- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 January 2015 17:37
- Hits: 2389
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Mid Cap
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แม้เปิดย่อตัวลงทดสอบแนวรับ 1,515 จุด จากแรงกดดันของหุ้น PTT / PTTEP ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรง บวกกับบรรยากาศรอบเอเชียช่วงเปิดเป็นลบ แต่เมื่อจีนรายงานตัวเลขส่งออกเดือนธ.ค.ออกมาดีกว่าคาด บวกกลุ่มธนาคารเริ่มทรงตัวดี เกิดแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง ผลักดันให้ SET INDEX ปิดบวกเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อย 3.76 จุด มาอยู่ที่ 1,534.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,602 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติเหมือนวันก่อนหน้า คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,082 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 3,302 สัญญา แต่พักเงินบางส่วนในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 522 ล้านบาท หลังค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อาจจูงใจให้เงินทุนต่างชาติขายทำกำไรและนำเงินทุนออก เพื่อรับกำไรจากค่าเงินอีกส่วนหนึ่ง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกหลุดแนว US$45/barrel ปิดวานนี้ US$45.89/barrel สำหรับ NYMEX สะท้อนความกังวลต่อภาวะ Oversupply ที่ยังคงไม่เห็นแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ กดดันราคาหุ้น PTT / PTTEP ให้ฟื้นตัวได้อย่างจำกัด
•เช้านี้ติดตามตัวเลขยอดสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนเดือนธ.ค.ของจีน Bloomberg consensus คาด CNY9.0 แสนล้าน จากเดือนก่อนหน้า CNY8.527 แสนล้าน
•ติดตามรายงาน Beige Book คืนนี้
•World Bank ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงเหลือ 3.0% จากประมาณการเดิมเดือนมิ.ย. 2557 ที่ 3.4% แม้ว่าจะปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขึ้นก็ตาม
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 8 ด้วยกรอบแกว่งของ SET INDEX ช่วงนี้ระหว่าง 1,520-1,540 จุด กลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTT / PTTEP ยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลการดำเนินงาน 4Q57 ของกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มทยอยประกาศมากขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ต่อเนื่องต้นสัปดาห์หน้า หากออกมาดีกว่าคาดเหมือน TISCO จะกลายเป็นปัจจัยบวกที่สร้างบรรยากาศเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงาน 4Q57 และผลตอบแทนเงินปันผลงวด 2H57 หรือปี 2557 ส่งผลให้ Downside risk ของ SET INDEX ช่วงนี้จำกัด และเป็นภาพแกว่งในกรอบแคบมากยิ่งขึ้นคล้ายภาพสามเหลี่ยม เพื่อรอการเบรค/ชี้ทิศทางที่ชัดเจนในระยะถัดไป
ขณะที่คืนนี้ติดตามรายงาน Beige Book ของเฟด 12 เขต เพื่อประเมินมุมมองของเฟดแต่ละพื้นที่ ต่อภาพรวมเศรษฐกิจ / อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะมีผลต่อการประชุม FOMC ในปลายเดือนนี้ ส่วนปัจจัยภายนอกอื่นๆ เป็นการติดตามผลการดำเนินงานใน 4Q57 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจทำให้ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งไปตามผลการดำเนินงานในแต่ละคืน
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.16 น) เปิดลบ – บวก สลับกัน จากค่าเงินเยนที่พลิกกลับมาแข็งค่าแตะระดับ Yen117/US$ กดดันภาพรวมของญี่ปุ่น
กลยุทธ์การลงทุน
เราคงคำแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพื่อเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค. รวมถึงการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 4Q57 เริ่มด้วยกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.จนถึงวันที่ 21 ม.ค.
