- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 January 2015 15:59
- Hits: 1839
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีฯ วิ่งทะลุแนวต้านและกรอบสามเหลี่ยมขึ้นไป พร้อมกับการรักษาระดับการบวกไว้ได้เมื่อปิดตลาด แสดงให้เห็นว่า มีพลังของการขึ้นมากพอควร
วันนี้ หุ้นในกลุ่มที่เคยถ่วงดัชนีฯไม่ให้ผ่านแนวต้าน 1540 เช่นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นธนาคาร กลับมาเป็นกลุ่มที่ดันดัชนีฯให้สูงขึ้นในวันนี้ ในขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มอื่นๆ ก็ยังบวกต่อเช่นเดิม ไม่ได้ถอยหลังให้กับหุ้น Big Cap. แต่อย่างใด
ดัชนีฯ ปิดตลาดที่ 1560.34 จุด สูงขึ้น 22.98 จุด หรือ 1.49%
ภาพตลาดวันนี้
คาดว่าจะเปิดบวก โดยการเปิดของดัชนีฯ น่าจะเป็นการกระโดดมากกว่าค่อยๆไต่ระดับขึ้น อย่างไรก็ตาม การผ่านแนวต้านสำคัญขึ้นมาในวันแรก อาจไม่เป็นที่ confirm ว่าดัชนีฯรอบนี้จะกลับมาเล่นในกรอบ 1540-1600 แต่จะต้อง confirm สัญญาณในวันนี้ กล่าวคือ ดัชนีฯควรปิดสูงขึ้นและมีแรงซื้อต่อเนื่อง ถ้าปิดต่ำหรือเปิดลบ จะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก
การเลือกทางที่จะสูงขึ้นของดัชนีฯ เป็นนิมิตหมายอันดีว่าหุ้นขนาดใหญ่ ที่ชี้นำดัชนีฯ อาจจะกลับขึ้นมาเป็นกลุ่มนำตลาดอีกครั้ง วันนี้อาจต้องทำใจว่าจะเล่นสั้นๆไว้ก่อน ยกเว้นปิดตลาดแรงให้เปลี่ยนเป็นถือข้ามวัน โดยกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีฯกรอบใหม่ ให้ไว้ที่ 1540 – 1570 จุด
กลยุทธ์ : “ เลือกทางเดินแล้ว แต่จะขอยืนยันอีกวัน”
Support 1548, 1540 ,1528, 1515 จุด Resistance 1570, 1600 จุด
สุทธิวิทย์ เทศนาบุญ
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical Investment Analyst
เลขทะเบียน : 028533
Tel 02- 6481129
Email: [email protected],th
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน
ด้านหลักทรัพย์
License No: 001937
Tel 02- 6481123
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 ม.ค.) SET Index ปิดที่ 1560.34 จุด เพิ่มขึ้น 22.98 จุด หรือ 1.49% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65,805.49 ล้านบาท การปรับคาดการณ์ตัวเลข QE ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) สูงขึ้นจากตัวเลขเดิมก่อให้เกิดแรงซื้อส่งท้ายก่อนประชุมจริง บวกกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ช่วยเสริมบรรยากาศการลงทุนในวันนี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones สูงขึ้น 259 จุด หรือ 1.48% จากตัวเลขเคลมการว่างงานสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปก็เป็นบวกด้วยเช่นกัน (FTSE Eurofirst 300 Index สูงขึ้น 1.56%) .... ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งสองตลาดเป็นบวก มาจากผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์เป็น 6 หมื่นยูโรต่อเดือน เป็นระยะเวลา 18 เดือน เริ่มตั้งแต่ มี.ค. หรือคิดเป็นวงเงินที่ใช้รวมทั้งสิ้น 1.1 ล้านล้านยูโร หรือ $1.3 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งเราประเมินว่า ผลบวกนี้จะกลายมาเป็นปัจจัยบวกที่หนุนตลาดหุ้นที่เปิดทำการเช้านี้ด้วย
ราคาน้ำมันดิบ WTI (Mar) ปิดตลาดที่ $46.31 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง $1.47 เหรียญ หลักๆมาจากค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้น (Dollar Index สูงขึ้น 1.4%) หลัง ECB ขยายวงเงิน QE
ธนาคาร - ธ.กสิกรไทย คาดปี 58 สินชื่อ SME โต 7.7% มียอดปล่อยใหม่ 2.8 แสนลบ.
