- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 January 2015 15:57
- Hits: 2272
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : Next support 1,460
หุ้นแนะนำเทคนิค : SUPER ECF
หุ้นแนะนำพิเศษ : KTB
หุ้นเด่นรายวัน : CSS PAF BTS
SET ทรุดตัวลงแรงต้อนรับปีใหม่จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลายตัวชะลอตัวลง และความกังวลต่อการเมืองประเทศกรีซ รวมถึงแรงขายของเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดถือ 5 ปี ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,483.25 จุด (-14.42 จุด) Volume 2.9 หมื่นลบ. โดย Foreign Net Sell 1.8 พันลบ. แต่ Net Long TFEX 3.9 พันสัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
SET ในช่วงนี้ถูกปัจจัยลบหลักกดดัน 3 ประเด็น ได้แก่
1. ความกังวลผลการเลือกตั้งกรีซในวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งอาจนำไปสู่การพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน หากพรรคฝ่ายค้านไชรีชาเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งเพราะมีแนวโน้มจะยุติมาตรการรัดเข็มขัด
2. ราคาน้ำมันดิบโลกที่ยังทรุดตัวลงทำ Low ในรอบกว่า 5 ปี จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
3. แรงขายจากเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดถือ 5 ปี
ดังนั้นคาดว่า SET จะปรับตัวลงโดยมีแนวรับที่บริเวณ 1,460 จุด
กลยุทธ์
แนะนำทยอยสะสมหุ้นกลุ่มหลักช่วงอ่อนตัว เช่น BANK และ ICT รวมทั้งแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมา และขนส่งสายการบิน ที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบโลกทรุดตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
KTB : (ราคาปิด 22.10 ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 58 = 26.60 บาท)
สินเชื่อปี 57 เติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มแบงก์ 11M57 เติบโต 8% เศษ
การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 58 หนุนพอร์ทส่วนที่เป็นสินเชื่อภาครัฐเติบโตดี ขณะที่สินเชื่อ SME และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ก็เติบโตดีเช่นกัน
คาดกำไรปี 57 ราว 3.4 หมื่นล้านบาทเติบโต 45%YoY บนสมมติฐานการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงเหลือ 1.2 หมื่นลบจาก 1.5 หมื่นลบ.ในปีก่อนหน้า
หุ้นเด่นรายวัน
CSS : (ราคาปิด 7.25 แนะนำซื้อเก็งกำไร)
เปิดเกมเทกโอเวอร์บริษัทผู้ผลิตสายไฟฟ้า-สายส่งนอกตลาด แต่งตั้ง FA เร่งทำดีลดีลิเจนซ์ "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" คอนเฟิร์มดีลนี้ค่อนข้างใหญ่ สร้างรายได้หลายพันล้านบาท หนุนฐาน CSS รุ่งโรจน์เปิดฉากปั๊มรายได้โรงไฟฟ้าขยะ-ลม อัพสัดส่วน 50% ในอนาคต ส่วนปี 2558 กำไรทุบสถิติ (ที่มา ทันหุ้น)
เทคนิค : แนวรับ 7.00 แนวต้าน 7.50 / 8.10 จุด cut loss 6.80 ราคาหุ้นกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นอีกครั้งและเริ่มฟอร์มตัวในรูปแบบ V Shape ทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 8.10 บาทได้
PAF : (ราคาปิด 6.65 ซื้อเก็งกำไร)
ทุนใหญ่ญี่ปุ่น-ไทยเบียดเจรจา "เครือสหพัฒน์" ขอเทกโอเวอร์ PAF ตัดหน้า "กลุ่มเจ้าพ่อน้ำเมา" จับตากระทบไหล่ตั้งราคาซื้อสูง 9-10 บาทต่อหุ้น ฟาก ICC จ้องสวมธุรกิจพลังงานทางเลือกใส่ PAF หนุนธุรกิจเทิร์นอะราวด์ ด้าน "สมมาต ขุนเศรฐ" ย้ำธุรกิจผ่านจุดต่ำสุด เร่งปรับโครงสร้างเป็น "โฮลดิ้ง" รุกธุรกิจใหม่ดันกำไรโต
