- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 January 2015 15:04
- Hits: 1651
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ปรับฐานต่อ
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นลบ มองกรอบเคลื่อนไหว 1,500 - 1,525 จุด
SET ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยมีโอกาสลงไปปิด Gap บริเวณ 1500 จุด ราว 1-2 วันทำการ เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 3.1 พันล้านบาท และขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน บ่งบอกว่าแรงพยุง SET ยังต้องอาศัยเม็ดเงินจากนักลงทุนไทยด้วยกันโดยเฉพาะจากฝั่งสถาบันที่เราเชื่อว่าจะเริ่มจำกัดในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ ด้านฝั่งยุโรปธนาคารแห่งชาติสวิสเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศเลิกผูกติดค่าเงินกับเงินสกุลยูโรและส่งผลให้ค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นในวันเดียวกว่า 28% บ่งบอกว่าเงินสกุลยูโรมีมูลค่าสูงเกินจริง (overvalued) ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อมาตรการ QE ของยุโรป
เราเชื่อว่า หากมีการประกาศมาตรการดังกล่าวในการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 22 ม.ค.นี้จะเร่งกดดันให้เงินสกุลยูโรเสื่อมค่าลงไปอีกและจะยิ่งทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่เป็น Non-US ด้านราคาน้ำมันดิบ แม้ Brent ยังคงทรงตัวแถว US$47 ต่อบาร์เรล แต่การ Preview งบ PTTEP 4Q57 ของนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ คาดยังมีโอกาสปรับลดประมาณการจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับตัวลง และกลุ่มพลังงานยังมีความเสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไร ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารยังเสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไรช่วงของการประกาศงบ 4Q57 ที่จะมีไปจนถึงสัปดาห์หน้า ทางเทคนิค SET อยู่ระหว่างการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานมีกรอบด้านบนแถว 1530-1540 และกรอบด้านล่างแถว 1500-1515 หลุดจากกรอบดังกล่าวจะเกิดการ Break out (ขึ้น/ลง)
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน ชะลอการลงทุน หรือหาก SET ปรับลงมาแถว 1500 จุด+/- เสี่ยงซื้อเพื่อไปขายช่วงรีบาวน์
Top Daily Pick : MINT (ธุรกิจอาหารภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว จะช่วยผลักดันผลประกอบการให้กลับมาโตก้าวกระโดดในปีนี้) / GRAMMY (ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงของการ Turnaround หลังขายทิ้งธุรกิจไม่ทำกำไร และหันมาเน้นการเติบโตจากธุรกิจช่องทีวีดิจิทัล การเร่งลงง contents ใหม่ในปีนี้ จะช่วยให้เรตติ้งดีขึ้น)
Technical Pick : TUF TGCI TNH SEAFCO MINT
Theme Play : รับเหมาก่อสร้าง (CK ITD STEC UNIQ) ได้ประโยชน์จากโครงการภาครัฐที่จะมีความคืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ /กลุ่มโรงแรม-ค้าปลีก-ร้านอาหาร (HOTPOT ROBINS M MINT) กำลังฟื้นตัวตามปัจจัยฤดูกาลและเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวจากราคาน้ำมันดิบลดลง
พอร์ตลงทุน
Trading AMATA BEAUTY M NOK SST SIM WORK
OUT: WORK IN: GRAMMY
Growth AMATA HOTPOT TOP TUF WORK
Dividend ADVANC BBL EGCO MODERN PTTGC RML SRICHA
Quant BECL BIGC EGCO MODERN HANA HOTPOT NBC
รายงานวันนี้
Reinitiate : DTAC (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 101 บาท) การฟื้นตัวยังไม่โดดเด่น แต่ยังจ่ายปันผลได้ในอัตราสูง
Preview : PTTEP (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 132 บาท) ราคาน้ำมันลดฉุดผลประกอบการ คาด 4Q57 ขาดทุน
Strategy Talk
แนะนำถือครองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาครัฐและการฟื้นตัวในประเทศ
