- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 January 2015 19:33
- Hits: 2062
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1530”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : แม้ว่าตลาดจะปัจจัยกดดันจากการที่ IMF ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2558 ลง แต่ด้วยกระแสคาดการณ์ว่า ECB จะออก QE มูลค่าราว 5-6 แสนล้านยูโรในการประชุมวันนี้ (22 ม.ค.57) รวมถึงการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 4/57และแนวโน้มปี 2558 ทำให้มีการเลือกซื้อ/ถือหุ้นต่อ นักลงทุนต่างชาติ, พอร์ตบล. และรายย่อยซื้อสุทธิ ส่วนสถาบันในประเทศขายทำกำไร สำหรับดัชนีเมื่อวานนี้ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (+2.27 จุด ปิดที่ 1537.36) ซึ่งภาพตลาดในวันนี้ยังเป็นบวกเล็กๆ จากปัจจัยเดิมเกี่ยวกับการออก QE ของยุโรป(หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล
คาดการณ์ว่าคณะกรรมการบริหารของ ECB จะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรรัฐบาล 5 หมื่นล้านยูโร/เดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีในการประชุมวันนี้) และการรีบาวด์ของราคาน้ำมันดิบก็ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานในช่วงสั้นด้วย สำหรับผลประกอบการกลุ่มแบงค์ ล่าสุดKTB รายงานกำไรสุทธิต่ำกว่าคาด (ปี 57 ลดลง 6%YoY แม้สินเชื่อจะโตถึง 10.7% แต่สำรองค่าเผื่อฯ & ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น) อย่างไรก็ตามแนวโน้มปี 58 จะเติบโตดีขึ้นจากการลงทุนภาครัฐที่คืบหน้า จึงยังแนะนำซื้อลงทุน KTB ส่วนดีลใหญ่ คือ ข่าวการควบรวมระหว่าง BECL กับ BMCLและให้ BECL การขายหุ้น BMCL ให้กับ CK เป็นปัจจัยกระตุ้นหุ้นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น TRC จุดเด่น คือ เป็นผู้รับเหมาขนาดเล็กที่มีศักยภาพ และมีโอกาสเติบโตสูงในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าจากการได้รับงานใหม่เข้ามา
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ โดยมีสิทธิรีบาวด์ต่อโดยมีแนวต้านระยะสั้นมาก 1540-1550 ค่าลบควรลดพอร์ตตามหลุด 1530 ตัดขายขาดทุน การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนี & ราคาหุ้นเป็นหลัก สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New Highในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ CK, PACE, AAV ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ ITD, CSS, INTUCH, GENCO, WORK หุ้นที่หลุด List คือ M และหุ้นแนะนำที่ปรับขึ้นมาแล้วและอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit ตามรอบ คือ BH, TMB
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ ยูโรโซน : มีข่าวว่าคณะกรรมการ ECB เสนอทำ QE ราว 6 แสนล้านยูโร หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล คาดการณ์ว่า คณะกรรมการบริหารของ ECB จะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรรัฐบาล 5 หมื่นล้านยูโร/เดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวจะมีมูลค่าอย่างน้อย 6แสนล้านยูโร...หากออกมาเป็นแนวนี้ก็สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า ECB จะทำ QE ราว 5.5 แสนล้านยูโร เพื่อสกัดภาวะเงินฝืด
+ สหรัฐ : ภาคที่อยู่อาศัยเติบโตดีในธ.ค.ปีก่อน ทั้งนี้ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.57 ขณะที่เดือนพ.ย.57 อยู่ที่ 1.04 ล้านยูนิต
+ จีน : เมื่อ 21 ม.ค.58 ธนาคารกลางจีนประกาศว่าได้ทำการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการปล่อยเงินกู้ระยะสั้น 3เดือนมูลค่า 5 หมื่นล้านหยวน (8.1 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ธนาคารขนาดกลางและขนาดย่อมหลายแห่งนำไปดำเนินการปล่อยกู้ต่อ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีรายงาน GDP Growth ของจีนปี 57ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 24 ปี ที่ 7.4%
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น39.05 จุด หรือ +0.22% ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 12.57 จุด หรือ +0.27%ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.47% โดยเป็นการตอบรับกระแสคาดการณ์ว่า ECB จะประกาศใช้มาตรการ QE ครั้งใหญ่ในการประชุมวันนี้
