WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Profit-taking
ตลาดหุ้นวานนี้:
     ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผลักดันโดยกลุ่มธนาคาร / พลังงาน และกลุ่ม ICT ในช่วงท้ายตลาด อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรปที่เกิด Technical Rebound ช่วยภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทยในภาพรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,500.75 จุด บวก 23.17 จุดหรือ 1.57% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47,990 ล้านบาท
แม้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 ในปีนี้ 2,658 ล้านบาท แต่ SET50 Index Futures กลับมามีสถานะ Long สุทธิ 4,752 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 5 อีก 6,238 ล้านบาท ส่งสัญญาณกระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง

ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ Brent เริ่มทรงตัวดีขึ้น ลดแรงกดดันต่อกลุ่มน้ำมัน
•รายงานประชุมเฟดกลางเดือนธ.ค. ส่งสัญญาณไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปจนถึงปลายเดือนเม.ย.เป็นอย่างน้อย แต่เริ่มส่งสัญญาณกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อต่ำและเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอ่อนแรงมากขึ้น
•วันนี้ติดตามการประชุม BoE ซึ่ง Bloomberg consensus คาด BoE จะยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50%

มุมมองต่อตลาด
     เราคงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 4 แม้ว่าวานนี้ SET INDEX จะปิดยืน 1,500 จุดก็ตาม แต่ประเมินว่าเป็นแรงผลักดันจากการ Covered short หุ้นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร / กลุ่ม ICT บวกกับบรรยากาศการลงทุนช่วงสั้นที่ฟื้นตัว แต่ภาพดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า Downside risk ของตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน ความกังวลต่อการไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบกำหนดน่าจะเบาบางลง ประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ที่ 1,490 – 1,510 จุด กลุ่ม ICT และกลุ่มที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจาก Valuation ที่ต่ำ
    ปัจจัยจากนี้ไป ควรติดตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จะทรงตัวได้เมื่อใด ซึ่งในช่วงสั้นเราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะยังแกว่งซึมตัวลงต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในเอเชีย หากราคาน้ำมันดิบยังคงซึมตัวลง กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสถานะทางการเงิน/ การคลังของรัสเซีย บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออาจมีการปรับลดอันดับของรัสเซียได้ หากเกิดขึ้นจะทำให้ Sentiment ของตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งตัวผันผวนอีกครั้ง
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.23 น) เปิดบวก ต่อเนื่องจากวานนี้ หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเล็กน้อย อีกทั้งรายงานการประชุมเฟดครั้งก่อน ส่งสัญญาณจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปลายเดือนเม.ย.เป็นอย่างน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
       เราแนะนำ “นักลงทุนที่ซื้อเก็งกำไรมาตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา อาจเริ่มพิจารณาขายทำกำไร และถือเงินสดมากขึ้นอีกครั้งบริเวณ 1,500 จุดขึ้นไป” หรือโดยรวมของกลยุทธ์ช่วงสั้นเป็น “ขึ้นแรงขาย / ลงแรงซื้อ” เพื่อรอภาพตลาดที่ชัดเจนอีกครั้ง

Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB
Accumulative Buy: TPIPL/ TTA

