- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 January 2015 15:46
- Hits: 1774
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -5.67 จุด ตีตื้นท้าย ซื้อคืนพลังงาน เก็งขึ้นราคา LPG
SET หลุด 1480 ทันทีที่เปิดภาคเช้า และแกว่งแดนลบทั้งวันในกรอบ 1459-78 หลักๆจากแรงกดดันหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันร่วงต่ำสุดใหม่รอบ 5 ปี และมีแรงขายจาก LTF ครบ 5 ปี (สถาบันในปท.ขาย 1.39 พันลบ.) แต่ช่วงท้ายตลาด มีแรงซื้อคืนหุ้นพลังงาน เก็งการปรับขึ้นราคา LPG หน้าโรงแยกก๊าซ ต่างชาติขายสุทธิอีก 3.96 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ ให้น้ำหนักทางอ่อนลง กรอบแกว่ง 1460-1485
หุ้นโลกเมื่อคืน (6 ม.ค.) ร่วงต่อ นลท.อยู่ในโหมด “Risk-off” ต่อเนื่อง จาก (1) ข้อมูลศก.สหรัฐฯ แย่กว่าคาด (ISM ภาคบริการ ธ.ค.ลดลงเป็น 56.2 จาก 59.3 ใน พ.ย. vs คาด 58.0, คำสั่งซื้อภาคโรงงาน พ.ย. ลดลง 0.7% เท่ากับที่ลดลงในเดือนก่อนหน้า vs คาด -0.5%) และ (2) ความไม่แน่นอนของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังปรับลงอีก หลังมีการคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์อาจสูงขึ้น 7 แสนบาร์เรล กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง ล่าสุด น้ำมัน WTI -4.2% มาที่ 47.93 $/bbl และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ร่วงต่ำกว่าระดับ 1.9% ระหว่างวัน ครั้งแรกนับตั้งแต่ มิ.ย. 2013 ด้านราคาทองบวก 3 วันติด มาที่ 1,218$/ounce ขณะที่ดัชนีชี้วัดค่าเงินดอลลาร์ฯ (US Dollar Index) +0.43% มาที่ 91.77 สูงสุดใหม่ต่อเนื่องในรอบ 9 ปี และดัชนีชี้วัดความผันผวน (VIX Index) +6.0% มาที่ 21.47 สูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ มอง SET ไซด์เวย์ ให้น้ำหนักทางอ่อนลงเล็กน้อย จากแรงขายต่อเนื่องของต่างชาติ และ LTF ครบกำหนด 5 ปี ขณะที่นลท.รายย่อยเริ่มทยอยสะสมหุ้น ช่วยจำกัด downside risks แนวรับ 1460+/- แนวต้าน 1480-85 คืนนี้ จับตารายงานประชุม FED ครั้งก่อน และการจ้างงานในสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน : ทยอยจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว 1-2 สัปดาห์นี้ (1H ม.ค.)
เรายังคงเป้า SET ปี 58 ที่ 1710 จุด (อิงจาก Fwd. PER 13.5 เท่าปี 59F หรือ +0.5SD) แต่มองมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น จาก (1) โอกาสที่ FED อาจขึ้นอัตราดบ.นโยบายในปี 58 ซึ่งโดยปกติในอดีต มักจะมีผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวน (2) การประเมินมูลค่าหุ้นไทยไม่ถูกเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็น Fwd. PER ปี 58F ที่ 13.7 เท่า vs ค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปีย้อนหลังที่ 12.3 เท่า และ +1SD ที่ 14.5 เท่า (3) ปท.ไทยขณะนี้ อยู่ในช่วงปฏิรูป ดังนั้นต้องติดตามว่าจะมีความคืบหน้าตามกรอบเวลา (Roadmap) ที่วางไว้หรือไม่ เรามองมีโอกาสราว 83% ที่จะไม่มีผลกระทบ “January Effect” เกิดขึ้นในเดือน ม.ค. ปีนี้ เรามองการลงทุนปี 58 จังหวะการลงทุนและการเลือกหุ้นเป็นรายตัว (Selective Buy) จะมีความสำคัญมากขึ้น โดยใน ม.ค. ปีนี้ คาดว่าหุ้นไทยจะผันผวนจากแรงขายเม็ดเงิน LTF ครบกำหนด 5 ปี (ของปี 54) อิงจาก LTF ที่ครบกำหนด 5 ปีในอดีตที่มักจะขายออกมาราว 25-30% จะคิดเป็นเม็ดเงินไหลราว 6-7 พันลบ. ดังนั้นในแง่ของกลยุทธ์เดือน ม.ค. เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นช่วงอ่อนตัวในครึ่งเดือนแรก หลังจากนั้น SET คาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งเดือนหลัง หุ้นที่น่าสะสม เพื่อลงทุนในช่วงไตรมาส 1/58 นี้ คือ AMATA, BBL, BGH, CPN, DTAC, HMPRO, INTUCH, KBANK, KTB, SPALI ด้านหุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ม.ค. คือ BEAUTY, BTS, GFPT, MALEE, SCB, TMB จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีในปีนี้ นอกจากนี้ มองเป็นจังหวะทยอยเก็บหุ้นปันผลด้วยช่วงอ่อนตัว แนะนำ MODERN, ASP, INTUCH, BJCHI, BTS, AIT, KKP หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก เหมาะเทรดดิ้งสั้น TRUE, BTS, VPO
หุ้นเด่นรายวัน : ไม่มี
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
7-ม.ค. EU ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของสหภาพยุโรปใน ธ.ค., ตัวเลขอัตราว่างงานของสหภาพยุโรปใน พ.ย.
GE ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานและอัตราการว่างงานของเยอรมันในเดือน ธ.ค.
US การจ้างงานภาคเอกชนทั่วปทของสหรัฐฯ (ADP Employment Chg.) ใน ธ.ค., ดุลการค้าใน พ.ย.
US รายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ครั้งก่อน (16-17 ธ.ค.)
7-8 ม.ค. UK ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
8-ม.ค. TH ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยใน ธ.ค.
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]