- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 January 2015 16:23
- Hits: 2052
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น 15 มกราคม 2558
เด้งตามแนวรับ
วันนี้คาดดัชนีฯ เด้งตามแนวรับ คาดกรอบ 1,507-1,528 จุด
เมื่อวานทองแดงโลกลงแรง กดดันกลุ่มเหมืองแร่ตลาดหุ้นโลก คาดความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก (World bank ปรับลด GDP โลกลง 0.4% เหลือ 3% แย่กว่าตลาดคาดที่ 3.5%) กดดันหุ้นโลก ในระยะ 1 เดือนข้างหน้า ส่วนรอบสั้น คาดยังไม่หลุดแนวรับ เชื่อยังมีลุ้นเด้งอีกครั้ง
ระยะสัปดาห์ คงแนวรับ 1,505/1,510 จุด ถ้าไม่หลุด คาดขึ้น (Rang bound) อีก มองแนวต้านสัปดาห์นี้คาดแถว 1,540 จุด ส่วนแนวต้านรายเดือน คงไว้ที่บริเวณ +/-1,550 จุด แนะ ขึ้นทดสอบเป็นโอกาสในการกระชับพอร์ต
หุ้นแนะนำ เก็งกำไร TTA แนวรับ 17.7 บ. หลุด 17.5 Stop loss แนวต้าน 18.8 บ., CSS แนวรับ 7.5 ต้าน 8.25 บ.
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(-) เราปรับเป้าหมายดัชนีฯปีลงเหลือ 1,670 จุด (จากเดิมคาด 1,725 จุด) เป็นผลจาก การปรับสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบลง ทำให้กำไรกลุ่มพลังงานปิโตรปรับลง ส่วนหุ้นที่ Resilient สุด (มี Downside ของการปรับลดคาดการณ์กำไรลงน้อยสุด) ได้แก่ โรงพยาบาล และ ธนาคารฯ (แบงก์เป็นกลุ่มที่เราใช้สมมุติฐานอนุรักษ์นิยมอยู่แล้ว)
(0) กลุ่มเรือเทกอง ค่าระวางเรือปรับลง 52% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตามค่าระวางเรือใหญ่ Capesize ที่ขนแร่เหล็กและ สินค้าโภคภัณฑ์ ที่ราคาลงแรงตามตลาดโลก อย่างไรก็ดี เราคาดค่าระวางมีโอกาสรีบาวด์ในช่วงก่อนตรุษจีน (19 กพ.) จากปัจจัยฤดูกาล และ ปรับลงอีกครั้งหลังวันหยุดยาวในจีน แนะนำ Trading buy PSL (ราคาเป้าหมาย 31.25 บ.) และ Buy TTA (ราคาเป้าหมาย 29 บาท)
(+) LH คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.6 บ. วานนี้ประชุมนักวิเคราะห์เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ ประเด็นการรับรู้กำไรจากการขาย Terminal 21 ที่สูงกว่าคาด เดิมคาดกำไร 1.1 พันล้านบาท แต่ผู้บริหารคาดมีแนวโน้มรับรู้กำไร 1.5 พันล้านบาท ส่งผลให้ปันผล 2H14 คาดมากกว่าคาด โดยคาดปันผลระหว่างกาลที่เหลือ จะจ่ายได้ ราว 0.35 บ./หุ้น
หุ้นมีข่าว
(+) DEMCO ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น WEH เดือนนี้ (คาดประชุมผู้ถือหุ้นรอบนี้ มีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก)
(+) SAMART ได้งานปรับปรุงสถานีไฟฟ้าสุราษฎร์ มูลค่างาน 483.95 ล้านบาท
(-) AAV NOK รมว.คมนาคม สั่ง บพ.ศึกษาค่าธรรมเนียมสายการบินควรปรับลดลงตามราคาน้ำมันหรือไม่
(+) IFEC ลงทุน 101 ล้านบาทซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จาก บ.วังการค้ารุ่งโรจน์ (ยังไม่ทราบกำลังผลิตไฟฟ้า เราอยู่ระหว่างการขอข้อมูลเพิ่มจากผู้บริหาร)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) โกลด์แมนแซค ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปี 2015 ลง เหลือ $47.15 จากเดิมคาด $73.75 ส่วนปี 2016 ปรับลงเหลือ $65 จาก $80 และ คาด 1Q15 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ $46 จากเดิมคาด $75 ส่วน BRT คาดอยู่ที่ $47 จากเดิมคาด $85
(+) ปธน.ฝรั่งเศสส่งสัญญาณบวก แนะเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย มองแนวโน้มการเจรจา ไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ระหว่าง 15 มค. มีแนวโน้มจะประนีประนอมได้
(-) กรีซจัดเลือกตั้งฉุกเฉิน 25 มค. รอบใหม่ โพลคาดพรรคสนับสนุนการยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดชนะ ส่งผลกรีซเสี่ยงออกจากกลุ่มยูโรโซน
(+) ตลาดคาดหวัง ECB เร่งอัดฉีด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในการประชุม 22 มค.นี้
(+) ดอยช์แบงก์คาดจีนลด RRR 2 ครั้ง และ ดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง ในปีนี้ โดยมองการควบคุมความเสี่ยงทางการคลังและหนี้รัฐบาลท้องถิ่น มีประสิทธิภาพดี ทำให้ไม่มีความเสี่ยงวิกฤตเศรษฐกิจ คาด GDP ปีนี้โต 7% ตามเป้า
(+) พฤหัส US PPI (ธค.) คาด -0.4% จาก -0.2% m-m, ญี่ปุ่น PPI (ธค.) คาด +2.1% จาก +2.7% y-y, ธนาคารกลางอินโดฯ คาดคงดอกเบี้ย 7.75%