ITD, CK,STEC, UNIQ - "ประจิน" เผยสรุปโครงการรถไฟไทย-จีน 11-13 ก.พ.นี้ ก่อนเสนอครม.อนุมัติเดือนมี.ค.นี้
SAT,AH - 'ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน' คาดตลาดรถโต 10% รับลงทุนภาครัฐหนุนศก.ฟื้น
ตลาดหุ้นไทยยังมีอีก 3 event -ที่จะมีผลต่อตลาดในช่วง 7 วันข้างหน้ารออยู่ ประกอบด้วย การเลือกตั้งทั่วไปของประเทศกรีซ (25 ม.ค.) , ประชุม FOMC (28 ม.ค.) และ ประชุม กนง. (28 ม.ค.)
ทิศทางตลาดหุ้นไทย การปรับขนาด QE ของ ECB คืนที่ผ่านมาสูงกว่าตลาดคาดจึงเป็นบวกสำหรับตลาดหุ้นในวันนี้ คาดว่านักลงทุนต่างประเทศหรือสถาบันฯ ที่เคยชะลอการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ จะกลับเข้ามาซื้อหุ้น หลังจากที่นำเงินไปพักไว้ในตลาดพันธบัตรมาระยะหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน แต่ถึงกระนั้น ปัจจัยหนึ่งที่อาจมีผลกับตลาดหุ้น คือในวันนี้ สนช.จะมีการลงมติถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจมีผลต่อตลาดหุ้นหากมีกระแสการเคลื่อนไหวทางการเมืองตามมาหลังจากทราบผลการลงมติ
กลยุทธ์การลงทุน วันนี้จะเน้นที่หุ้นกลุ่มหลักของตลาดและเน้นเล่นสั้นๆ ไว้ก่อน เพราะวันอาทิตย์นี้ กรีซจะมีการเลือกตั้ง (ผลสำรวจล่าสุด พรรค Syriza หรือพรรคฝ่ายค้านมีคะแนนนำ) .... หุ้นที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน จะเป็นหุ้นที่ขึ้นมาน้อยหรือเป็นกลุ่มที่ถูกคาดว่าจะดีจากผลของ QE ยุโรป (BBL, KTB, KBANK, IVL, PTTGC, PTTEP, PTT, ADVANC, WORK) ….. ขณะที่หุ้นที่เป็นบวกจากการที่จีนต้องเร่งออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหลัง GDP ชะลอตัว (IVL, KCE , RCL) จะเป็นบวกในลำดับถัดมา ..... นอกจากนี้ จะเป็นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนอยู่ เช่นกลุ่มรับเหมา (ITD, STEC, SCP) เป็นต้น
Stock in Focus
ROBINS - รับผลบวกจากปี '58 เศษฐกิจดี กำลังซื้อผู้บริโภคสูงขึ้น : (ราคาปิด 46.50 บาท; ราคาเป้าหมายโดย KTBST 60.00 บาท) จากการคาดการณ์ของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ที่คาดว่าธุรกิจค้าปลีกปี 2558 จะโต 6.3% โดยจะโตเต็มที่ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ เพราะจะมีเม็ดเงินจากโครงการลงทุนต่างๆ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ แน่นอนว่า ห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกขนาดใหญ่ จะเป็นบวกตามไปด้วย ..... ปี 2557 เราประมาณกำไรของ ROBINS ไว้ที่ 2.01 พันล้านบาท ขยายตัว 1.25% แต่ปี 2558 เราคาดว่ากำไรของ ROBINS จะขยายตัวถึง 23.6% ซึ่งเป็นผลจากการขยายสาขาและยอดขายของห้างฯ และยอดขายที่โตตามภาวะเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์