เทคนิค: ราคาสร้างลักษณะใบธง พร้อมฟื้นตัวโดยมีปริมาณการซื้อขายเข้ามา ทำให้มีโอกาสสร้าง Bullish Flag รับ 6.30 / 6.00 ต้าน 7.05 / 7.35 Cut Loss หากต่ำกว่า 5.80 บาท
BTS (ราคาปิด 9.55 ซื้อเก็งกำไร ) คาดจะบันทึกกำไรพิเศษกว่า 3,000 ล้านบาท เข้า 4Q57 (ม.ค.-มี.ค.58) หลังดีลร่วม NPARK-SIRI เป็นผลสำเร็จในการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อขายตามแนวรถไฟฟ้าบนที่ดินของ BTS (ที่มา : ข่าวหุ้น)
***ตลท.เพิ่มรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET50 ระหว่าง 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2558 รวม 4 หลักทรัพย์ ได้แก่ CK HEMRAJ KTIS SPALI ดัชนี SET100 เพิ่ม 10 หลักทรัพย์ ได้แก่ ANAN DEMCO HANA ICHI KTIS PTG SAWAD SF SGP SIM ดัชนี SET High Dividend 30 Index (SETHD) เพิ่ม 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ JAS SGP***
***มาตรการสกัดหุ้นร้อนเริ่มใช้ 5 ม.ค. 58 ดังนี้ 1) หลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ Trading alert list ผู้ลงทุนต้องซื้อด้วยบัญชี Cash balance เป็นเวลา 3 สัปดาห์ 2) หลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ Trading alert list ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 จะถูกห้ามนำมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขายในทุกประเภทบัญชี และต้องซื้อด้วยบัญชี Cash balance ต่อไปอีก 3 สัปดาห์นับจากวันที่ประกาศ 3) หลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ Trading alert list อีกเป็นครั้งที่ 3 จะต้องซื้อด้วยบัญชี Cash balance และห้ามนำมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขายในทุกประเภทบัญชี และ ห้ามซื้อขาย Net Settlement ในวันเดียวกัน ค่าขายจะคืนเป็นวงเงินในวันทำการถัดไป เป็นเวลา 3 สัปดาห์นับจากวันที่ประกาศ ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่เข้าเกณฑ์ Trading alert list ยังคงต้องมีการเปิดเผยข้อมูลพัฒนาการที่สำคัญ***
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* CGS / FSMART / MACO-W1 / PAE-W1 / PRECHA / PRINC / SMM / TIES-W2 หลุดเกณฑ์วันแรก 5 ม.ค.58
* CYBER / GBX/ ITD / MLINK / PE / SLC / TFD / TFD-W2 มีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค. 57 - 9 ม.ค. 58
* BGT/ BKD /BKD-W1 / CBG / GRAMMY / MTLS / NBC / NBC-W1 / NCL / NPP / NPP-W1 มีผลบังคับใช้ 8 ธ.ค. 57 - 16 ม.ค. 58
* BSM / BSM-W1 / GENCO / GENCO-W1 / NOK / RICH / S / SOLAR / TFI / TH / TH-W1 มีผลบังคับใช้ 15 ธ.ค. - 23 ม.ค. 58
* ABC / ACD / ACD-W2 / PPS / RS / TCMC / TCMC-W1 / TIES / TIES-W2 มีผลบังคับใช้ 22 ธ.ค. - 30 ม.ค. 58
* BMCL / CCN / CHOW / KIAT / KTP / PSTC / SPA / TCC / TCC-W2 / TCC-W3 / TCC-W4 มีผลบังคับใช้ 29 ธ.ค. 57 - 6 ก.พ. 58
/ TPOLY / WIIK
AJD / AJD-W1 / CEN / CEN-W3 / MILL / MILL-W2 มีผลบังคับใช้ 5 ม.ค. 58 - 13 ก.พ. 58
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -331.34 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,501.65 จุด ร่วงลง 331.34 จุด หรือ -1.86% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,652.57 จุด ลดลง 74.24 จุด หรือ -1.57% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,020.58 จุด ลดลง 37.62 จุด หรือ -1.83%
เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงเกินไป
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -2.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค)
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์