืนปิดเหนือหรือทะลุผ่านไปได้ ปัจจัยบวกยังคงเป็นเรื่องของกระแสเงินลงทุนที่ไหนเข้าสู่ตลาดทุน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิที่ 1.3 หมื่นล้านบาท (21-28 ม.ค.) สอดคลอ้งกับราคาหุ้น Big-cap ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ดัชนีกลุ่มธนาคาร สื่อสารและกลุ่มวัสดุก่อสร้างทะลุแนวต้านเดิมได้ตามคาด ขณะที่กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว เรายังคาดว่าสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นยังมีโมเมนตัมของการปรับขึ้นต่อเนื่องจากหนุนโดยสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น สัญญาณทางเทคนิคมองตลาดปรับขึ้นเนื่องจากเหตุผล:
1.ตลาดหุ้นในภูมิภาคยังคงเคลื่อนไหวบนแนวโน้มขาขึ้นหลัก
2.นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อสุทธิต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีสภาพคล่อง ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น
3.หุ้นในประเทศ Domestic play น่าจะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่เติบโตและโครงการสาธารณูปโภคของรัฐฯ
4.ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรงตัว
5. แนวโน้มตลาดลุ้นทะลุ 1600 จุด โดยมองแนวต้านถัดไปที่ 1630 จุด /แนวรับ 1580 จุด
แนวทางการลงทุน: แนะนำซื้อหุ้น " SIRI SCC SAPPE แนะนำ " ขาย " SEAFCO
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
รายงานวันนี้
หุ้น: VGI คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 11.00
VGI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 (ต.ค.-ธ.ค. 2557) ที่ 301 ล้านบาท ลดลง 5% YoY แต่เพิ่มขึ้น 14% QoQ สูงกว่าคาดการณ์ของเราและตลาด 5% จากกำไรพิเศษ
รายได้ลดลง 2% YoY และ 1% QoQ เป็น 789 ล้านบาท ซึ่งอ่อนตัวกว่าเม็ดเงินโฆษณาทั่วทั้งอุตสาหกรรม อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 53.5% ในไตรมาส 3/57 จาก 60.9% ในไตรมาส 3/56 และ 54.6% ในไตรมาส 2/57
เราคาดกำไรของ VGI จะเพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาส 4/57 (ม.ค.-มี.ค. 2558) หนุนจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวในวงกว้าง แต่คาดกำไรสุทธิไตรมาสดังกล่าวจะหดตัว QoQ จากผลกระทบทางฤดูกาลในแง่ของเม็ดเงินโฆษณา
เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2557 ลง 9% เป็น 989 ล้านบาท และปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีดังกล่าวลง 5%
การฟื้นตัวของรายได้ยังคงอ่อนตัว และสัญญากับพื้นที่ในเทสโก้ โลตัส ซึ่งกำลังจะหมดลงอาจส่งผลให้ตลาดปรับลดประมาณการ มูลค่าหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2558 ที่ 42 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 25 เท่า
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: DCC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 6.80
DCC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 ที่ 271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และทรงตัว QoQ ต่ำกว่าคาดการณ์ของเราและตลาด 27% และ 8% ตามลำดับ
สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่ลดลงส่งผลให้กำไรเติบโต YoY ยอดขายหดตัว 5% YoY และ 3% QoQ เป็น 1.6 พันล้านบาท
ปริมาณขายและกำไรในไตรมาส 1/58 คาดปรับตัวดีขึ้น QoQ จากช่วงฤดูกาล และดีขึ้น YoY จากบรรยากาศทางธุรกิจที่ดีขึ้น
เราจะทำการพิจารณาประมาณการของเราอีกครั้งหลังกำไรปี 2557 น่าผิดหวัง ซึ่งโดยหลักเป็นผลจากยอดขายที่อ่อนตัว
แม้กำไรสุทธิจะต่ำกว่าคาด แต่กำไรของบริษัทนั้นเติบโต YoY เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 3/56 ซึ่งบ่งชี้ถึงสัญญาณฟื้นตัว
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: IRPC คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 3.30
เราแนะนำ ขาย IRPC และมองว่าราคาจะปรับลดลงในเดือนหน้า เรามองว่าตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรปี 2558 ลง ในขณะที่ขณะนี้ประมาณการของเราต่ำกว่าตลาดอยู่ 40%
IRPC มีแนวโน้มรายงานขาดทุน 6,337 ล้านบาทในไตรมาส 4/57 เทียบกับกำไร 22 ล้านบาทในไตรมาส 3/57 โดยราคาน้ำมันที่ดิ่งลงจะส่งผลให้เกิดขาดทุนสต๊อดน้ำมันและการบันทึกราคาทุนหรือตลาดที่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ค่าการกลั่นรวมเฉลี่ยแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เดือนม.ค.จนถึงปัจจุบัน โดยเราคาดไว้ที่ 11 เหรียญต่อบาร์เรล แต่เราเชื่อว่าขาดทุนสต๊อกน้ำมันจะกลบผลกระทบดังกล่าว เราจึงคาดว่าบริษัทจะขาดทุนสุทธิ 1.1 พันล้านบาทสำหรับไตรมาส 1/58
เราเชื่อว่าส่วนต่างราคาที่ค่อนข้างสูง ณ ปัจจุบันจะลดลงเมื่อเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นในเดือนก.พ. โดยเรามองว่าส่วนต่างราคาจะต่ำกว่า 9 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับจุดคุ้มทุนที่ 8.5 เหรียญต่อบาร์เรล
เรามองว่า ตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อหน่วย UHV มากเกินไป (เริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/58) และคาดอุตสาหกรรมจะยังไม่กลับมาเป็นขาขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2559
นักวิเคราะห์: ธนัทเทพ จันทรกานต์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: SCC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 540.00
SCC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 ที่ 8.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% YoY และ 12.9% QoQ
ธุรกิจปิโตรเคมีรายงานกำไรสุทธิเติบโต 58% YoY เป็น 3.5 พันล้านบาท
อุปสงค์ซีเมนต์เริ่มฟื้นตัว แต่ขาดทุนจากโรงงานใหม่จะเป็นปัจจัยกดดันกำไรในครึ่งหลัง
อุปสงค์วัสดุก่อสร้างในประเทศยังคงอ่อนตัว แต่ธุรกิจในอาเซียนเติบโตแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
Technical Analysis
Security: SIRI
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 1.96
Stop loss: < 1.74
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ สอดคล้องกับสัญญาณบวกของ MACD ผ่านเส้น 0 บ่งชี้ถึงแนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้น
Security: SCC
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 494
Stop loss: < 474
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทะลุเส้นแนวต้านสำคัญ 12.5 เรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ สอดคล้องกับสัญญาณบวกของ RSI และวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: SAPPE
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 41
Stop loss: < 35
Reason: 2 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามปัจุบันราคาสามารถทะลุเส้นแนวโน้ม 35 บ. เป็นการกลับตัวเปลี่ยนเป็นขาขึ้นรอบใหม่
Security: SEAFCO
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง และให้ผลตอบแทนมากกว่า 10% นับตั้งแต่ต้นปี ปัจจุบันพบว่าหุ้นเริ่มมีความเสี่ยงสูงเมื่อ RSI > 70 และกำลังปรับตัวลง
Security: CPALL
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาดและปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับ RSI เริ่มปรับลงเป็นโอกาสในการขายเพื่อลดความเสี่ยง
Security: TSE
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD ตัดเส้น Signal line ลงและต่ำกว่าเส้น 0 บ่งชี้แนวโน้มหลักยังคงรูปแบบขาลง
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์