WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
      ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX ยังไม่ผ่านแนว 1,600 จุด เกิดแรงขายทำกำไรมากขึ้นในช่วงบ่าย เนื่องจากตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 แม้ว่าธปท.จะส่งสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจใน 1Q58 อาจเติบโตได้กว่า 4.0% yoy ก็ตาม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,592.81 จุด บวก 3.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,773 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 3,760 ล้านบาท คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 3,224 สัญญา คาดเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้า และคงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 2,670 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ธปท.ส่งสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจใน 1Q58 อาจเติบโตมากกว่า 4.0% จากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศ
•ผลการประชุมเฟด ยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป โดยให้น้ำหนักความเสี่ยงกับเศรษฐกิจโลกแทนอัตราเงินเฟ้อต่ำ แม้ว่ามุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นบวกมากขึ้นก็ตาม
•ราคาน้ำมัน NYMEX ปิดต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี พร้อม Goldman Sache ปรับแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทุกประเภทลง

มุมมองต่อตลาด
      เราคงมุมมองเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 4 พร้อมคงกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,580-1,600 จุด เช่นเดียวกับวันก่อนหน้า ประเด็นสำคัญคือ เงินทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยตลอด 6 วันทำการ 14,930 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเหลือ 4,304 ล้านบาท เราเชื่อว่าเงินทุนต่างชาติจะยังคงทยอยสะสมหุ้นไทยต่อเนื่อง เพื่อเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงาน และเงินปันผลงวดปี 2557 หรือ 2H57 ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ที่ผลตอบแทนทั้งระยะสั้น – กลาง – ยาว อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับต้นปีที่แล้ว
    ขณะที่ ธปท. ให้ความเห็นเชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจใน 1Q58 แม้ว่าประเด็นนี้จะทำให้โอกาสที่ กนง.จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย RP1 วันในครั้งถัดไปดูจำกัดมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับนโยบายการเงินของเฟดเป็นสำคัญในช่วงกลางปีนี้ แต่เมื่อความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจกลับมาในมุมมองของ ธปท. กลับสะท้อนไปยังความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนใน 1Q58 จะฟื้นตัวเชิงบวกได้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้พื้นฐานการลงทุนของตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
     ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ Goldman Sache ปรับแนวโน้มลง และราคาน้ำมันดิบ NYMEX คืนวานนี้ปิดต่ำกว่า US$45/barrel ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552 เป็นบวกต่อกลุ่มสายการบิน และเศรษฐกิจภายในประเทศ
    อย่างไรก็ตาม ภาพรวม SET INDEX จะยังมีความผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ BAY ที่ยังไม่การแกว่งตัวในกรอบกว้าง จาก Bid – Offer ที่จำกัด แต่มีน้ำหนักต่อการคำนวณดัชนี SET INDEX ในภาพรวม
     ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเป้าหมายเป็นสำคัญ มากกว่า การตัดสินใจวางแผนการลงทุนด้วยการประเมินจาก SET INDEX เหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.26 น) เปิดลบเฉลี่ย 0.5% ตามทิศทาง DJIA และค่าเงินเยนที่แข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุน
     ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,600 จุด หรือราคาหุ้นเป้าหมายเริ่มมี Upside gain จากราคาเหมาะสมเริ่มจำกัดมากขึ้น” เพราะภาวะการลงทุนในช่วงสั้นจะยังมีความผันผวนสูง ดังนั้นการรอจังหวะกลับเข้าสะสมหุ้นเป้าหมาย เมื่อราคาปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขายก็เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการทำกำไรรอบสั้น
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO
Accumulative Buy: AAV/ ADVANC

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.ADVANC : ราคาปิด 251.00 บาท ราคาเหมาะสม 320.00 บาท
a)MBKET คาดว่ากำไรปกติ 4Q57 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 9,877 ล้านบาท เติบโต +9% yoy และ +12% qoq เนื่องจากรายได้ Non-Voice เติบโตถึง +40% yoy จากจำนวนผู้ใช้บริการ 3G ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
b)ขณะที่การควบคุมต้นทุนยังทำได้ดี เนื่องจากได้ประโยชน์จาก Regulatory Cost ต่อรายได้ที่ลดลงเหลือ 13.3% ใน 4Q57 จาก 15.6% ใน 3Q57 และค่าใช้จ่ายโครงข่ายลดลง 5% qoq เนื่องจากผ่านการลงทุนโครงการข่ายหลัก 3G จำนวน 20,000 สถานีแล้ว
c)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +17.4% yoy เป็น 43,183 ล้านบาท และการประมูล 4G ในปี 2558 จะเป็น Catalyst ให้กับราคาหุ้น และ ADVANC ได้ประโยชน์โดยตรงเนื่องจากคลื่น 900 MHz จะหมดอายุสัมปทานในปี 2558 ดังนั้น หากการประมูล 4G เกิดขึ้นในปีนี้จะส่งผลให้ตลาดเลิกกังวลต่อการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของบริษัท
d)ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี คาดการณ์เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 6.09 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.4% และปี 2558 หุ้นละ 14.23 บาท คิดเป็น Dividend Yield 5.6%
2.AAV : ราคาปิด 5.10 บาท ราคาเหมาะสม 5.50 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะได้ Sentiment เชิงบวก จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลงต่ำกว่า US$45.00/barrel โดยลดลง -3.8% dod เหลือ US$44.45/barrel ทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี
b)คาดผลประกอบการ 4Q57 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว และปี 2558 จะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอานิสงค์ของราคาน้ำมันอากาศยานที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเฉลี่ย US$124.00/barrel เหลือ US$85.00/barrel ในปี 2558
c)ผลักดันให้กำไรปี 2558 เติบโตสูงถึง +1,149.2% yoy เป็น 2,024 ล้านบาท และ Valuation ยังค่อนข้างถูก เนื่องจากซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีเทียบเท่า PBV 2558 ที่ 0.9 เท่า

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 อีก US$412 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$655 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 342.9 428.7 2,213.3 13,190.4 9,188.0
KOSPI -25.8 82.0 -697.0 6,165.50 4,875.1
JSE -34.0 51.9 -22.4 3,750.60 -1,806.4
PSE 11.7 -9.3 505.2 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 1.2 -1.3 1.7 135.6 263.2
SET INDEX 115.7 103.3 -127.6 -1,091.4 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย แต่ปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures

วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +3,760 +3,361
SET50 Index Futures (สัญญา) -3,224 -3,462
SSF (สัญญา) +1,255 +2,879
Metal Futures (สัญญา) +501 -136
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -2,670 -1,254

     นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 เร่งขึ้นเป็น 3,760 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ซื้อสุทธิหนาแน่นถึง 14,930 ล้านบาท กดดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเหลือ 4,304 ล้านบาท เราเชื่อว่ายอด YTD จะกลับมาเป็นซื้อสุทธิในระยะเวลาอันสั้น
แต่คง SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 3,224 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 11,544 สัญญา เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 25,902 สัญญา เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 11,668 สัญญา คาดเป็นการปิดสถานะ Long สุทธิเพื่อทำกำไร กดดันให้ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือเพียง 2.51 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 5.72 จุด
     ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 2,670 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิ 12,131 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงค่อนข้างมาก ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 มากถึง 2.84bps ปิดที่ 2.588%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 388 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 351 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
TRUE 152.27 4.70% 13.23
AOT 34.32 8.03% 312.29
ITD 29.85 1.60% 8.70
THCOM 23.22 18.56% 39.44
PTT 23.03 1.55% 350.07

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 ลักษณะ Basket orders
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิมากถึง 3,889 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,658 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ซื้อสุทธิ 16,561 ล้านบาท โดยเป็นลักษณะ Basket orders ตามน้ำหนักของกลุ่มหลักในตลาดหุ้นไทย สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1.กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 734 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,219 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 725 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 363 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 697 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 219 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 644 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 938 ล้านบาท และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 223 ล้านบาท
2.กลุ่มเกษตร ถูกขายสุทธิสูงสุด เพียง 26 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
SCC 670.37 36.91 BECL -57.28 24.38
PTT 456.49 21.14 GFPT -25.01 25.38
KBANK 435.41 39.13 RS -18.34 3.18
INTUCH 324.82 31.09 LH -12.70 32.97
BBL 250.91 23.54 ERW -12.22 13.63

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!