- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 January 2015 23:44
- Hits: 1896
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
คาด กนง.คงดอกเบี้ยที่ 2%...SET มีแนวโน้ม “สร้างฐาน” 1,580-1,600 จุด: SET เคลื่อนไหว “ผันผวน” จากหุ้น BAY ปิดตลาดที่ 1,589.81 จุด หรือ +0.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.3 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 3,361 ล้านบาท...แม้ SET มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่องระยะสัปดาห์ ด้วยเป้าหมาย 1,650/1,700 จุด ด้วยปัจจัยหนุนจาก 1) สภาพคล่องไหลเข้าจากมาตรการ QE และ EUR Carry Trade 2) เศรษฐกิจในประเทศเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 4Q14 3) กำไรบริษัทจดทะเบียนเร่งตัวขึ้น +19% ปีนี้ แต่ระยะสั้น SET มีจังหวะ “สร้างฐาน” กรอบ 1,580-1,600 จุด เนื่องจาก 1) ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ต่ำคาดกดดัน Dow Jones -1.65% 2) รอความชัดเจนนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังการประชุม Fed
“ซื้อ” CK ราคา New High + ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐฯ: SET มีจังหวะ “สร้างฐาน” ที่แนวต้าน 1,600 +/- จุด เพื่อรอจังหวะปรับขึ้นต่อระยะสัปดาห์ไปที่เป้าหมายหลัก 1,650/1,700 จุด ทำให้กลยุทธ์ “Selective” กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง โดยเน้นกลุ่มหุ้นใน Tactical Portfolio เป็นหลัก (CK BLA SAWAD มี Momentum แข็งแกร่ง) ขณะที่หุ้นใหญ่แนะนำ “ทยอยสะสม” KBANK ADVANC INTUCH รอจังหวะ Breakout
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
“ซื้อ” SAWAD…กำไรเติบโตสูง มี Upside ส่วนเพิ่มจากธุรกิจ Nano-Finance: แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 33 บาท และเป้าหมายทางเทคนิคระยะสั้นที่ 34 บาท หรือถัดไปที่ 35.50 บาท จาก 1) ผลการดำเนินงาน 4Q14 ขยายตัวแกร่ง 52% y-y ที่ 202 ล้านบาท ขณะที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2015-16 เติบโต ~40% ต่อปี จากการขยายสาขา และฐานเงินกู้ที่ยังมีโอกาสในการขยายอีกมาก 2) Upside จากรายได้ค่าธรรมเนียมในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการตามเก็บหนี้ หรือนายหน้าขายประกัน 3) ธุรกิจ Nano-Finance เป็น Upside ต่อประมาณการกำไรในอนาคต โดย SAWAD ที่มีจำนวนสาขามากถึง 1,000 สาขา ณ.สิ้นปี 2014 มีความสามารถในการขยายธุรกิจ Nano-Finance อีกมาก 4) อัตราดอกเบี้ยต่ำหนุนการออกหุ้นกู้ต้นทุนต่ำเพื่อขยายธุรกิจ และเป็นปัจจัยหนุนต่อการขยายตัวของ NIM ในอนาคต และ 5) ราคาหุ้น Laggard MTSL ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามาก โดย MTLS ปรับสูงขึ้น 47% ขณะที่ SAWAD ปรับสูงขึ้น 28% เท่านั้น โดยระยะสั้นประเมินแนวต้านที่ 33.5 และถัดไปที่ 35.0 บาท (ดูกราฟทางเทคนิคหน้า Tactical Portfolio)
Technical
เลือกซื้อรายตัว : ตลาดอยู่ในช่วงพักตัวแคบยังไม่ผ่าน 1600 จุด ด้วยสัญญาณแท่งเทียนลบ Shooting Star ต่ออีก 1 วัน ในขณะที่สัญญาณชี้ทิศทางยังคงเป็นบวก คาดว่า SET จะมีโอกาสขึ้นทะลุ 1600 จุด และปรับเป้าหมายจากเดิม 1600 จุดไปที่ 1650 จุด โดยมีเป้าหมายระยะยาวที่ 1700 จุด (ยังคงระดับ 1550 เป็นแนวรับสำคัญและเป็นจุดตัดขายระยะสั้นเพื่อปรับพอร์ต) แนะนำถือหุ้นในระดับ 75% ของพอร์ต สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะปิดยืนเหนือระดับ 1585 จุด ด้วยการแกว่งตัวในกรอบ 1582-1600 จุด
หุ้นซื้อระยะสั้น: SIRI แกว่งตัวทำจุดต่ำสุดยกสูงขึ้น เกิดการเรียงตัวและตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 มีสัญญาณซื้อจาก MACD และ DI มีแนวต้านสั้นที่ 1.85 บาท เป้าหมายถัดไปที่ 1.95 บาทและ 2.00 บาทICHI ฟื้นตัวขึ้นแรงกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะ 3 เดือนได้ พร้อมปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น มีสัญญาณซื้อจาก MACD และ DI แนวต้านระยะสั้น 22.00 บาท เป้าหมายต่อไป 23.00 บาทและ 24.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50H15 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,076 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,048 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิดได้แก่ 1) การประชุม กนง.ช่วงบ่ายวันนี้ และ 2) การประชุม FOMC คืนนี้ เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
Gold Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 19,600-20,000 บาท สัญญา GFG15 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ โดยแม้จะเกิดสัญญาณ “พักฐาน” ระยะสั้น แต่ระยะสัปดาห์ยังลุ้นรอการฟื้นตัวต่อไป
Oil Futures: แนะนำ “ถือ”/“เปิด” สถานะ Long สัญญา BRG15 ต่อเนื่อง (ถ้าปิดสถานะไปแล้ว แนะนำให้เปิดใหม่อีกครัง) โดยราคาน้ำมันมีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องในกราฟระดับวัน และเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวเบื้องต้นในกราฟระดับสัปดาห์แล้ว
Thai Strategy Team นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล