WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีฯเปิดบวก จากนั้น มีแรงขายเข้ามาจนดัชนีฯลดระดับการบวกลง ที่เห็นได้ คือหุ้นที่มีการซื้อขายมากของวันนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดกลางหรือเล็ก โดยมีหุ้นใหญ่ของแต่ละกลุ่มเพียงบางตัวที่ถูกซื้อ ภาพรวมๆของทั้งวัน คือดัชนีฯ แกว่งเพียงกรอบแคบๆ หลังขึ้นแรงในวันก่อน เป็นสัญญาณว่านักลงทุนยังไม่มั่นใจกับตลาดหุ้นนัก
  ดัชนีฯ ปิดตลาดที่ 1535.09 จุด ลดลง 0.28 จุด หรือ 0.02%

ภาพตลาดวันนี้
  การที่แท่ง candlestick มีลักษณะเป็นแท่งเล็กๆ พอจะบอกได้ว่ากำลังซื้อแผ่วจากวันก่อนไปมาก แม้จะทำจุดสูงสุดไว้ได้ที่ 1542.60 จุด หรือสูงกว่าวันก่อนหน้า ซึ่งทำให้สัญญาณโดยรวมยังคงดีอยู่ก็ตาม แต่การปิดลดลงของดัชนีฯ และยังไม่สามารถผ่านกรอบแนวต้านที่ 1537-40 ได้ อาจมีผลมาถึงวันนี้ คือถ้าไม่เปิดบวก ก็อาจมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้นตามมา
  วันนี้ เราคาดว่า ความแรงของดัชนีฯ จะยังไม่สามารถผ่านทะลุแนวต้านที่ 1537-1540 ได้ในวันนี้หากไม่มีปัจจัยอื่นมาช่วยเสริม
  อย่างไรก็ตาม หากดัชนีฯไม่ต่ำกว่า 1522 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน) ก็ควรถือหุ้นต่อ

กลยุทธ์ : “ ขอ sideway ก่อน ”
Support 1525, 1515 , 1500 จุด Resistance 1537- 40, 1548 , 1558 จุด

สุทธิวิทย์ เทศนาบุญ
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical Investment Analyst
เลขทะเบียน : 028533
Tel 02- 6481129 Email: [email protected],th

มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน
ด้านหลักทรัพย์
License No: 001937
Tel 02- 6481123 Email: [email protected]

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

Market Trend
      ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (20 ม.ค.) SET Index ปิดที่ 1535.09 จุด ลดลง 0.28 จุด หรือ 0.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42,554.91 ล้านบาท แรงส่งของการเก็งเรื่อง QE ของยุโรปและตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาดี หนุนให้การซื้อขายคึกคักขึ้น โดยหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน มักจะเป็นหุ้นขนาดกลางหรือเล็ก โดยเน้นหุ้นที่มีข่าวออกมาสนับสนุน
   ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี่ออกมาดี แต่มีความกังวลเรื่องทิศทางเศรษฐกิจโลกหลัง IMF ปรับลด GDP ของโลกลง ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปบวกต่อ มีแรงหนุนจากการคาดการณ์ผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะออกมาเป็นบวกกับตลาด ... เราประเมินว่า ช่วง 1-2 วันนี้ นักลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศจะรอคอยผลประชุมของ BOJ และ ECB ว่าจะออกมาในทิศทางใด ขณะที่น้ำหนักในเรื่องผลประกอบการของแต่ละตลาดจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการขึ้น-ลง ของดัชนีฯ
     ราคาน้ำมันดิบ WTI (Mar) ซื้อขายที่ $47.23 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง $1.90 เหรียญ ราคาน้ำมันถูกกดดันจากความกังวลเรื่อง over supply ขณะที่เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวในระดับที่ต่ำ (GDP ปี '57 =7.4% ต่ำกว่าเป้าของรัฐบาลที่ 7.5%) มีส่วนทำให้เกิดความกังวลต่อปริมาณการใช้น้ำมันของโลก
   เลือกตั้งกรีซ - ผลสำรวจ จาก โดย GPO's พรรค Syriza มีคะแนนนำ 30.4% โดยพรรค New Democracy party ของนาย Samaras ได้คะแนน 26.4% ด้วยนโยบายของ พรรค Syriza หาเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง จะก่อให้เกิดปัญหาต่อแผนช่วยเหลือทางการเงินของกลุ่มยูโรโซนและอาจนำไปสู่การออกจากยูโรโซนในที่สุด
IMF ลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 58 เหลือ 3.5% เหตุการลงทุนอ่อนตัว จีน 7.1% เหลือ 6.8% และสหรัฐฯ เพิ่มจาก 3.1% เป็น 3.6%
     งบประมาณรายจ่าย - ครม. เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2559 ที่ 2.72 ล้านล้านบาท จากประมาณการรายได้ 2.33 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นงบขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท
    ADAVNC, DTAC, TRUE - วาระการประชุม กสทช. วันนี้ คาดจะมีเรื่องการคิดค่าบริการเป็นวินาทีนำกลับมาเข้าที่ประชุม
ทิศทางตลาดหุ้นไทย แรงซื้อหุ้นที่ยังกระจัดกระจาย นักลงทุนกำลังรอข่าวสำคัญของตลาด (QE ของยุโรป+การเมืองไทย+เลือกตั้งกรีซ) และพบว่ามีการลงทุนในตลาดพันธบัตรมากขึ้น รวมถึงราคาทองคำในตลาดโลกที่ขยับสูงขึ้น อาจสะท้อนมาจากความเสี่ยงในหลายๆเรื่องที่กำลังดำเนินอยู่ สิ่งเหล่านี้ ทำให้จะทำให้หุ้นขนาดใหญ่จะยังคงมีแรงซื้อขายเข้ามาน้อย โดยดัชนีฯ น่าจะมีความผันผวนในระหว่างวันสูงจากการเก็งกำไรช่วงสั้นๆของนักลงทุน และมีโอกาสที่จะปิดลดลงหากไม่มีข่าวในเชิงบวกเข้ามากระตุ้นตลาด

