WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
      ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา แกว่งระหว่าง 1,515 – 1,525 จุด เนื่องจากเป็นวันศุกร์ และบรรยากาศรอบเอเชียไม่เอื้อต่อการลงทุน ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้กลุ่มธนาคารยังคงกดดันภาพตลาดโดยรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ปิดลบ 5.64 จุด มาอยู่ที่ 1,517.74 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 37,025 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 1,737 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 398 สัญญา และคงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 2,888 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
•Moody’s ลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียลงเป็น Baa3 สูงกว่า Junk Bond 1 ขั้น พร้อมส่งสัญญาณลดอันดับลงได้อีก
•ค่าเงินยูโรอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 11 ปี แตะระดับ US$1.15/euro เก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค.นี้
•ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกคืนวันศุกร์ปิดบวกเด่น กว่า 5% หลัง IEA ประเมินกลุ่มนอกโอเปคจะลดกำลังการผลิต
•ติดตามการรายงานงบ 4Q57 วันนี้ KBANK / SCB รายงาน BBL รายงานวันพรุ่งนี้ และ KTB รายงานวันที่ 21 ม.ค.

มุมมองต่อตลาด
     เราคงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 11 มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกฟื้นตัวเด่นกว่า 5% หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์กำลังการผลิตนอกกลุ่มโอเปคลง น่าจะเอื้อต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT / PTTEP แต่ภาพรวม SET INDEX ในความเห็นของเรายังไม่น่าผ่านแนว 1,530 จุดในวันนี้
เรายังคงให้น้ำหนักกับผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ที่จะเริ่มทยอยประกาศในเย็นวันนี้
•หากงบ 4Q57 ของกลุ่มธนาคารออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่า SET INDEX จะไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,540 – 1,550 จุด
•แต่หากงบ 4Q57 ของกลุ่มธนาคารออกมาเท่ากับหรือต่ำกว่าคาด เชื่อว่า SET INDEX จะถูกกดดันให้ปรับฐานลงทดสอบแนว 1,500-1,510 จุดได้
ดังนัรนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นการลงทุนเฉพาะตัว และ/หรือ ผลการดำเนินงานใน 4Q57 ต่อเนื่องถึงปี 2558 เติบโตเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตฯ จะขยับได้โดดเด่นเฉพาะตัวในช่วงนี้ เพื่อรอดูผลการดำเนินงานของกลุ่มที่ธนาคารที่จะทยอยประกาศในช่วง 3 วันนี้
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.18 น) เปิดบวก ราว 0.9-1.0% หลังค่าเงินเยนเริ่มอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และ ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว

กลยุทธ์การลงทุน
      เราคงคำแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพื่อเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค. รวมถึงการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 4Q57 เริ่มด้วยกลุ่มธนาคาร
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA
Accumulative Buy: ADVANC
Speculative Buy: KBANK

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.ADVANC : ราคาปิด 240.00 บาท ราคาเหมาะสม 320.00 บาท
a)MBKET คาดว่ากำไรปกติ 4Q57 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 9,877 ล้านบาท เติบโต +9% yoy และ +12% qoq เนื่องจากรายได้ Non-Voice เติบโตถึง +40% yoy จากจำนวนผู้ใช้บริการ 3G ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
b)ขณะที่การควบคุมต้นทุนยังทำได้ดี เนื่องจากได้ประโยชน์จาก Regulatory Cost ต่อรายได้ที่ลดลงเหลือ 13.3% ใน 4Q57 จาก 15.6% ใน 3Q57 และค่าใช้จ่ายโครงข่ายลดลง 5% qoq เนื่องจากผ่านการลงทุนโครงการข่ายหลัก 3G จำนวน 20,000 สถานีแล้ว
c)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +17.4% yoy เป็น 43,183 ล้านบาท และการประมูล 4G ในปี 2558 จะเป็น Catalyst ให้กับราคาหุ้น และ ADVANC ได้ประโยชน์โดยตรงเนื่องจากคลื่น 900 MHz จะหมดอายุสัมปทานในปี 2558 ดังนั้น หากการประมูล 4G เกิดขึ้นในปีนี้จะส่งผลให้ตลาดเลิกกังวลต่อการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของบริษัท
d)ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี คาดการณ์เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 6.09 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.5% และปี 2558 หุ้นละ 14.23 บาท คิดเป็น Dividend Yield 5.9%
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.KBANK : ราคาปิด 225.00 บาท ราคาเหมาะสม 260.00 บาท
a)KBANK จะรายงานผลประกอบการ 4Q57 ในวันนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +17% yoy เป็น 1.09 หมื่นล้านบาท
b)คาดการณ์เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 3.40 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1.5%
c)คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อปี 2558 โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต +8% yoy ตามการฟื้นตัวของ GDP และรายได้ค่าธรรมเนียมมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง
d)ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.7% yoy เป็น 50,688 ล้านบาท และ Valuation มีความน่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 1.8 เท่า ต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2557 ที่ขึ้นไปซื้อขายระดับ PBV 2.1- 2.2 เท่า
a)และเชื่อว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะเป็นหุ้นกลุ่มหลักที่ตอบรับเชิงบวกจากแรงเก็งกำไรการออก QE ของ ECB ในการประชุมวันที่ 22 ม.ค.

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก US$343 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$435 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -265.2 -103.4 -1,039.1 13,190.4 9,188.0
KOSPI n.a -184.9 -831.4 6,165.50 4,875.1
JSE -26.4 -49.3 -146.5 3,750.60 -1,806.4
PSE Closed Closed 362.0 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 2.5 -0.7 0.9 135.6 263.2
SET INDEX -53.4 -96.4 -530.7 -1,091.4 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงเลือกลดน้ำหนักการลงทุนในไทย
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -1,737 -3,156
SET50 Index Futures (สัญญา) +398 -2,573
SSF (สัญญา) -44 +410
Metal Futures (สัญญา) +38 -1,275
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -2,888 -3,612

     นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 1,737 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ขายสุทธิ 10,162 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิมากถึง 17,415 ล้านบาท

      ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ 398 สัญญา เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 11,668 สัญญา คาดว่าเป็นการกลับมาปิดสถานะ Short อีกครั้ง และทำให้ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเล็กน้อย เป็น 11.91 จุด จากวันก่อนหน้า Discount มากถึง 14.37 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้ คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 2,888 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 6,500 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยทรงตัว ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 เพียง 0.25bps ปิดที่ 2.502% แต่ค่าเงินบาทแข็งค่าเด่น 5-10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 746 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 688 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
TRUE 130.10 9.23% 12.22
PTT 115.67 7.94% 320.49
KBANK 61.88 3.30% 226.16
ADVANC 43.61 3.34% 240.15
PTTEP 37.39 5.32% 105.04

NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 109 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 3,149 ล้านบาท โดยกลับมาเพิ่มน้ำหนักกลุ่มพลังงาน แต่ยังคงลดน้ำหนักกลุ่ม ICT สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงานกลับมาซื้อสุทธิ 368 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 209 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 123 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 68 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่ม ICT ขายสุทธิสูงสุด 366 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 310 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 161 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTT 447.41 20.86 INTUCH -233.63 21.23
TUF 243.36 38.59 LH -210.21 31.42
AAV 62.84 19.08 KBANK -89.90 65.37
PS 56.05 39.95 DTAC -87.30 22.61
KTB 51.38 6.88 ADVANC -54.49 12.52

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!