WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

SET ทดสอบ 1545 จุด
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นบวก มองกรอบเคลื่อนไหว 1,530 – 1,545 จุด
     SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1545 จุด แต่คาดจะถูกแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงเพื่อรอผลการประชุม ECB วันที่ 22 ม.ค. ที่ตลาดคาดหวังต่อการออกมาตรการ QE ของยุโรปที่คาดว่าจะมีขนาดราว 5-7 แสนล้านยูโรภายใน 18 เดือน และเราคาดจะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาด (ไม่มี QE หรือมีน้อยกว่านี้ SET จะปรับลงมาทดสอบ 1500 จุด และหากมี QE ตามคาด SET จะปรับขึ้นเหนือ 1545 จุด) อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก 1 พันล้านบาทบ่งบอกว่าเงินที่ไหลเข้าช่วงนี้อาจจะไม่เข้ามายัง SET ขณะที่การปรับขึ้นของ SET ยังถูกผลักดันจากนักลงทุนสถาบันเป็นหลักที่ซื้อสุทธิจากต้นปีแล้วกว่า 9.8 พันล้านบาทหรือกว่า 3 เท่าตัวของเดือนม.ค.ปีก่อน จึงมีโอกาสขายทำกำไรช่วงที่เหลือของเดือน และจะทำให้ SET พลิกผันได้ หุ้นกลุ่มธนาคารที่ประกาศงบออกมาดีกว่าคาด (TCAP TISCO TMB) ทำให้จิตวิทยาการลงทุนหุ้นธนาคารบางตัวดีขึ้น แต่หุ้นกลุ่มพลังงานอาจถูกกดดัน หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงมาทดสอบ US$46 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง หลังรับรู้ข่าว IEA ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกไปแล้วเมื่อวาน ทางเทคนิค SET อยู่ระหว่างการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานมีกรอบด้านบนแถว 1530-1545 จุด และกรอบด้านล่างแถว 1500-1515 จุดหลุดจากกรอบดังกล่าวจะเกิดการ Break out (ขึ้น/ลง)

    กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน ทยอยขายทำกำไรหรือหาจังหวะขึ้นขาย-ลงซื้อ หาก SET ปิดต่ำกว่า 1530 จุดควรชะลอการลงทุน

    Top Daily Pick: MC (คาดผลประกอบการ 4Q57 ฟื้นตัวตามปัจจัยฤดูกาล และการลดการทำโปรโมชั่น การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หันมาทำตลาดผ่านร้านค้าตัวเองจะช่วยฟื้นตัวผลประกอบการในปีนี้) /WORK (จำนวนผู้ชมและเรตติ้งมีแนวโน้มดีขึ้นเกือบทุกเดือน เพิ่มโอกาสปรับขึ้นค่าโฆษณา ขณะที่การดึงรายการช่อง 5 และ 9 มาออกใน WORKPOINT TV ส่งผลให้ฐานรายได้เพิ่มขึ้น)

Technical Pick: BGH IFEC S BMCL VTE

Theme Play: TRUE (เตรียมขายสินทรัพย์ขนาดไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาทเข้ากองทุน TRUEIF เพิ่ม คาดแล้วเสร็จเดือนมี.ค.) /กลุ่มธนาคารที่งบ 4Q57 เติบโตดีกว่าคาด (TCAP TISCO TMB) /หุ้นที่ชนะตลาด 2 สัปดาห์ติดกัน (FVC IFEC DEMCO SAMART SEAFCO SYNTEC TRC UNIQ BAY DCON IHL MONO PREB RCL)

รายงานวันนี้
Update : BCP (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 35 บาท) ระยะสั้นยังมีความเสี่ยงกดดันราคาหุ้น
Comment : RML (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 2.40 บาท) กำไร 1Q58 จะฟื้นตัวจาก Zire
Update : กลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ (น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าคลาด”) เม็ดเงินส่งสัญญาณไหลไปยังทีวีดิจิทัล