    กลยุทธ์การลงทุน เป็นช่วงที่เลือกหุ้นได้ยากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน อาทิเช่น รับข่าว GDP ไตรมาสที่ 4 ของจีน ที่ 7.3% ซึ่งจะทำให้จีนต้องเร่งออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ (PTTGC, IVL, KCE) , กลุ่มคาดว่าผลประกอบการ Q4 จะออกมาดี (QTC, AKR) , หุ้นเป็นบวกจากนโยบายลงทุนภาครัฐ และโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่ (ITD, STEC, CK) , หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Digital Economy (SAMART, JAS)

Stock in Focus
    GRAMMY ทีวีดิจิตอลกำลังไปได้ด้วยดี : GRAMMY (ราคาปิด 13.60 บาท ; ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA Consensus 15.50 บาท) การแข่งขันในเรื่อง Rating ซึ่งมีผลต่อรายได้ของแต่ละช่อง ปี 2558 เจ้าของช่องทีวีดิจิตอลจะมีการแข่งขันในเรื่องของรายการมากขึ้น และผู้ชมเปลี่ยนมาชมทีวีในระบบดิจิตอลมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน... ข้อมูลจาก Nielsen ณ เดือน พ.ย. ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาของทีวีอนาล็อกและดิจิตอล มียอดรวมกันเกือบ 8 พันล้านบาทต่อเดือน โดยเป็นส่วนของทีวีดิจิตอล 30% หรือประมาณ 2.3 พันล้านบาท ซึ่งสัดส่วนดังกล่าว มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ...

     สำหรับ GRAMMY นั้น มีช่องรายการถึง 2 ช่อง คือ ONE และ GMM Channel วันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และมีแนวโน้มที่จะได้ rating ที่ดีขึ้นในปีนี้ จากการผลิตรายการใหม่ๆ และรายการที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งจะมีโอกาสที่จะพลิกผลการดำเนินงานจากที่ขาดทุนได้เร็วกว่าที่คาดการณ์กัน จากการมีช่องรายการถึง 2 ช่อง (ผลประกอบการ 9M/57 มีผลขาดทุน 1.86 พันล้านบาท) .... นอกจากนี้ เรามองว่า จุดแข็งของบริษัทฯ อีกจุดหนึ่งเป็นธุรกิจเพลง ซึ่งคาดว่ารายได้จะมีการเติบโตขึ้นมาอีกครั้ง หลังสร้างธุรกิจต่อเนื่องขึ้นมาและมีรายได้จากการทำธุรกิจกับ Youtube ที่เข้ามาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปีทีผ่านมาเพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!