- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 January 2015 16:12
- Hits: 2094
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ใกล้จะปรับพักตัว ดังนั้นขายบวกแล้วรอซื้อช่วงลบได้
กลยุทธ์ : หลังจาก SET รีบาวด์กลับขึ้นมาได้หลายวันแล้ว คาดว่าต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นกดดันให้ดัชนีแกว่งผันผวนเป็นระยะและปรับพักตัวลงด้านลบอีกได้ ดังนั้นหลังจากแนะนำให้ดูจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกแล้ว ถัดจากนี้ก็รอซื้อกลับ//ซื้อเพิ่ม เฉพาะช่วง SET ปรับตัวลงดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TRUE, CENTEL, GLOW(buy back)
แนวโน้ม : SET รีบาวด์กลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเป็นบวกได้ตลอดครึ่งหลังของสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยระยะทางถึง 70 จุดจากจุดต่ำสุด ซึ่งถือว่าดัชนีขยับขึ้นมาเร็วพอควร ทำให้ต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET ปรับพักตัวลงไว้ด้วย โดยเฉพาะเช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่เริ่มกลับมาแกว่งตัวด้านลบอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่คาด นอกจากนี้นักลงทุนยังมองว่ามาตรการ QE ของ ECB จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในยูโรโซนได้ รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่กลับมาปรับลงอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณว่ากลุ่มประเทศโอเปคจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันเพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมันหรือไม่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดเป็นลบ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรงเท่ากับตลาดหุ้นฝั่งตะวันตก แต่ก็น่าจะกดดัน SET ให้เริ่มมีจังหวะแกว่งย้อนลงไปเคลื่อนไหวเป็นลบได้ด้วยเช่นกัน
แนวรับ 1525-1522 , 1515-1505 จุด
แนวต้าน 1530-1532 , 1536-1540 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาค US$903 ล้าน จากที่ไหลเข้า US$579 ล้านเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมาไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$166.3 ล้าน อินโดนีเซีย US$71.2 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$26.4 ล้าน แต่ขายไทย US$26.5 ล้าน ไต้หวัน US$18.9 ล้าน และเวียดนาม US$0.1 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะไหลเข้าแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) การคาดหวัง QE จาก ECB อาจช่วยตลาดได้ในระยะสั้น การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.52 แสนราย แม้จะลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่ม 3.53 แสนราย แต่สูงกว่าคาดและสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาที่ 2.46 แสนรายต่อเดือน แม้ว่ารายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงจะลดลง 0.2% M-M แต่เราคิดว่าเป็นผลของฤดูกาลจึงไม่น่ากังวล แต่ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าเล็กน้อยหลังประกาศตัวเลขการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม การคาดหวังว่า ECB จะออก QE เพิ่มในการประชุม 22 ม.ค. นี้อาจช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุนในระยะสั้น
(-) ปัจจัยต่างประเทศอาจทำให้ตลาดผันผวนในช่วงปลายเดือน วันที่ 25 ม.ค. กรีซจะจัดการเลือกตั้งทั่วไป ขณะที่โพลล์ล่าสุดชี้พรรคฝ่ายค้าน (พรรคไซรีซา) ซึ่งต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของ EU และ IMF มีคะแนนนำเหนือพรรครัฐบาล (พรรคนิวเดโมเครซี) หากกรีซผิดนัดชำระหนี้อาจต้องออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ขณะเดียวกันช่วงปลายเดือน นักลงทุนอาจกลับมาวิตกกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัสเซียที่จะครบกำหนดชำระก้อนใหญ่อีกครั้งหลังราคาน้ำมันยังปรับลงไม่หยุด