Strategy Talk
คาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะ outperform ตลาดในปีนี้
•เราคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างสำหรับปีนี้ โดยประเมินว่าเป็นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ แม้ในเชิงเศรษฐกิจเราจะเห็นว่าเม็ดเงินที่เบิกจ่ายจริงๆของทั้งโปรเจค 2 ล้านล้านจะเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่ปี 59 เป็นต้นไปทำให้แทบไม่มีผลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ แต่สำหรับหุ้นกลุ่มรับเหมาแล้วปีนี้จะเป็นปีที่เราคาดว่าภาครัฐจะเร่งให้มีการเปิดประมูลโครงการต่างๆเป็นจำนวนมากก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปีถัดๆไป เราจึงคาดหมายราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตอบสนองความคาดหวังเชิงบวกต่อโอกาสได้งานเข้ามาเพิ่มอีกมาก โดยเฉพาะผู้รับเหมารายใหญ่

•ในปี 57 ราคากลุ่มรับเหมาปรับตัวขึ้นกว่า 50% ดีกว่า SET และเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับต้น สำหรับปี 58 แม้ราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมากแล้วกว่า 10% ตั้งแต่ต้นปี เรายังมอง upside ต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน 1Q58 เนื่องจากภาครัฐมีแนวโน้มจะเร่งรัดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆให้จบภายในช่วงต้นปี โดยวงเงินโครงการที่ประมูลปีนี้กว่าครึ่งจะเป็นโครงการเกี่ยวกับรถไฟฟ้าและรถไฟรางคู่ (2.7 หมื่นล้านบาท)

•สำหรับการพิจารณาเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เราเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีศักยภาพและโอกาสในการรับงานมากที่สุด รวมถึงสามารถติดตามพัฒนาการและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายกว่า ที่สำคัญมีงานในมือที่อยู่ในระดับสูงที่ช่วยลดความผันผวนด้านผลประกอบการ โดยนักลงทุนระยะสั้นอาจหาจังหวะเข้าลงทุนตามรอบของ SET ขณะที่นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ควรหาจังหวะทยอยสะสมเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงมาแรง โดยหุ้นกลุ่มรับเหมาที่น่าสนใจได้แก่

•CK (ซื้อ / มูลค่าที่เหมาะสม 31.2 บาท) เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาโดยเป็นบริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพรับงานขนาดใหญ่ของภาครัฐสูง มีบริษัทลูกที่มีศักยภาพและยังช่วยจ่ายงานก่อสร้างให้ แม้ปีก่อนพลาดงานรถไฟฟ้าสายสีแดงไป เรามองว่า CK มารอรับงานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปีนี้จาก BMCL และสายสีส้มเนื่องจากมีประสบการณ์การสร้างรถไฟใต้ดิน อีกทั้งมีปัจจัยบวกจากการอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาเขื่อนน้ำบากมูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านบาท

•UNIQ (ซื้อ / มูลค่าที่เหมาะสม 13.7 บาท) มีจุดเด่นที่เป็นบริษัทรับเหมาขนาดกลางแต่รับงานใหญ่พวกรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ โดยปีนี้มีงานที่ทางบริษัทจับตารออีกคือส่วนต่อขยายสายสีแดงและสายสีเขียวเข้ม ประเมินการเริ่มรับรู้รายได้ในปี 58 ที่มากขึ้นจะทำให้มี EPS ก้าวกระโดดขยายตัว 41% YoY ปัจจุบันซื้อขายที่ 17 เท่า PE’58 ต่ำกว่ากลุ่มที่ 19 เท่า

•ITD (ซื้อ / มูลค่าที่เหมาสม 8.25 บาท) นอกจากการรับงานก่อสร้างรถไฟสายสีต่างๆแล้ว ITD มีจุดเด่นที่มีนี้รอรับงานขนาดใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก เริ่มจากโครงการทวายเราคาดว่าจะเห็นความชัดเจนขึ้นในปีนี้จากการเป็นแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นหนึ่งในแผนที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาก อีกทั้งมีโอกาสรับงานก่อสร้างเหมืองโปแตสซึ่งเป็นอีกแผนขนาดใหญ่ของรัฐบาล


Smart Port Note
HOTPOT เผยปี 58 หวังผลิกมีกำไรสุทธิโดยใช้แบรนด์ ฮอท พอท อินเตอร์ บุฟเฟ่ต์, ฮอท พอท สุกี้ ชาบู, ฮอท พอท เพรสทิจ รวมทั้งไดโดมอน และ ซิกเนเจอร์ สเต๊ค ลอฟต์ ที่เตรียมจะขยายสาขาเพิ่มในปีนี้อีก 5-10 สาขา

Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.85
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.92
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.91
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.43 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!