- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 January 2015 15:42
- Hits: 1749
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
ความกังวลต่อผลเลือกตั้งกรีซกดดัน...เป็นจังหวะ “สะสมหุ้น”: SET ปรับสูงขึ้นแรง 2.43% ปิดที่ 1,598.33 จุด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร (เป็นผลจากการปรับขึ้นของ BAY ถึง 16 จุด) พลังงาน และ AOT ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 3,283 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้นแม้มีจังหวะ “ผันผวน” จาก 1) ผลการเลือกตั้งกรีซ พรรค Syriza ที่สนับสนุนการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ได้ที่นั่ง 149 จากทั้งหมด 300 ทำให้ความกังวลต่อ Grexit เพิ่มขึ้น 2) SET ทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด อย่างไรก็ตามเรามองเป็นจังหวะ “สะสมหุ้น” ต่อโดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร รับเหมาฯ สื่อสาร และ AOT เนื่องจากเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีโดยตรงจากกระแสเงินทุนไหลเข้าหลัง ECB ใช้มาตรการ QE หนุนการทำ EUR Carry Trade ระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า
“ซื้อ” หุ้นกลุ่มหลักในจังหวะอ่อนตัว 1,580-1,590 จุด: แนะนำ “ซื้อ” หุ้นขนาดใหญ่ที่เป็น
เป้าหมายการไหลเข้าของกระแสเงินทุน อย่าง ธนาคาร (KBANK) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) รับเหมาฯ (CK STEC) และ AOT ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดกลางที่คาด Outperform ตลาดระยะกลาง-ยาว แนะนำ “Selective” SAMART SAWAD BLA BGH RS และ SEAFCO
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
TACTICAL Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน +2.78% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (19-23 ม.ค.2015) เทียบกับ SET ให้อัตราผลตอบแทน +5.31% หรือมีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่า SET อยู่ 2.53% เนื่องจาก 1) การปรับสูงขึ้นของ BAY ส่งผลให้ SET ปรับสูงขึ้นมากกว่า 1% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และ 2) กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เป็นกลุ่มหุ้นหลักที่หนุนการฟื้นตัวของ SET ในช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้ TACTICAL Portfolio มีแนวโน้ม Underperform ตลาดระยะสั้น ขณะที่ถ้าพิจารณาในรายละเอียด CK SEAFCO และ AOT ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio หรือ +10.7% +10.5% และ +7.3% ตามลำดับ ขณะที่ TUF BLA ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะแข็งแก่รงกว่าตลาดระยะสั้นได้แก่กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ และได้รับผลดีจากโอกาสที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำยาวนานอย่าง AOT BGH และ SPALI...ทั้งนี้ TACTICAL Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน 9.9% ตั้งแต่ต้นปี 2015 และ 76.3% ตั้งแต่เริ่มตั้งขึ้นมาในวันที่ 13 ม.ค.14 ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 6.7% ตั้งแต่ต้นปี 2015
Technical
ถือหุ้นรอขาย : ตลาดได้แรงซื้อหุ้นธนาคาร ทำให้โมเมนตัมของตลาดเป็นบวกต่อเนื่อง สัปดาห์นี้มีแนวโน้มขึ้นต่อไป โดยดัชนี SET จะเคลื่อนไหวระหว่าง 1575-1625 จุด มีเป้าหมายขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1650 จุด จากกราฟระยะ 1 ปี พบว่านักลงทุนต่างชาติเพิ่งจากเริ่มเข้าซื้อหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับเป้าหมายระยะยาวขึ้นไปที่ 1700 จุด แนะนำถือหุ้นในระดับ 75% ของพอร์ต สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1590-1610 จุด
หุ้นซื้อระยะสั้น: KTB แกว่งตัวขึ้นทะลุกรอบสามเหลี่ยม ปิดที่จุดสูงสุดของวันเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน พร้อมปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น เกิดสัญญาณซื้อจาก DI แนวต้านแรก 23.50 บาท ถัดไปที่ 24.00 บาท PS ราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือนจ่อทดสอบแนวกดของเส้น Downtrend Line ด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นสนับสนุน มีสัญญาณซื้อจากตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21-63 และ DI+ ตัด DI- ขึ้น มีแนวต้านแรกบริเวณ 32.25 บาท เป้าหมายถัดไปที่ 34.00 และ 35.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50H15 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,076 จุด โดยมีปัจจัยหนุนจากการใช้นโยบาย QE ของ ECB ขณะที่ประเด็นการเลือกตั้งกรีซ คาดส่งผลกระทบต่อ Sentiment ระยะสั้นเท่านั้น
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา GFG15 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 20,250 บาท ขณะที่เลื่อน Trailing Stop ขึ้นมาที่ 20,000 บาท ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับลดลง US$8.1 อยู่ที่ US$1,292.60/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา BRG15 ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามควรกำหนด Trailing Stop หรือ “จุดจำกัดขาดทุน” ที่ 1,560 โดยเมื่อพิจารณาในทางเทคนิคราคาน้ำมันยังมีจังหวะ Rebound ระยะสั้นต่อไป
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล