- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 January 2015 15:42
- Hits: 1895
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,540 จุดอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทะลุแนวดังกล่าวได้ เกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นหลักที่ขยับขึ้นเด่นในช่วงก่อนหน้า SCB / PTT/ SCC เป็นต้น ขณะที่ภาพเก็งกำไรรายตัวในหุ้นขนาดกลางและเล็กยังคงเด่น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,535.09 จุด ลบเล็กน้อย 0.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,555 ล้านบาท
แม้ว่าต่างชาติคงการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 อีก 819 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 มากถึง 8,671 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 550 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมของกระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าราว 15-16 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวานนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•งบ 4Q57 ของ KBANK / BBL ใกล้เคียงคาด ติดตามการรายงานงบของ KTB ในวันพรุ่งนี้
•ขณะที่งบการเงินในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับไม่ชัดเจน สถาบันการเงินงบออกมาแย่กว่าคาด ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีกลับดีกว่าคาด
•ติดตามการประชุม BoJ วันนี้ อาจเห็นการส่งสัญญาณพร้อมเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
•IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกปีนี้ เป็น 3.5% จากประมาณการเดือนต.ค.ที่ 3.8% โดยปรับลดคาดการณ์การเติบโตในยุโรป, ญี่ปุ่น, จีน และละตินอเมริกา แต่กลับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจในสหรัฐฯ
•ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงลดลงต่อเนื่อง NYMEX ปิดที่ US$46.39/barrel เป็นราคาปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 13 ด้วยกรอบแกว่งระหว่าง 1,530-1,540 จุด เช่นเดียวกับวานนี้ ทั้งนี้กลุ่มธนาคารจะเริ่มทรงตัวดีขึ้น หลัง KBANK ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มธนาคาร รายงาน 4Q57 ออกมาใกล้เคียงกับคาด แต่ NIM กลับเพิ่มขึ้นสวนทางกับภาพรวมของธนาคารขนาดใหญ่ที่ NIM จะลดลง qoq ประเด็นนี้เชื่อว่าจะชดเชยกับกลุ่มน้ำมันที่ได้รับแรงกดดันจากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ยังไม่เห็นสัญญาณของการฟื้นตัวในระยะสั้น
ขณะที่บรรยกาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ต่างจับตามองการประชุม BoJ ในวันนี้ และ ECB ในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินตามมาอีกชุดหนึ่ง ส่งผลให้สภาพคล่องในระบบการเงินโลกเพิ่มมากขึ้น เกิดโอกาสของการทำ Carry Trade บนเงินเยนญี่ปุ่น และเงินยูโร เพื่อนำไปเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.22 น) เปิดบวกต่อเนื่องจากวานนี้ คาดว่าตลาดเก็งกำไรต่อการประชุม BoJ ในวันพรุ่งนี้
กลยุทธ์การลงทุน
เราคงคำแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพื่อเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค. รวมถึงการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 4Q57 เพื่อรอขายบริเวณ 1,550 จุดขึ้นไป
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC
Speculative Buy: BMCL/ TRUE
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “เก็งกำไร” ได้แก่
1.TRUE : ราคาปิด 12.40 บาท ราคาเหมาะสม 14.60 บาท
a)MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น TRUE และราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยูใน 4Q57 ที่คาดว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ราว 1-1.5 พันล้านบาท เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษการโอนเสาโทรคมนาคมราว 2 พันต้นให้กับ TRUEIF
b)และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ 4Q57 เป็นต้นไป เนื่องจากมีการชำระคืนหนี้ระยะยาวจำนวน 5.5 หมื่นล้านบาท หลังได้รับเงินจากการเพิ่มทุนจำนวน 6.5 หมื่นล้านบาท
c)ฐานะการเงินแข็งแกร่งโดย Net DE ลดลงเหลือเพียง 0.4 เท่า จะสะท้อนผ่านผลประกอบการปี 2558 ให้พลิกเป็นกำไรปกติ 1.29 หมื่นล้านบาท และหุ้นกลุ่มสื่อสารมี Catalyst คือการประมูล 4G ที่รออยู่ในช่วงต้น 3Q57
d)มี Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ หลังวานนี้ TRUE ประกาศแผนขายสินทรัพย์เพิ่มเติมให้กับ TRUEIF ได้แก่ ใยแก้วนำแส่งไม่เกิน 8,000 กม. และเสาโทรคมนาคมจำนวน 350 เสา มูลค่า 10,000 – 14,000 ล้านบาท ในเบื้องต้นคาดว่าจะส่งผลให้ TRUE บันทึกกำไรพิเศษในปี 2558 ได้ราว 2,000 – 2,900 ล้านบาท
2.BMCL : ราคาปิด 2.24 บาท ราคาเหมาะสม 2.42 บาท