+ สัญญาน้ำมันดิบรีบาวด์ โดย WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.31ดอลลาร์ ปิดที่ 47.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ปิดที่ 49.03 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลงเล็กน้อย 50เซนต์ ปิดที่ 1,293.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนรอดูผลประชุม ECBวันนี้ว่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้หรือไม่
• แต่...นักลงทุนมองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก ซึ่งขณะนี้มีประเด็นความเสี่ยงคือ เหตุการณ์รุนแรงในยูเครน ความไม่แน่นอนทางการเมืองในกรีซ (จะทราบผลเลือกตั้งวันที่ 25 ม.ค.58 นี้) ความผันผวนในตลาดการเงินหลังธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ ส.อ.ท.เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนธ.ค.57 พบว่าเพิ่มขึ้นเป็น 92.7 จาก 89.7 ในเดือนก่อนหน้าและเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยฤดูกาล เพราะปลายปีจะมีการจับจ่ายใช้สอยมากในเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับเศรษฐกิจภายในเริ่มกระเตื้องขึ้น อุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมั่นปรับขึ้นเป็นขนาดกลาง-ย่อม เช่น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม, ผลิตภัณฑ์หนัง, อาหาร, เครื่องประดับ, รองเท้า เป็นต้น แต่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีความเชื่อมั่นลดลง ได้แก่อุตสาหกรรมเหล็ก, ผลิตไฟฟ้า และปิโตรเคมี- พื้นที่ค้าปลีกให้เช่าปี 58 เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์...อัตราค่าเช่าเพิ่มได้จำกัด โดยโจนส์ แลง เปิดเผยว่าปี 58 มีพื้นที่ค้าปลีกใหม่เข้ามาอีก6 แสนตารางเมตร จาก 27 โครงการ (ปี 57 มีพื้นที่เข้ามาใหม่ 4 แสนตารางเมตร และปี 56 เข้ามา 3.5 หมื่นตารางเมตร) ซึ่งพื้นที่ที่เข้ามาเพิ่มมากจะทำให้อัตราค่าเช่าปรับขึ้นได้จำกัด...นับเป็น Sentiment ทางลบกับหุ้นที่เป็นผู้ประกอบการให้เช่าพื้นที่ และอาจกดดันให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงในระยะสั้นอย่างไรก็ตาม ในระยะยาวแล้ว มองว่า CPN อยู่ในสถานะที่ดี เนื่องจากมีทำเลของโครงการดี และมีความยืดหยุ่นในการบริหารงาน กระแสเงินสดจากการดำเนินงานแข็งแรง ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อลงทุนในจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว
+ BECL & BMCL & CK ประกาศดีลควบรวมและเข้าซื้อกิจการ :คณะกรรมการฯ BECL มีมติให้มีการควบรวมกิจการระหว่าง BECL กับBMCL และขายหุ้น BMCL ที่ถืออยู่ให้กับ CK….เป็นข่าวบวกกับหุ้นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมองว่ามี Synergy benefits จากการดำเนินงาน เพราะทางด้าน BECL เป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดมาก แต่การลงทุนใหม่มีน้อยขณะที่ BMCL ต้องใช้เงินลงทุนขยายธุรกิจมาก แต่สภาพคล่องทางการเงินยังไม่ดีมากนัก
• กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (11 แห่ง) ปี 57 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.5% โดยมีกำไรสุทธิรวมกัน 2.06 แสนล้านบาท โดยธนาคารส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ยกเว้น TCAP, KKP, CIMBT และ KTB ที่มีกำไรสุทธิลดลง ซึ่งกำไรของแบงค์เล็กที่ลดลงมาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ซบเซา และการตั้งสำรองค่าเผื่อฯที่สูง ส่วน KTB มาจากการตั้งสำรองค่าเผื่อฯและค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของสินเชื่อขยายตัวสูง 10.7% ในปี 57สำหรับแนวโน้มปี 58 คาดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะมีกำไรเติบโตดีขึ้นเป็นเลขหลักเดียวด้านสูง โดยปัจจัยกระตุ้นมาจากสินเชื่อที่ขยายตัวดีขึ้นหลังการใช้จ่ายและการลงทุนทั้งภาครัฐ & เอกชนค่อยๆ ฟื้นตัว รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น เราให้ KBANK และ TMB เป็นหุ้น Top Picks
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]