WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Buy on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้:
     ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ยังไม่ผ่านแนว 1,530 จุด เนื่องจากเป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ อีกทั้งตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปเผชิญกับการขายทำกำไรรอบสั้น โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ขึ้นมาแรงก่อนหน้า ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,529.42 จุด บวกเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อย 7.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,517 ล้านบาท
    ขณะที่เงินทุนต่างชาติกลับเป็นการขายสุทธิทั้ง 3 ตลาด ด้วยการขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 870 ล้านบาท กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,988 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,391 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
•Fitch Rating ลดอันดับความน่าเชื่อถือรัสเซียลง 1 ขั้นเป็น BBB- เหนือ Junk Bond เพียง 1 ขั้น ด้วยเหตุผลเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน ค่าเงินรูเบิ้ล ตามที่ตลาดกังวลไปก่อนหน้านี้แล้ว
•ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ เดือนธ.ค. ออกมาดีกว่าคาดทุกรายการ อัตราการว่างงานเดือนธ.ค.เหลือ 5.6% ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 5.7% และเดือนก่อนหน้าที่ 5.8%
•ราคาน้ำมันดิบช่วงสั้นมีแนวโน้มแกว่งในกรอบแคบ หลังกลุ่มโอเปคยืนยันกำลังการผลิตเช่นเดิม แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม
•กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ของ บลจ.ทิสโก้ ปิดขายกองทุนวันที่ 9 ม.ค. คาดว่าเม็ดเงินลงทุนเริ่มทยอยเข้าลงทุนในวันนี้
•ตลาดหุ้นนิเคอิ ปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวัน Coming of New Age

มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 6 แม้ว่าแนวโน้ม SET INDEX วันนี้จะซึมตัวลงสู่แนว 1,510-1,515 จุด จากแรงกดดันของกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT / PTTEP ที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ อีกทั้งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของสัปดาห์ 10.46% และ 9.22% ตามลำดับ เกิดแรงขายทำกำไรช่วงสั้นต่อประเด็นดังกล่าว อีกทั้งเงินทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันในวันศุกร์ ทำให้นักลงทุนภายในประเทศระมัดระวังต่อการลงทุน
ขณะที่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซีย โดย Fitch Rating เป็นรายแรก และอาจเห็น S&P และ Moody’s ปรับลดอันดับตามมา แต่เรากลับเชื่อว่าประเด็นเสี่ยงดังกล่าวจะกดดันตลาดหุ้นไทยได้เพียงจำกัด แนวรับหลัก 1,480-1,500 จุด จะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะประเด็นนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกรับรู้ และระมัดระวังต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมาโดยตลอด
อย่างที่เราได้เขียนถึงภาพตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า หากตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนด้วยปัจจัยของรัสเซีย นั่นคือ โอกาสของการเข้าสะสมหุ้นหลักอีกครั้ง เพื่อเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 4Q57 และผลการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค. ซึ่งน่าจะตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสมาชิกในกลุ่มอียู
ตลาด Kospi เช้านี้ (7.18 น) เปิดลบเล็กน้อย ส่วนตลาด นิคเคอิ ปิดทำการในวันนี้ ขณะที่ DJIA Futures และราคาน้ำมันดิบ NYMEX Futures ปรับตัวลงเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน
เรากลับมาแนะนำ “นักลงทุนที่ขายทำกำไรบริเวณ 1,520 จุดหรือสูงกว่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้กลับมาทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายอีกครั้ง เมื่อ SET INDEX เริ่มย่อตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”

Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA
Accumulative Buy: ITD
Speculative Buy: AAV

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.ITD : ราคาปิด 7.75 บาท ราคาเหมาะสม 8.50 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้น ITD จะ Outperform ตลาดได้ใน 1Q58 เนื่องจากมีปัจจัยบวกรออยู่ ได้แก่
I.คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลพม่า ในช่วงปลายเดือน ม.ค. – ต้น ก.พ.
II.คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซ ที่จังหวัดอุดรธานี ภายใน 1Q58 และเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวต่อ ITD
b)คงมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2558 เนื่องจากเป็นปีแห่งการลงทุนของภาครัฐฯ จึงส่งผลให้มีการประมูลงานขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้ารางคู่ไทย – จีน
c)และเชื่อว่า ITD จะชนะงานประมูลขนาดใหญ่ต่อเนื่อง เพราะเป็น 1 ใน 3 บริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญสูง
d)คาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และมี Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ คือโครงการเหมืองโปรแตซซึ่งยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา และคิดเป็นมูลค่าแฝงใน ITD สูงถึงหุ้นละ 13.00 บาท
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.AAV : ราคาปิด 4.72 บาท ราคาเหมาะสม 5.50 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดในวันี้ เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลง -0.8% dod เหลือ US$48.36/barrel แกว่งตัวใกล้เคียงระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี
b)เนื่องจากจะส่งผลให้ราคาน้ำมันอากาศยาน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจสายการบินปรับตัวลงในทิศทางเดียวกัน
c)คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2558 เนื่องจากได้ประโยชน์จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบอากาศยานที่คาดว่าจะลดลง -31.5% yoy เหลือ US$85.00/barrel จากปี 2557 ที่ US$124.00/barrel
a)ผลักดันให้กำไรปี 2558 เติบโต +1,149.2% yoy เป็น 2,024 ล้านบาท และ Valuation ยังค่อนข้างถูก เนื่องจากยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 0.86 เท่า

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$218.4 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$297 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -18.9 284.9 -540.0 13,190.4 9,188.0
KOSPI 166.3 n.a -87.8 6,165.50 4,875.1
JSE 71.2 -10.7 13.6 3,750.60 -1,806.4
PSE 26.4 -12.4 -7.8 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -0.1 -2.1 -3.8 135.6 263.2
SET INDEX -26.5 37.0 -247.1 -1,091.4 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาขายทำกำไรทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -870 +1,217
SET50 Index Futures (สัญญา) -1,988 +2,327
SSF (สัญญา) +68 +1,424
Metal Futures (สัญญา) -169 -245
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -1,391 -3,642

นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิ 870 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับเป็น 8,123 ล้านบาท
       ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,988 สัญญา เทียบกับ ตลอด 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 7,079 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไรรอบสั้น ส่งผลให้ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 6.17 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 5.04 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,391 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 5,033 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยอ่อนตัวลงเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.41bps ปิดที่ 2.529%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 580 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 849 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
KBANK 167.50 10.66% 229.20
PTT 135.82 6.62% 338.53
AOT 54.90 5.51% 290.94
TRUE 45.19 1.23% 11.82
BBL 31.77 2.66% 190.25

NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิ เน้นกลุ่มพลังงานอีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับเป็นการขายสุทธิ 495 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า ซื้อสุทธิ 733 ล้านบาท เน้นกลับมาลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานอีกครั้ง สรุปภาพรวม NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงานถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 560 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 291 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 181 ล้านบาท และกลุ่มธนาคาร ขายสุทธิ 83 ล้านบาท
2.กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ถูกซื้อสุทธิสูงสุดแต่ก็เพียง 99 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 94 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 85 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
INTUCH 340.84 32.91 PTT -520.93 31.03
BBL 186.33 32.32 SCB -206.11 17.44
SCC 114.54 27.76 CPALL -149.05 24.69
BAY 63.70 22.93 KBANK -144.64 47.25
BTS 57.56 16.95 JAS -128.42 14.26

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!