a)MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น BMCL เนื่องจากธุรกิจเดินรถไฟฟ้ามีความมั่นคงของรายได้ และมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท อยู่ที่การเริ่มเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงในช่วงต้นปี 2559 ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารในระบบของ BMCL เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
b)คาด EBITDA ใน 4Q57 จะเติบโตทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจ และโรงเรียนกลับมาเปิดปกติเต็มไตรมาส
c)ราคาหุ้นมี Catalyst ได้แก่ การปรับขึ้นค่าโดยสารในปี 2558 และการเจรจาสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายกับรฟม. ที่คาดว่า BMCL มีโอกาสสูงที่จะได้รับสัญญาเดินรถไฟฟ้าดังกล่าว เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบัน
a)คาดผลประกอบการปี 2558 ขาดทุนสุทธิ 663 ล้านบาท แต่จะพลิกกลับเป็นกำไร 46 ล้านบาทในปี 2559
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$276 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$157 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 291.4 293.4 -454.6 13,190.4 9,188.0
KOSPI 43.1 -58.2 -846.5 6,165.50 4,875.1
JSE -26.7 -55.9 -229.0 3,750.60 -1,806.4
PSE -6.1 5.9 361.8 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -0.1 2.0 2.8 135.6 263.2
SET INDEX -25.1 -30.7 -586.5 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติโดยรวมส่งสัญญาณกลางถึงบวกเป็นวันที่ 2
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -819 -1,000
SET50 Index Futures (สัญญา) +8,671 +1,517
SSF (สัญญา) -56 +251
Metal Futures (สัญญา) -1,387 -2,085
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +550 +3,236
นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 อีก 819 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า ตลอด 8 วันทำการ ขายสุทธิ 11,981 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 19,234 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 มากถึง 8,671 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 10,586 สัญญา เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 11,668 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง และใกล้หมดสถานะ Short เป็นประเด็นนี้น่าจับตามอง ขณะที่ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 6.59 จุด กว้างขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 5.02 จุด
ทั้งนี้ตลาดตราสารหนี้ยังคงเป็นที่พักเงิน นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิคตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 550 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 3,786 ล้านบาท แม้ว่าค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเป็นวันที่ 4 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 3.59bps ปิดที่ 2.580%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 412 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 302 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 149.64 14.11% 332.52
ADVANC 68.82 10.32% 248.00
DTAC 24.88 8.11% 92.14
KBANK 21.25 1.70% 223.63
ITD 17.94 2.04% 7.89
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 กลุ่มธนาคารและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เป็นเป้าหมายของการลดน้ำหนัก
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิ 460 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 467 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเน้นลดน้ำหนักในกลุ่มธนาคาร และรับเหมาก่อสร้าง ต่อเนื่อง สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงานซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 312 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 496 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 104 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 76 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 88 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 682 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 401 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 209 ล้านบาท และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขายสุทธิ 164 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 134 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTT 275.68 23.15 KBANK -470.24 49.61
BBL 124.59 27.68 SCB -385.31 22.33
AOT 113.15 34.20 SCC -192.88 39.96
PTTEP 70.85 10.81 CK -121.77 26.77
TMB 66.33 9.10 TOP -70.15 37.60
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong