- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 January 2015 15:30
- Hits: 1638
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET พักตัวแค่ช่วงสั้นๆ ก่อนลุ้นขึ้นต่อ ดังนั้นซื้อลบได้...
กลยุทธ์ : คาดว่า SET จะปรับพักตัวเพียงช่วงสั้นๆ หลังขยับขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อน และมีสิทธิที่จะกลับไปแกว่งบวกต่อเนื่องเพื่อทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 1649-1650 จุดเดิมได้ในที่สุด ดังนั้นตลาดอ่อนตัวยังแนะเลือกหุ้นซื้อ
หุ้นเด่นทางเทคนิค : THCOM, SVI, KTIS(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดปรับตัวลงต่อ จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพในยูโรโซน หลังพรรคฝ่ายค้านเดิมได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนทำให้เกือบตลอดทั้งวันดัชนีดาวโจนส์เริ่มกลับมาแกว่งทรงตัวได้บ้าง และปิดเป็นบวกเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่สามารถพลิกกลับมาเปิดด้านบวกได้ ขณะที่ SET เมื่อวานนี้เริ่มมีจังหวะย้อนลบอีกครั้ง ทั้งจากแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด เพื่อรอดูผลประชุมเฟดในค่ำวันพรุ่งนี้(28 ม.ค.) และสถานการณ์หนี้ของรัสเซียช่วงท้ายสัปดาห์ รวมทั้งคาดว่าการปรับลงของ SET ส่วนหนึ่งมาจากการกลับมาปรับตัวลงของหุ้น BAY หลังมีการปฏิเสธเรื่องการขอถอนตัวออกจากตลาดด้วย ซึ่ง FSS คาดว่าการแกว่งตัวของ BAY จะกดดันตลาดอยู่แค่เพียงช่วงสั้นๆ หลังจากนั้น SET ยังมีโอกาสที่จะกลับไปขยับขึ้นต่อ จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการและการจ่ายปันผลที่ใกล้จะทยอยประกาศแล้วได้
แนวรับ 1585-1580 , 1575-1570 จุด
แนวต้าน 1593-1595 , 1598-1602 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในปริมาณเบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อตลาดหุ้นไต้หวัน US$283.6 ล้าน ไทย US$71.3 ล้าน อินโดนีเซีย US$62.3 ล้าน และเวียดนาม US$2.0 ล้าน แต่ขายในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$131.4 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$6.7 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะไหลเข้าต่อแต่เบาบางรอดูผลประชุมเฟด 27-28 ม.ค นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) พรรคไซรีซาของกรีซชนะเลือกตั้ง แต่น่าจะต้องจัดตั้งรัฐบาลแบบพรรคผสม นายซิปราสซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคไซรีซาประกาศว่าจะเจรจากับเจ้าหนี้ (IMF กับ EU) เพื่อยุติมาตรการรัดเข็มขัด แต่ยืนยันว่าจะยังอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไป ค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าจึงรีบาวนด์ขึ้นมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียในช่วง 2 วันนี้อ่อนค่าเร็วเป็น 68 รูเบิล/ดอลลาร์ จากต้นปีที่อยู่ที่ 58 รูเบิล/ดอลลาร์ ตลาดเงินและตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวนมาก แต่น่าจะเป็นจังหวะดีในการสะสมหุ้นเพื่อถือลงทุนยาว
(0) คาด FOMC และ กนง. ไม่เซอร์ไพรส์ตลาด เราคาด FOMC จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม 0-0.25% ส่วนการประชุมกนง.พรุ่งนี้ เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 2% อย่างไรก็ตาม เริ่มมีนักวิเคราะห์มากขึ้น (5 ใน 20 ราย) ที่คาดว่าธปท.จะลดดอกเบี้ย 0.25% แต่หากธปท.ลดดอกเบี้ย จะเป็นลบกับกลุ่มแบงก์ เป็นบวกกับกลุ่มที่อยู่อาศัย
(+) กกพ.ปรับวิธีการซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็น Feed-in Tariff จากเดิมแบบ Adder (ไม่รวมพลังงานแสงอาทิตย์เพราะถูกปรับไปก่อนหน้านี้) การปรับครั้งนี้จะมีผล 24 ม.ค. ผู้ผลิตไฟฟ้าชีวมวลจะได้ประโยชน์มากที่สุดเพราะขายไฟได้แพงขึ้น 17% เป็น 4.54 บาท/หน่วย ขณะที่โรงไฟฟ้าลมและโรงไฟฟ้าขยะจะได้ค่าไฟลดลงจากแบบ Adder เล็กน้อยแต่ชดเชยด้วยระยะเวลาที่ได้รับการสนับสนุนยาวขึ้น ผู้ผลิตไฟฟ้าชีวมวลในตลาดฯมีหลายรายเช่น KSL, KTIS, BRR, KBS, EGCO, RATCH, GUNKUL, IFEC, TAE, PSTC, TPCH เป็นต้น เราเห็นว่า TPCH ได้ประโยชน์มากสุดเพราะมีโรงไฟฟ้าที่ยังไม่ได้ COD มีโอกาสเปลี่ยนเป็น Feed in tariff ถึง 85MW มากกว่าผู้ผลิตรายอื่น เราปรับราคาเป้าหมายของ TPCH ขึ้นเป็น 28.50 บาทจาก 23 บาท
(+) KCE ยังคงเป็นหุ้นที่ทั้ง Margin, Growth และ Valuation น่าสนใจสุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่า 4Q จะเป็น low season แต่เราคาดว่ากำไรปกติใน 4Q14 จะลดลงเพียง 6% Q-Q (เมื่อรวมรายการพิเศษ กำไรสุทธิจะลดลงเพียง 4% Q-Q) ทำให้คาดว่ากำไรปกติทั้งปี 2014 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1.82 พันล้านบาท โตก้าวกระโดด 73% Y-Y สำหรับปี 2015 เราปรับกำไรปกติเพิ่มขึ้น 10% เป็นเติบโตสูง 22% Y-Y จากโรงงานใหม่ เฟส 1 ที่คุ้มทุนเร็วกว่าคาดและมีแนวโน้มทำอัตรากำไรขั้นต้นได้สูงกว่าโรงงานเดิม เราปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 57 บาทจาก 48 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
(+) PT ราคาหุ้นที่ปรับลง 20% ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาจเป็นการขายทำกำไรหรือเหตุผลใดก็แล้วแต่ แต่เชื่อว่าไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐาน เราได้สอบถามไปยังผู้บริหารและพบว่าธุรกิจยังดำเนินเป็นปกติ กำไร 4Q14 อาจไม่หวือหวาเมื่อเทียบ 3Q14 (คาด +11% Q-Q, +50% Y-Y) แต่งานประมูลด้าน IT ที่จะมีมากขึ้นตั้งแต่ ก.พ.-มี.ค. ประกอบกับงานประเภทซื้อซ้ำและงานต่อเนื่องที่มีสัดส่วนประมาณ 25% ของรายได้รวม ยังโตต่อเนื่อง เรายังคงคาดกำไรปี 2015 โตโดดเด่น 33% และยังคงราคาเป้าหมาย 20 บาท ปัจจุบัน PT มี PE 10.7 เท่าปีนี้ ถูกสุดในรอบ 3 ปี และจะลดลงเหลือ 8.9 เท่าปีหน้า เรายังคงแนะนำซื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยน้องจากกังวลต่อผลการเลือกตั้งของกรีซ รวมถึงจับตาดูผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปยังปิดบวกได้ต่อเนื่องแม้จะเปิดตลาดในแดนลบจากความกังวลต่อผลการเลือกตั้งของกรีซที่พรรคฝ่ายต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดชนะ
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น
ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวออกทางข้าง โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.48-32.64 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 45.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่ารวมถึงอุปทานที่ยังล้นตลาด
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,279.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 13.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงแรงขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27-28 ม.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
28 ม.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค.), กนง. ประชุม
29 ม.ค. - ฟิลิปปินส์: 4Q14 GDP
- สหรัฐ: Pending home sales (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
30 ม.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ธ.ค.
- ไต้หวัน: 4Q14 GDP
- สหรัฐ: 4Q14 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
1 ก.พ. - จีน: Manufacturing PMI (ม.ค.)
2 ก.พ. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ม.ค.)
- สหรัฐ: การใช้จ่ายส่วนบุคคล (ธ.ค.), ISM Manufacturing (ม.ค.)
3 ก.พ. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลางประชุม
4 ก.พ. - จีน: HSBC China Composite PMI (ม.ค.)
- อินโดนีเซีย: 4Q14 GDP
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852