- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 January 2015 16:03
- Hits: 2195
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +23.17 จุด รีบาวด์ปิดระดับ 1500 ตามหุ้นภูมิภาค
SET ดีดกลับแรงหลังร่วง 4 วันติด ได้แรงหนุนจากหุ้นพลังงาน หลังกบง.เห็นชอบปรับโครงสร้างราคา LPG และกลุ่มสื่อสาร หลังนายกฯ ยืนยันประมูล 4G ราวกลางปีนี้ ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยธ.ค.สูงสุดรอบ 18 เดือน มาที่ 81.1 หนุนตลาดขึ้นต่อเนื่องจนถึงภาคบ่าย สอดคล้องกับหุ้นภูมิภาค ต่างชาติขายสุทธิอีก 2.65 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ ให้น้ำหนักทางอ่อนลง กรอบแกว่ง 1460-1485
หุ้นโลกเมื่อคืน (7 ม.ค.) ดีดกลับกันถ้วนหน้า หลังรายงานประชุม FED ครั้งก่อน (16-17 ธ.ค.) ตอกย้ำยังไม่รีบร้อนขึ้นดบ.อย่างน้อย 3 เดือนข้างหน้า ขณะที่เงินเฟ้อสหภาพยุโรป ธ.ค. ที่ติดลบ 0.2% ครั้งแรกในรอบมากกว่า 5 ปี หนุนความคาดหวังมากขึ้นเกี่ยวกับ ECB จะออกมาตรการ “Public QE” เร็วขึ้น ซึ่ง ECB จะประชุม 22 ม.ค. นี้ ส่งผลให้มีความต้องการถือสินทรัพย์เสี่ยงกลับมาอีกครั้ง น้ำมัน WTI +1.5% มาที่ 48.65 $/bbl มอง SET มีแนวโน้มขึ้นต่อ ตามหุ้นโลกที่ปรับขึ้น รวมทั้งแรงขาย LTF ครบกำหนด 5 ปีน่าจะเริ่มชะลอตัวแล้ว หลังเมื่อวานพลิกมาซื้อสุทธิ 1.26 พันลบ. แนวรับ 1490+/- แนวต้าน 1515-20
กลยุทธ์การลงทุน : ทยอยสะสมช่วง 1-2 สัปดาห์นี้, เทรดสั้นเล็งขายที่ 1520++
เรายังคงเป้า SET ปี 58 ที่ 1710 จุด (อิงจาก Fwd. PER 13.5 เท่าปี 59F หรือ +0.5SD) แต่มองแนวโน้มผันผวนมากขึ้น จาก (1) โอกาสที่ FED อาจขึ้นอัตราดบ.นโยบายในปี 58 ซึ่งโดยปกติในอดีต มักจะมีผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวน (2) การประเมินมูลค่าหุ้นไทยไม่ถูกเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็น Fwd. PER ปี 58F ที่ 13.7 เท่า vs ค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปีย้อนหลังที่ 12.3 เท่า และ +1SD ที่ 14.5 เท่า (3) ปท.ไทยขณะนี้ อยู่ในช่วงปฏิรูป ดังนั้นต้องติดตามว่าจะมีความคืบหน้าตามกรอบเวลา (Roadmap) ที่วางไว้หรือไม่ เรามองมีโอกาสราว 83% ที่จะไม่มีผลกระทบ “January Effect” เกิดขึ้นในเดือน ม.ค. ปีนี้ เรามองการลงทุนปี 58 จังหวะการลงทุนและการเลือกหุ้นเป็นรายตัว (Selective Buy) จะมีความสำคัญมากขึ้น โดยใน ม.ค. ปีนี้ คาดว่าหุ้นไทยจะผันผวนจากแรงขายเม็ดเงิน LTF ครบกำหนด 5 ปี (ของปี 54) อิงจาก LTF ที่ครบกำหนด 5 ปีในอดีตที่มักจะขายออกมาราว 25-30% จะคิดเป็นเม็ดเงินไหลราว 6-7 พันลบ. ดังนั้นในแง่ของกลยุทธ์เดือน ม.ค. เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นช่วงอ่อนตัวในครึ่งเดือนแรก หลังจากนั้น SET คาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งเดือนหลัง หุ้นที่น่าสะสม เพื่อลงทุนในช่วงไตรมาส 1/58 นี้ คือ AMATA, BBL, BGH, CPN, DTAC, HMPRO, INTUCH, KBANK, KTB, SPALI ด้านหุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ม.ค. คือ BEAUTY, BTS, GFPT, MALEE, SCB, TMB จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีในปีนี้ นอกจากนี้ มองเป็นจังหวะทยอยเก็บหุ้นปันผลด้วยช่วงอ่อนตัว แนะนำ MODERN, ASP, INTUCH, BJCHI, BTS, AIT, KKP หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก เหมาะเทรดดิ้งสั้น EA, SPCG, UNIQ, SST
หุ้นเด่นรายวัน : SST
SST - เป็นหุ้น Turnaround หลังขายธุรกิจน้ำมันพืชที่มีผลขาดทุนไปแล้วใน 2Q57 แนวโน้มการดำเนินงาน 4Q57 และปี 58 จะดีต่อเนื่อง จากการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรแบรนด์ GreyHound เพิ่งคว้าลิขสิทธิ์ “COVA” ซึ่งเป็นเบเกอรี่ คาเฟ่ ระดับพรีเมี่ยมของอิตาลี ยังคงแผนขยายกิจการในตปท.ต่อเนื่อง มูลค่าเหมาะสม 38 บ. (DCF)& 61550;
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
7-8 ม.ค. UK ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
8-ม.ค. TH สนช.เปิดคดีถอดถอนอดีต ปธ.วุฒิสภา นิคม และอดีต ปธ.รัฐสภา สมศักดิ์
EU, GE ความเชื่อมั่นผู้บริโภค EU ใน ธ.ค.และยอดค้าปลีกใน พ.ย., คำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานเยอรมันใน พ.ย.
US ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค.
9-ม.ค. TH สนช.เปิดคดีถอดถอนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์
JP ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในเดือน พ.ย. (เบื้องต้น)
CH ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค-ผู้ผลิตจีน, ปริมาณเงินในระบบ และการปล่อยสินเชื่อเงินหยวนใน ธ.ค.
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]