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.TPIPL : ราคาปิด 1.88 บาท ราคาเหมาะสม 2.50 บาท
a)MBKET มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มปูนซีเมนต์ในปี 2558 เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ที่ขยายตัว จากการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ และเอกชน
b)และเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง เพราะต้นทุนพลังงาน & ขนส่ง มีสัดส่วนราว 10-15% ของค่าใช้จ่ายรวม ดังนั้น การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบจะส่งผลให้อัตรากำไร (GPM) ของบริษัทปรับตัวขึ้น
c)โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนขยะจำนวน 18 MW จะเริ่มขายไฟได้ใน 1Q58 เร็วกว่าคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะเริ่มขายไฟใน 2H58 ขณะที่โรงไฟฟ้าที่เหลืออีก 55 MW จะเริ่มขายไฟได้ใน 2H58 ตามกำหนดการเดิม และส่งผลให้ TPIPL รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้ารวม 73 MW ในปี 2558
d)ผลักดันปกติปี 2558 ให้เติบโตสูงถึง +98.9% yoy เป็น 2,143 ล้านบาท และขยายตัวต่อเนื่องอีก +79.0% yoy เป็น 3,836 ล้านบาท ในปี 2559
e)Valuation ยังถูก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 0.9 เท่า จาก Adjusted BV ที่ 1.93 บาทหุ้น เทียบกับ SCC และ SCCC ที่ซื้อขาย P/BV 2558 ที่ 2.6 และ 4.2 เท่าตามลำดับ และฐานะการเงินแข็งแกร่งโดยมี Net DE เพียง 0.4 เท่า
2.TTA : ราคาปิด 17.40 บาท ราคาเหมาะสม 32.10 บาท
a)TTA ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยออกหุ้นใหม่รวม 865.4 ล้านหุ้น ได้แก่
I.การใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สัดส่วน 614.9 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายเท่ากับราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 30 วันทำการก่อนวันที่ 6 ม.ค. และให้ส่วนลดไม่น้อยกว่า 20% ในสัดส่วน 15 หุ้นเดิม ต่อ 6 หุ้นใหม่ (ขึ้น XR 5 ก.พ.)
II.จัดสรร TTA-W5 ให้กับผู้ใช้สิทธิเพิ่มทุน สัดส่วน 6 หุ้นใหม่ ต่อ 2 Warrant ราคาแปลงสภาพ 18.50 บาท อายุ 4 ปี อัตราแปลงสภาพ 1 ต่อ 1 (ขึ้น XW 5 ก.พ.)
b)พร้อมทั้งประกาศจ่ายเงินปันผล 2557/2558 หุ้นละ 0.25 บาท (XD 3 ก.พ.) และให้ Preemptive Right กับผู้ถือหุ้น TTA เพื่อจองซื้อหุ้น IPO ของ PMTA ในสัดส่วนราว 37 หุ้นTTA ต่อ 1 PMTA (ขึ้น XB 5 ก.พ.)
c)MBKET ประเมินเบื้องต้นและมีมุมมองเป็นบวก เนื่องจาก TTA จะได้เงินสดจากการเพิ่มทุนราว 1 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินสดในมืออีก 7.6 พันล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทมีเงินสดรวมสูงถึง 1.76 หมื่นล้านบาท จึงมีความพร้อมเต็มที่ในการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ และคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่ TTA รับรู้กำไรได้ทันที และมีนัยสำคัญที่จะหักล้าง Dilution Effect ได้
a)แนะนำ “ทยอยสะสม” เพื่อใช้รับสิทธิ XR, XW และ XB และจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติในวันที่ 28 ม.ค.2558

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติขายสุทธิอีก US$436 ล้าน ลดลงจากวันก่อนหน้าขายสุทธิ มากถึง US$1,072 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -136.1 -567.1 -806.4 13,190.4 9,188.0
KOSPI -215.8 -326.3 -447.6 6,165.50 4,875.1
JSE -0.2 -34.9 -46.9 3,750.60 -1,806.4
PSE 1.8 -25.4 -21.7 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -4.4 2.1 -1.6 135.6 263.2
SET INDEX -80.9 -120.3 -257.6 -1,091.4 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -2,658 -3,965
SET50 Index Futures (สัญญา) +4,752 -1,972
SSF (สัญญา) +490 +1,069
Metal Futures (สัญญา) +129 +634
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +6,238 +6,183

    นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยในวันที่ 4 อีก 2,658 ล้านบาท รวม 4 วันทำการขายสุทธิ 8,616 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 8,470 ล้านบาท
    แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 4,752 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมา Long สุทธิอีกครั้ง แม้ว่า S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 2.55 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 6.30 จุด
และเงินทุนต่างชาติ ยังคงเลือกพักเงินในตลาดตราสารหนี้ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 6,238 ล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิ 15,329 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงอีก 2.68bps ปิดที่ 2.531%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็น 866 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,069 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 233.91 11.23% 327.47
KBANK 173.67 9.23% 216.97
ADVANC 166.55 6.19% 243.46
BBL 66.74 8.87% 191.35
TRUE 52.92 3.40% 11.50

NVDR Movement
NVDR ยังคงลดน้ำหนักกลุ่ม ICT อย่างหนาแน่น
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
KBANK 211.60 22.46 SCC -575.75 36.18
TUF 113.02 14.09 DTAC -550.25 29.29
AJD 64.79 10.02 ADVANC -457.04 17.52
MINT 52.36 6.82 CPALL -139.23 15.53
AOT 47.07 10.76 PTT -136.13 5.49

     การซื้อขายผ่าน NVDR เป็น ขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 มากถึง 2,073 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 3,262 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ขายสุทธิ 6,305 ล้านบาท เน้นลดน้ำหนักกลุ่ม ICT และวัสดุก่อสร้าง อย่างหนาแน่น สรุปภาพการลงทุนผ่าน NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่ม ICT ขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 950 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 1,048 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 607 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 514 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 293 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 169 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มอาหาร ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 118 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม HOME ซื้อสุทธิ 65 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 88 ล้านบาท

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!