(+) ศุกร์ US consumer price (ธค.) คาด-0.4% จาก -0.3% US Core CPI คาด +0.1% ไม่เปลี่ยนแปลง US industrial production (ธค.) คาด 0% จาก +1.3%, EU เงินเฟ้อ HICP (ธค.) -0.2% จาก -0.2%, ธนาคารกลาง เกาหลีใต้คาด ลดดอกเบี้ย เหลือ 1.75% จาก 2%
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ผลสำรวจของเฟดสหรัฐพบผู้บริโภคมั่นใจใช้เงิน
ผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ และ ธนาคารกลางสาขาทั่วประเทศพบว่าผู้บริโภคสหรัฐมีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวได้ระดับปานกลาง การจ้างงานดีขึ้นต่อเนื่อง และ อัตราค่าจ้างปรับตัวดีขึ้นระดับปานกลางโดยเฉพาะพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ระดับราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น (Bloomberg)
'แลนด์ฯ' มองตลาดอสังหาปีนี้โตต่ำ 10%
"แลนด์แอนด์เฮ้าส์" ประเมินอสังหาฯปี2558 โตไม่ถึง10% เหตุปัจจัยหนุนตลาดมีเพียงการลงทุนภาครัฐ ขณะที่กำลังซื้อ ต่างจังหวัดแผ่ว ฉุดยอดขายปี 2557 ต่ำเป้าจับตาคอนโดต่างจังหวัด "ทิ้งดาวน์ไม่รับโอน" โดยเฉพาะราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทที่ซื้อเก็งกำไรจำนวนมาก (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
พาณิชย์คงเป้าส่งออกโต 4% สวน 'เวิลด์แบงก์' หั่นศก.โลก
กระทรวงพาณิชย์คงเป้าส่งออกปีนี้โต 4% โดยหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวและทำให้ตลาดสินค้าไทยขยายตัวได้ แต่การคาดการณ์ของธนาคารโลกกลับประเมินว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.5% เหลือ 3.3% มีเพียงเศรษฐกิจสหรัฐฯ เท่านั้นที่ฟื้นตัว (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
อุตฯชงมติครม.เดิมคุมแร่ใยหิน หวั่นเลิกทันทีกระทบมหาศาล
รายงานข่าวจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุถึงมติ ครม.ที่ให้กระทรวงอุตสาหกรรมกลับไปทบทวนการขึ้นทะเบียนแร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 ว่า ที่ประชุม ครม.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปทบทวนถึงผลดี ผลเสีย และแนวทางเยียวยาแก้ไขถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ซึ่งจากการพิจารณาในเบื้องต้นเห็นว่าหากกำหนดให้แร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 4 จะกระทบกับประชาชนอย่างกว้างขวาง เนื่องจากตามกฎหมายได้ระบุอย่างชัดเจนว่าวัตถุอันตรายประเภทที่ 4 จะต้องห้ามนำเข้า ส่งออก ผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองอย่างเด็ดขาด (หนังสือพิมพ์มติชน)
เอสเอ็มอีแบงก์โล่งกำไรเพิ่ม-แถมหนี้เน่าลด
นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของธนาคาร ปี 2557 มีกำไรสุทธิ 334 ล้านบาท ดีขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 41 ล้านบาท เนื่องจากสามารถรักษาคุณภาพลูกหนี้ไม่ให้ตกชั้นเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) รวมถึงการปรับโครงสร้างลูกหนี้เดิมที่เป็นหนี้เสียให้กลับมาเป็นลูกหนี้ปกติ (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
เร่งแก้อียูแบนประมง
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่สหภาพยุโรป (อียู) จะให้ใบเหลืองกับไทยในเดือนก.พ.2558 เนื่องจากผลการประเมินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ของไทยไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบของอียู โดยให้ระยะเวลาอีก 6 เดือนในการแก้ไขปัญหาเพื่อทำการปลดใบเหลือง มิเช่นนั้นไทยอาจถูกขึ้นบัญชีเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือกับอียู (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
เป็นห่วงหนี้เสียธนาคารจำใจขึ้นค่าทวงหนี้
แหล่งข่าวจากสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตบางรายปรับค่าธรรมเนียมการติดตามหนี้จากลูกค้าเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจซบเซา มีความเสี่ยงที่ลูกหนี้จะผิดนัดชำระ ทำให้ต้องเพิ่มทีมงานและปรับปรุงระบบการติดตามหนี้ หรือบางรายไม่ได้เพิ่มคน แต่ต้องขึ้นเงินเดือนพนักงาน ซึ่งเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน