- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 January 2015 15:54
- Hits: 2159
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่งตัว...เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET ยืนเหนือ 1600”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นแรง โดยปิด +37.99 จุด ที่ 1598.33 จุด (สูงสุด 1601.05 จุด) นำโดย BAY ที่ปรับขึ้นซิลลิ่งและหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มหลักต่างๆ ทั้งนี้เฉพาะหุ้น BAY ตัวเดียวก็คิดเป็นประมาณ 42% (ราว 16 จุด) ของการปรับขึ้นของดัชนีแล้ว นักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างชาตินำซื้อสุทธิกลุ่มละ 5 พันกว่าล้านบาท และ 3 พันกว่าล้านบาท ตามลำดับ นับว่าเป็นการเข้าซื้อที่แข็งแกร่งขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยหนุนหลัก คือ การทำ QE ของยูโรโซน ซึ่งจะมีการเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนรวมกันราว 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนตั้งแต่มี.ค.58-ก.ย.59 รวมเป็นเม็ดเงินในโครงการนี้ราว 1.14 ล้านยูโร
สำหรับ สัปดาห์นี้ ความกังวลกับการเมืองในกรีซ (ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการรอบแรกระบุว่าพรรคไซรีซาที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดมีคะแนนนำพรรค ND ทำให้ความเสี่ยงที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ & ออกจากยูโรโซนมีมากขึ้น), Valuation ของตลาดที่สูง (ค่า P/E ของดัชนี S&P500 อยู่ที่ 17 เท่าสูงสุดในรอบ 5 ปี และ P/E ของ SET อยู่ที่ 16 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย Band สูงในรอบ 5 ปี) และแรงขายแบบ Sell on Fact ประเด็น QE ยูโรโซน อาจทำให้ตลาดหุ้นผันผวนในระยะสั้น ดังนั้นในการลงทุนจึงควรเป็นการ Selective ให้มากขึ้น ทั้งนี้ถ้า SET Index กลับขึ้นไปยืนเหนือ 1600 จุดไม่ได้ ก็ควรขายทำกำไร/ลดพอร์ตก่อน แต่ถ้ายืนได้ก็เลือกซื้อ/ถือต่อ หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น MINT ซึ่งเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจตั้งแต่ 4Q57 และคาดว่าจะเติบโตดีขึ้นในปี 58
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวก แต่ก็พร้อมเปลี่ยนเป็นลบ หากปรับขึ้นต่อมีแนวต้านที่คาดหวัง 1610-1620 ค่าลบควรลดพอร์ตตาม หลุด 1560 ตัดขายขาดทุน การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนี & ราคาหุ้นเป็นหลัก สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำNew High ในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ LH, ROJNA, ECF, BBL ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ GLOBAL, STPI หุ้นที่หลุด List คือ CSS และหุ้นแนะนำที่ปรับขึ้นมาแล้วและอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit ตามรอบ คือ INTUCH, SCC, KCE, CENTEL
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- กรีซ : พรรคไซรีซามีคะแนนนำพรรค ND ในการนับคะแนนรอบแรกอย่างเป็นทางการของกระทรวงมหาดไทย โดยพรรคไซรีซามีคะแนน 35.8% เหนือพรรค ND ที่ 28.3% ทั้งนี้พรรคไซรีซามีนโยบายต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดที่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการรับความช่วยเหลือจากทรอยก้า ผลการเลือกตั้งที่ออกมา จึงทำให้ความเสี่ยงที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้และต้องออกจากยูโรโซนมีมากขึ้น ด้านนายอเล็กซิส ซิปราสหัวหน้าพรรคไซรีซากล่าวหลังการนับคะแนนฯ ว่ายุคสมัยที่กรีซต้องก้มหัวให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศได้สิ้นสุดลงแล้ว และจะขอเปิดเจรจากับ IMFและ EU รอบใหม่ โดยเชื่อว่าการล้มละลายและการต้องออกจากยูโรโซนจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
• สหรัฐ : ภาคการผลิตม.ค.58 เติบโตทรงตัว ผลสำรวจของมาร์กิตที่ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐเดือนม.ค.58 อยู่ที่ระดับ 53.7 จาก 53.9 ในเดือนธ.ค.57
• เฟดประชุม 27-28 ม.ค.นี้...คาดว่าจะยังไม่มีอะไรใหม่ โดยคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% และเชื่อว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว นักเศรษฐศาสตร์บางรายประเมินว่าเฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปี 59
- ยูเครน : การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนรุนแรงขึ้น องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) เปิดเผยว่า มาริอูปัล ซึ่งเป็นเมืองท่าในภาคตะวันออกของยูเครน ถูกโจมตีอย่างหนักจากกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน และช่วง 12-25 ม.ค.58 มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 290 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มเป็นมากกว่า 5,000 คนแล้วในเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ดำเนินมาราว 9 เดือน
•/+ คาดกำไรปี 57 ของบจ.ใน S&P500 โต 3.5% ธอมสัน รอยเตอร์รายงานคาดการณ์ว่าบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P 500 จะมีรายได้สุทธิ/หุ้นเพิ่มขึ้น 3.5%YoY ในไตรมาส 4/57 ในขณะที่คาดว่ารายได้รวมจะขยายตัว 0.6%YoY
ความเห็น : ทั้งนี้แม้ว่าตัวเลขคาดการณ์รายได้จะค่อนข้างทรงตัวในปี 57แต่สิ่งที่ดีขึ้น คือ ความสามารถในการทำกำไร (มาร์จิ้น) ที่สูงขึ้น เห็นได้จากการเติบโตของกำไรสุทธิที่มากกว่ารายได้ ซึ่งส่วนนี้เป็นปัจจัยหลักหนึ่งที่ผลักดันและก่อให้เกิด P/E Expansion ในตลาดหุ้นสหรัฐ
-/• ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนลงจากกังวลผลประกอบการ แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังบวกขึ้นได้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 141.38จุด หรือ -0.79% ปิดที่ 17,672.60 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 11.33 จุดหรือ -0.55% แต่ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 7.48 หรือ +0.16%
• สัญญาน้ำมันดิบแกว่งแคบ โดย WTI ส่งมอบมี.ค.ลดลง 72 เซนต์ ปิดที่45.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT เพิ่มขึ้น 27 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.79ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบก.พ.ลดลง 8.1 ดอลลาร์ หรือ-0.62% ปิดที่ 1,292.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตรง.4 เริ่มลงทุน นายจักรมณฑ์ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่าช่วงพ.ค.-ธ.ค.57 รัฐบาลได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการ (รง.4) รวมทั้งสิ้น 3,815 ราย (กิจการใหม่3,245 ราย และขยายโรงงาน 570 ราย) มูลค่าลงทุน 456,963 ล้านบาทก่อให้เกิดการจ้างงาน 149,883 คน และณ 15 ม.ค.58 กิจการที่เริ่มดำเนินงานจริงมี 1,661 ราย เงินลงทุน 214,360 ล้านบาท (47% ของมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับอนุญาต) ก่อให้เกิดการจ้างงาน 90,090 คน
ความเห็น : นับเป็นข่าวดีที่การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่การลงทุนโครงการภาครัฐก็เดินหน้าเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า, โครงการรถไฟรางคู่เส้นกรุงเทพ-แก่งคอย-โคราช-หนองคาย (ซึ่งจะประชุมร่วมกับผู้ลงทุนจากจีนก.พ.58 และเริ่มลงพื้นที่สำรวจข้อมูลมี.ค.58) ฯลฯ เราเห็นว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างโดดเด่น ให้น้ำหนักลงทุนOverweight เนื่องจาก Backlog เดิมมีมาร์จิ้นดีขึ้นเพราะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันลด, จะมีงานใหม่เข้ามาต่อเนื่องทั้งภาครัฐแ & เอกชน, บริษัทในกลุ่มปรับโครงสร้างองค์กรและการเงินให้สอดรับกับแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ดีในระยะยาว หุ้นเด่น คือ CK, STEC, SEAFCO, SYNTEC, TRC หุ้นเก็งกำไรเป็น ITD
+ กระทรวงคมนาคมของบประมาณ 4 หมื่นล้านบาทซ่อมถนนทั่วประเทศ โดยจะใช้เวลาศึกษารายละเอียด 2 สัปดาห์ก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าในอีกทางหนึ่ง
• กลุ่มเหล็ก : ผู้ผลิตเหล็กสนับสนุนภาครัฐดูแลการทุ่มราคาเหล็กเนื่องจากมีข้อมูลว่าประเทศในอาเซียนรวมถึงไทยถูกทุ่มตลาดสินค้าเหล็กมาก โดยเฉพาะจากจีน นายวิกรม วัชรคุปต์ ประธานคณะกรรมการส่งเสริการค้าของสมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าอาเซียนกล่าวว่า จีนส่งเหล็กเส้นมาไทยเพิ่มขึ้นถึง 97%YoY เป็นกว่า 5 ล้านตันในปี 57, เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนเพิ่มขึ้น 52%YoY เป็นกว่า 3 ล้านตัน, เหล็กลวดเพิ่มขึ้น 17%YoY เป็นกว่า 4 ล้านตัน, ท่อเหล็กเพิ่มขึ้น 14%YoY เป็นกว่า 1 ล้านตัน เป็นต้นอย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการขั้นปลายมองว่าการได้วัตถุดิบที่มีราคาต่ำจากภายนอกเข้ามาบ้าง ก็ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ในยามที่อุปสงค์ตกต่ำและผู้บริโภคไม่ต้องซื้อเหล็กในราคาที่สูงกว่าตลาดโลก เรายังให้น้ำหนักลงทุน Underweight กลุ่มเหล็ก
• การเมือง : กระเพื่อมบ้างแต่ไม่รุนแรง หลังสนช.ลงมติถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะนำไปสู่เหตุวุ่นวายรุนแรง
• Turnover List Watch : หลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ cash balance ในสัปดาห์นี้คือ AJP, CI, CKP, E, HYDRO, NCL, OCEAN, PRINC,UREKA, VTE เริ่ม 26 ม.ค.58- 6 มี.ค.58 ส่วนหลักทรัพย์หลุด cashbalance สัปดาห์นี้คือ NOK ด้านหลักทรัพย์ที่ติด Trading Alert ระดับที่ 1รอบแรกมีประกาศเพิ่ม คือ TPOLY เริ่ม 26 ม.ค.58- 13 ก.พ.58
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]