•วันก่อน (14 ม.ค.) ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในงานปาฐกถาพิเศษยืนยันความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ต่อนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน โดยคาดว่า GDP ปี 58 จะสามารถขยายตัวได้ตามคาดการณ์ที่ 4% จากพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยใน 4Q57 ทางสภาพัฒน์ชี้ว่าเริ่มเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ไม่ต่ำกว่า 2% เพราะการบริโภคในประเทศดีขึ้นจากราคาน้ำมันถูกลงและการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน ส่วนแผนการดำเนินการระยะยาวยังคงยึดนโยบายรัฐบาลที่เคยประกาศไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะทุ่มเทกับการปฏิรูปประเทศเพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เสริมความสามารถการแข่งขันในเวทีโลก และลดความเหลื่อมล้ำในประเทศ อาทินโยบายเพิ่มการเก็บภาษีมรดกและภาษีที่ดิน ขณะที่เรื่อง Digital economy เป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญอันดับต้นๆ หวังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ทุกๆภาคส่วน ตามด้วยแผนสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์การค้าในภูมิภาค
•โดยภาพรวมสิ่งที่กล่าวขึ้นในงานแม้จะไม่ค่อยมีอะไรใหม่ แต่ก็ช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้ในระดับหนึ่ง และจากข้อมูลที่ได้รับครั้งนี้ยังคงมีทิศทางเดียวกับข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ทางกลยุทธ์จึงยังคงให้น้ำหนักกับการลงทุนในหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวในประเทศและที่ได้ประโยชน์จากแผนงานของรัฐบาล ซึ่งมีความน่าสนใจมากกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นที่อิงกับการส่งออกหรือราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช่นกลุ่มส่งออก พลังงาน/ปิโตรเคมี) ที่ผลประกอบการยังมีโอกาสผันผวนตามทิศทางราคาน้ำมันดิบและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ โดยกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำสำหรับนักลงทุนสำหรับการถือครองระยะกลาง-ยาวได้แก่
1.กลุ่มสื่อสาร (ADVANC INTUCH THCOM) จากการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ต้องการให้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกหน่วยงานและให้ประชาชนทุกครัวเรือนเข้าถึงอินเตอร์เน็ทได้ ซึ่งจะหนุนการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกมาก
2.กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK ITD STEC) จากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆเป็นจำนวนมาก ล่าสุดเริ่มพูดถึงการสนับสนุนเหมืองแร่โปแตสที่เป็นทรัพย์ยากรธรรมชาติที่ไทยมีมาก (4 แสนล้านตัน ราว 2 ล้านล้านบาท) โดย ITD มีโอกาสรับงานก่อสร้างนี้เป็น upside ใหม่ขนาดใหญ่หนุนงานในมือ
3.กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (AMATA HEMRAJ ROJNA) จากการสนับสนุนการลงทุนในประเทศ ม.ร.ว. ปรีดิยาธรชี้ว่าหลังเข้ามาปรับแก้ลดขั้นตอนการอนุมัติการจัดตั้งโรงงาน มีโรงงานเร่งเข้ามาขออนุมัติเป็นจำนวนมาก จากปกติที่ค้างท่ออยู่ราว 900 โรง อนุมัติเพิ่มไปแล้วกว่า 3800 โรงและยังมีโรงงานใหม่มาขออยู่เรื่อยๆ อีกทั้งมีนโยบายสนับสนุนโรงงานผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้นเพื่อสร้างจุดแข็งแข่งกับประเทศเพื่อนบ้าน
4.กลุ่มเครือข่ายร้านค้าปลีก-อาหาร-ความงาม (CPALL KAMART M ROBINS) จากราคาน้ำมันถูกลงหนุนการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ และการที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการเยียวยาเกษตรกรสวนยางและชาวนา
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากสุดวานนี้ BEAUTY (+1.54%)
สำหรับวันนี้ แนะนำ “ขายทำกำไร” WORK โดยให้ผลกำไรราว 4.8% ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” GRAMMY มี upside สูงกว่าราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองโอกาส Turnaround ในปีนี้หลังเริ่มลงรายการใหม่และทยอยดึงรายการกลับมาออกอากาศในช่องตนเองแบบ WORK
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.86
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.04
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.92
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.42