(+) เราคาดกำไรสุทธิ 4Q14 ของกลุ่มแบงก์ลดลง 11% Q-Q ตามฤดูกาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงสุดของปี ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและพนักงาน แต่กำไรน่าจะเพิ่ม 1% Y-Y ซึ่งทำให้กำไรทั้งปี 2014 เพิ่มขึ้น 2% Y-Y เป็นอัตราเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตซับไพร์ม เพราะปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยยังลดลงตลอดปี อย่างไรก็ตาม แบงก์ของไทยยังแข็งแกร่งทั้งการบริหาร NIM และคุมค่าใช้จ่าย สำหรับปี 2014 เราคาด KBANK และ TMB จะมีกำไรเติบโตมากที่สุด 15% และ 44% ตามลำดับ ส่วนปี 2015 เราคาดกำไรทั้งกลุ่มโต 7% แนะนำ KBANK (ราคาเป้าหมาย 271 บาท) และ KTB (ราคาเป้าหมาย 27.60 บาท) เป็น Top picks ทั้งนี้ TISCO (ราคาเป้าหมาย 52 บาท) จะรายงานผลประกอบการวันนี้ เราคาดกำไรทั้งปีก่อน -8% Y-Y
(+) AP เราคาดกำไร 4Q14 -58% Q-Q, -54% Y-Y เพราะโอนคอนโดไปใน 3Q14 ค่อนข้างมาก เหลือโครงการที่จะโอนใน 4Q14 น้อยลง ทำให้ทั้งปี 2014 มีกำไรโต 21% Y-Y ใกล้เคียงกับกลุ่มที่คาดว่าจะโต 23% Y-Y สำหรับปี 2015 เราปรับกำไรขึ้น 10% เป็น 2.75 พันล้านบาท ขยายตัว 13% Y-Y (สูงกว่ากลุ่มที่โต 8% Y-Y) ตามแนวโน้มการขายและโอนที่ฟื้นต่อเนื่องจากปีก่อน และปรับราคาเป้าหมายปีนี้ขึ้นเป็น 7.90 บาท จาก 7.20 บาท ยังคงแนะนำซื้อ และคาดเงินปันผลงวด 2H14 ที่ 0.27 บาท/หุ้น (Yield 4.4%)
(-) SIRI ยอด Presales ใน 4Q14 น่าผิดหวัง ขายได้เพียง 2 พันล้านบาท -16% Q-Q, -58% Y-Y โดยยังมีการยกเลิกจองคอนโดหลายโครงการ เรามีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 2015 ลงเพราะการขายบ้านแนวราบที่พลาดเป้า ทำให้ Backlog ที่มีอยู่ 2 หมื่นล้านบาท รองรับคาดการณ์รายได้ของเราเพียง 68% มีโอกาสพลาดเป้าไปด้วย ราคาเป้าหมายที่ 2.45 บาทจึงจะปรับลงตาม ลดคำแนะนำจากที่เคยซื้อ เป็น ‘ถือ’ ไว้ก่อน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัดลดลงราว 1% หลังจากพุ่งขึ้นแรงในช่วง 2 วันก่อนหน้า โดยตัวเลขการจ้างงานปรับตัวดีเกินคาดแต่ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานปรับตัวลดลง
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงเช่นกัน โดยตลาดกังวลต่อการก่อการร้ายในฝรั่งเศส
จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลงเช่นกัน
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดแกว่งทรงตัวในกรอบ 32.74-32.87 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานของสหรัฐฯปรับตัวลดลง ขณะที่ OPEC ยังไม่มีท่าทีลดกำลังการผลิต
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,216.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า โดยไม่ได้ตอบรับตัวเลขการจ้างงานที่ดีกว่าคาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ม.ค. - ไทย: TISCO ประกาศงบการเงินปี 2014
- ญี่ปุ่น: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Coming-of-age Day
14 ม.ค. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Industrial Production (พ.ย.)
15 ม.ค. - ไทย: NDR เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.70 บาท)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
16 ม.ค. - สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
20 ม.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ธ.ค.)
- จีน: 4Q14 GDP, ยอดค้าปลีก (ธ.ค.) Fixed asset investment (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ม.ค.)
21 ม.ค. - ญี่ปุ่น: BOJ Monetary Policy Statement
- สหรัฐ: Housing starts, Building permit (ธ.ค.)
22 ม.ค. - ยูโรโซน: ECB ประชุม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
23 ม.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค.)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ม.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852