- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 June 2014 17:43
- Hits: 2933
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
Sector Rotation หนุน SET ปรับสูงขึ้นต่อระยะสัปดาห์: การปรับสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และสื่อสาร ส่งผลให้ SET ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง 0.92% ปิดที่ 1,454.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 3,087 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้นแม้มีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรมากขึ้น หลังจากปรับสูงขึ้น 5.7% จากจุดต่ำสุดหลังรัฐประหาร อย่างไรก็ตามด้วยแนวโน้มการ “เปลี่ยนกลุ่ม” หรือ “Sector Rotation” มายังกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ + สถานการณ์การเมืองชัดเจน + มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยหนุน SET ปรับสูงขึ้นต่อระยะสัปดาห์ โดยมีเป้าหมายทางเทคนิคที่ 1,460-1,480 จุด
“ซื้อ” กลุ่มธนาคาร + ท่องเที่ยว...เป้าหมาย SET ปี 2015 ที่ 1,630 จุด: แนวโน้ม Sector Rotation มาที่กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้เราแนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มธนาคาร (BBL KBANK) และสื่อสาร (ADVANC, INTUCH, DTAC, SAMART, JAS) ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังแนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นกลุ่มโรงแรม (CENTEL, MINT) และธุรกิจการบิน (AOT) ที่ได้รับผลดีจากการยกเลิกเคอร์ฟิว ใน 3 จังหวัดท่องเที่ยว ขณะที่รายงาน Siam Sense ให้เป้าหมาย SET ปี 2015 ที่ 1,630-1,750 จุด
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ “ถือ” BTS, CPALL, DEMCO, DTAC, INTUCH, JAS, SAMART, SPALI และ SPCG ใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง ขณะที่แนะนำ “ขาย” EA และ “ซื้อ” BBL เข้ามาแทน เนื่องจากราคาหุ้น EA ปรับสูงขึ้นแรงก่อนหน้า เข้าใกล้เป้าหมายพื้นฐานที่ 18.0 บาท และ RSI ที่เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 91 แสดงให้เห็นถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิค
BBL: แนะนำ “ซื้อ” BBL ด้วยเป้าหมายพื้นฐานที่ 202 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว หลังรัฐประหาร จะเป็นปัจจัยหนุน Re-rating Story ของอัตราการขยายตัวสินเชื่อ การลดลงของการตั้งสำรอง และการฟื้นตัวของ ROE ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า 2) BBL เป็นธนาคารที่เน้นสินเชื่อบริษัท (Corporate Loan) ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีการฟื้นตัวเร็ว กว่าสินเชื่อเพื่อการบริโภค หรืออสังหาฯ 3) เมื่อพิจารณาเทียบกับค่าเฉลี่ย PE ในอดีต ที่ 10.2x ปัจจุบัน BBL ซื้อขายที่ PE 10x ปีนี้ และจะลดลงเหลือ 9.1x ในปีหน้า (ยังไม่รวมผลของการ Re-Rating) และ 4) เมื่อพิจารณาในทางเทคนิค ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 196 บาท และถัดไปที่ 202 บาท
Technical
เริ่มมีแรงขาย : แม้ว่าดัชนี SET บวกแรงต่อเนื่องใกล้แตะ 1460 จุด แต่ควรระวังการปรับตัวลงต่ำกว่า 1450 จุด เกิดสัญญาณขายระยะสั้น รอจังหวะปิดต่ำกว่าระดับดังกล่าว ยืนยันซื้อกลับตัวลง วันนี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1448-1460 จุด
ซื้อระยะ 1 สัปดาห์: JAS ทะลุแนวต้าน 8.10 บาท เป็นโอกาสซื้อเก็งกำไรมีจังหวะซื้อตาม เป้าหมายทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 8.50 บาท SEAOIL ดีดตัวแรงข้ามผ่าน 8.00 บาท เป็นจังหวะซื้อตาม มีโอกาสผ่าน 8.50 บาท ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 9.00 บาท AOT ขึ้นทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน เป็นจังหวะซื้อตามต่อเนื่อง และคาดว่าจะผ่านแนวต้านระยะกลาง 195.50 ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 202 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long ต่อเนื่อง โดยสัญญาณ Sector Rotation หรือ “เปลี่ยนกลุ่ม” มายังกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ทำให้มีโอกาสที่ S50M14 จะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้ในทางเทคนิคระยะสั้นจะมีสัญญาณ Overbought ก็ตาม ด้วยเป้าหมาย 994 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 968 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,300 บาท และในกรณีที่ปรับลดลงต่ำกว่า 19,300 บาท จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 18,500 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,500 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Long ส่วนที่เหลือหลังจากปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop ที่ 3,580 และ Trading ในกรอบ 3,530-3,580 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