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA
Accumulative Buy: SIM / TTA
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.TTA : ราคาปิด 18.30 บาท ราคาเหมาะสม 32.10 บาท
a)MBKET คาดว่าราคาหุ้น TTA จะฟื้นตัวต่อเนื่อง ในทิศทางเดียวกับดัชนีค่าระวางเรือ BDI ที่ปรับตัวขึ้นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 39 จุดเป็น 762 จุด
b)และมี Catalyst รออยู่ในเดือน ม.ค. คือการเข้าประมูลซื้อหุ้น BCP หลัง นสพ.รายงานว่าบริษัทลูกของ TTA เป็น 1 ใน 4 บริษัทที่เข้าประมูล และคาดว่าจะรู้ผลการประมูลในเดือนนี้
c)มีความพร้อมต่อการลงทุนขนาดใหญ่ หลังประกาศเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในสัดส่วน 15 หุ้นเดิม ต่อ 6 หุ้นใหม่ (XR 5 ก.พ.) จำนวน 614.9 ล้านหุ้น คาดว่าจะระดมทุนได้ราว 8 – 9 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินสดในมืออีก 7.6 พันล้านบาท จะส่งผลให้มีเงินสดรวมสูงถึง 1.6 หมื่นล้านบาท
d)ซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 0.7 เท่า แนะนำ “ทยอยสะสม” เพื่อรับสิทธิ XD หุ้นละ 0.25 บาท ในวันที่ 3 ก.พ. และ XR, XW, XB ในวันที่ 5 ก.พ.
2.SIM : ราคาปิด 3.42 บาท ราคาเหมาะสม 4.70 บาท
a)MBKET คาดว่ากำไรสุทธิ 4Q57 จะเติบโต qoq เป็น 180-190 ล้านบาท จากผลบวกตามฤดูกาล และรับรู้รายได้จำหน่าย Smartphone ล็อตใหญ่ราว 5 แสนเครื่องให้กับ DTAC
b)ราคาหุ้นยัง Laggard หุ้นในกลุ่ม SAMART โดย 1 เดือนที่ผ่านมาหุ้น SIM +4.% น้อยกว่า SAMART +14.5% และ SAMTEL +15.7%
c)และ Valuation ยังค่อนข้างถูก เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 12.2 เท่า เทียบกับ SAMART 18.3 เท่า, SAMTEL 13.2 เท่า และกลุ่ม ICT ที่ราว 15 เท่า
a)มี Catalyst ในปี 2558 คือการนำบริษัทลูก SAMART-I Sport เข้าจดทะเบียน และผู้ถือหุ้น SIM จะมีสิทธิในการจองซื้อ (Preemptive Right) หุ้น IPO ในช่วง 2H58
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ US$75 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$124 ล้าน จากวัน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 75.4 -11.2 -475.8 13,190.4 9,188.0
KOSPI -77.1 -92.8 -258.0 6,165.50 4,875.1
JSE -29.3 -5.4 -21.1 3,750.60 -1,806.4
PSE 21.3 300.9 314.7 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -1.7 2.3 -3.3 135.6 263.2
SET INDEX -63.3 -69.4 -379.7 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักในตลาดหุ้นไทย ต่อเนื่อง หลังค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -2,082 -2,280
SET50 Index Futures (สัญญา) -3,302 -331
SSF (สัญญา) -3,976 +594
Metal Futures (สัญญา) +132 -303
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +522 +512
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,082 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 5,232 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12,485 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 3,302 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 5,621 สัญญา เทียบกับ ตลอด 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 7,079 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long เมื่อ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 5.92 จุด จากวันก่อนหน้า Discount มากถึง 15.28 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้ นำเงินเข้าพักในตลาดตราสารหนี้บางส่วนเป็นวันที่ 2 เพียง 522 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,034 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยเพิ่มขึ้นเด่นอีกครั้ง ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ลดลงถึง 2.33bps ปิดที่ 2.496%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 541 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 396 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 161.99 11.06% 326.99
PTTEP 69.90 12.70% 107.67
TRUE 66.20 2.08% 12.30
KBANK 29.26 2.04% 225.43
BTS 27.26 4.62% 10.20
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 กลับมาลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารอย่างหนาแน่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิมากถึง 1,116 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิเพียง 42 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 1,653 ล้านบาท โดยกลับมาลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารอย่างโดดเด่นอีกครั้ง ภาพรวมสรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มธนาคารธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุด 924 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 76 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 242 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า ขายสุทธิ 373 ล้านบาท และกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 201 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 139 ล้านบาท
2.ขณะที่กลุ่มอาหาร ถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 87 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 150 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม HOME ซื้อสุทธิ 57 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
TUF 83.69 25.89 KBANK -421.91 32.54
TRUE 68.84 3.75 KTB -292.53 20.13
ITD 61.16 3.46 BBL -249.52 22.28
AJD 53.33 2.02 PTT -187.36 32.51
SCC 47.47 16.76 ADVANC -149.11 20.90
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong