- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 January 2015 15:49
- Hits: 1478
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังอยู่ในช่วงปรับลงให้ซื้อ เพื่อรอวิ่งขึ้นรอบใหม่...
กลยุทธ์ : แม้ว่า FSS คาดว่า SET ยังอยู่ระหว่างแกว่งพักตัว แต่คาดเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนกลับไปขยับบวกต่อเนื่องเพื่อทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 1649.77 จุดได้ในที่สุด ดังนั้นตลาดปรับลงเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อสะสมได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : GUNKUL, GLOBAL, KTC(short)
แนวโน้ม : SET ยังแกว่งตัวผันผวน และมีจังหวะย้อนลบให้เห็นบ้างแล้ว ซึ่งคาดว่าเกิดจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังการดีดตัวขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อน ถึงแม้ว่านักลงทุนต่างประเทศจะกลับมามียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องในระดับสูงพอควรแล้วก็ตาม แต่นักลงทุนในบ้านเราก็ยังกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่ผลประชุมเฟดเมื่อคืนนี้แม้ว่าจะออกมาตามคาด แต่การส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังช่วงกลางปี 2558 นี้ และการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับกรีซและรัสเซีย ก็ยังคงกดดันให้ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ไม่สดใสนัก ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังอยู่ในช่วงของการแกว่งผันผวนและมีสิทธิปรับพักตัวลงต่อได้ อย่างไรก็ตามเราคาดว่ากรอบการปรับตัวลงของดัชนียังค่อนข้างจำกัด และหลังจากนั้นยังมีแนวโน้มที่ SET จะกลับไปขยับขึ้นต่อ จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการและการจ่ายปันผลของ บจ.ต่างๆ ที่ใกล้จะทยอยประกาศในช่วงถัดจากนี้ได้
แนวรับ 1587-1582 , 1575-1570 จุด
แนวต้าน 1596-1602 , 1606-1610 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ในปริมาณเบาบาง โดยต่างชาติซื้อตลาดหุ้นไต้หวัน US$342.9 ล้าน ไทย US$115.7 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$11.7 ล้าน และเวียดนาม US$1.2 ล้าน แต่ขายอินโดนีเซีย US$34 ล้าน และเกาหลีใต้ US$25.8 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะไหลเข้าต่อแต่เบาบางหลังเฟดมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังดีต่อเนื่องและคงนโยบายการเงินเช่นเดิม
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) Fed และ กนง. คงดอกเบี้ย โดย Fed ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า (มี.ค. และ เม.ย.) ตลาดจึงคาดว่ามีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย มิ.ย. ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าต่อ สำหรับกนง.คงดอกเบี้ยด้วยเสียง 5 : 2 เท่าการประชุมครั้งก่อนที่มี 2 เสียงให้ลดดอกเบี้ย 0.25% กนง.มองว่าราคาน้ำมันที่ปรับลงมามากจะช่วยให้การฟื้นตัวในระยะถัดไปเข้มแข็งขึ้น แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะมีความเสี่ยงที่จะหลุดขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปีนี้ (ที่ 1.5-2.5%) แต่ไม่เป็นภาวะเงินฝืด และจากคำแถลงกนง.สะท้อนว่าดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ต่อไปอีกระยะใหญ่ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีต่อตลาดหุ้นโดยรวม
(+) SCC กำไรสุทธิใน 4Q14 +13% Q-Q, +11% Y-Y ดีกว่าที่เราคาด 15% จากธุรกิจปิโตรเคมีที่มียอดขายเพิ่มมากกว่าคาด ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2014 -8% Y-Y เรายังคงคาดกำไรสุทธิปี 2015 ฟื้น +22% เป็น 4.12 หมื่นล้านบาท จากการขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ในกัมพูชาและอินโดนีเซีย และฟื้นตัวตามการลงทุนในประเทศ รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีที่จะฟื้นจากปีก่อน ยังคงราคาเป้าหมาย 520 บาท แนะนำซื้อ ทั้งนี้ SCC จะจ่ายปันผล 7 บาท/หุ้น (yield 1.5%) XD 31 มี.ค. จ่ายเงิน 23 เม.ย. 2015
(-) GFPT แนวโน้มกำไรใน 4Q14-1Q15 อ่อนแอกว่าคาด จากปัญหา Supply ไก่ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 31 ล้านตัวต่อสัปดาห์ แม้เป็นการรองรับการส่งออกแต่กระทบราคาชิ้นส่วนไก่ในประเทศ เราคาดกำไรใน 4Q14 ลดลงถึง 26% Q-Q และ 19% Y-Y และปรับลดกำไรสุทธิปี 2014-15 ลง 4% และ 8% เหลือเติบโต 19% Y-Y และ 7% Y-Y ตามลำดับ ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 18 บาทจาก 22 บาท แม้ว่าราคาหุ้นจะมี upside กว่า 10% แต่แนะนำชะลอการซื้อจนกว่าจะเข้า 2Q15 ซึ่งเป็น high season ของธุรกิจ
(-) GLOW การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ให้โทนไปทางลบ แนวโน้มกำไร 4Q14 แย่กว่าที่เคยคาด ทำให้กำไรสุทธิปี 2014 น่าจะทำได้ 9.1 พันล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาด 7% แต่เป็นสถิติสูงสุดของบริษัทเพราะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า Gheco-One เต็มปี การไม่มีแผนลงทุนที่ชัดเจนและไม่มีการขยายกำลังผลิตใหม่ ขณะที่ค่าไฟของโรงไฟฟ้า Glow-IPP จะลดลงตามสัญญา ทำให้แนวโน้มกำไรปีนี้ชะลอ เราคาดว่าน่าจะมีกำไรประมาณ 8.0-9.5 พันล้านบาท/ปีในระยะ 2 ปีข้างหน้า ราคาหุ้นปัจจุบันเต็มมูลค่าที่ 95 บาทแล้ว แนะนำขาย
(-) VGI หากไม่รวมกำไรจากการขาย MACO-W1 กำไรปกติ 3Q14 (สิ้นสุด ธ.ค. 2014) ลดลง 6% Q-Q และ 22% Y-Y แนวโน้มกำไรยังชะลอตัวใน 1-2 ไตรมาสข้างหน้า และราคาหุ้นแพงมากคิดเป็น PE ปี 2015 ถึง 38 เท่า และปี 2016 ที่ 32 เท่า เราคงคำแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท บริษัทปันผลเป็นหุ้น 1 : 1 XD 17 มี.ค. จ่าย 31 มี.ค.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงต่ออีกเกือบ 200 จุด หลังหุ้นในกลุ่มพลังงานยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงต่อ
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดผสมโดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นกรีซหลังมีความกังวลว่าจะผิดนัดชำระหนี้ หลังพรรคไซรีซ่าที่ชนะการเลือกตั้งประกาศว่าจะไม่ใช้มาตรการรัดเข็มขัด
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลงโดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลงต่อ
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกดานข้าง โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.48-32.64 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 44.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง FED ให้ความเห็นว่ายังสามารถอดทนรอขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้อยู่แต่ห้อยท้ายไว้ว่าเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้าหมาย
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,285.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลง 5.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดย FED กล่าวว่ายังสามารถอดทนรอได้อีกระยะหนึ่งในการขึ้นอัตราดอดเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29 ม.ค. - ไทย: PTTEP ประกาศงบปี 2014
- ฟิลิปปินส์: 4Q14 GDP
- สหรัฐ: Pending home sales (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
30 ม.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ธ.ค.
- ไต้หวัน: 4Q14 GDP
- สหรัฐ: 4Q14 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
1 ก.พ. - จีน: Manufacturing PMI (ม.ค.)
2 ก.พ. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ม.ค.)
- สหรัฐ: การใช้จ่ายส่วนบุคคล (ธ.ค.), ISM Manufacturing (ม.ค.)
3 ก.พ. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลางประชุม
4 ก.พ. - จีน: HSBC China Composite PMI (ม.ค.)
- อินโดนีเซีย: 4Q14 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ม.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852