- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 December 2014 13:58
- Hits: 1894
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -15.48, NASDAQ +0.05, S&P +1.80, FTSE +23.58, DAX +5.02 และ CAC40 +22.08 โดยที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และมีการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากใกล้ช่วงวันหยุดปีใหม่ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น แต่ตลาดหุ้นกรีซปิดลดลง 3.9% โดยตลาดหุ้นกรีซได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐสภาล้มเหลวในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ส่งผลให้กรีซจะต้องมีการเลือกตั้งก่อนกำหนด และอาจกระทบต่อโครงการรับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
….. ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$1.12 อยู่ที่ US$53.61 ต่อบาร์เรล โดยนักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะราคาน้ำมันล้นตลาด แม้การผลิตของลิเบียจะลดลงจากกเหตุการณ์ความวุ่นวายในประเทศ
..... ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบเดือน ก.พ. -US$13.4 อยู่ที่ US$1,181.9 ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +925 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -36,439 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : Sideway? คาดแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยยังไม่มีปัจจัยต่างประเทศชี้นำใหม่ๆ หลังตลาดหลายแห่งมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดปีใหม่ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 54 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี ยังกดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTTEP และหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น ที่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 4/57
.....ส่วนประเด็นในประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ ล่าสุดทาง สศค. ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี ’58 อยู่ที่ 4.0% โดยจะเติบโตสุดในช่วงไตรมาส 3-4/58 ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายหลังจากนี้อาจชะลอตัว หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว แต่คาดอาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากแรงซื้อสุทธิของต่างประเทศ และยังแนะติดตามแรงซื้อจากสถาบันในประเทศ (LTF / RMF) ในช่วงวันสุดท้ายของปี
....รวมถึง (1) Window Dressing – 4Q/57 และ (2) มาตรการป้องกันการเก็งกำไร ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 5/1/58 โดยเฉพาะหุ้นที่ราคา หรือปริมาณซื้อขายมีการเปลี่ยนแปลงมาก ที่กำหนดให้ซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance / ห้ามใช้เป็นหลักประกันในการกำหนดวงเงินซื้อขาย / ห้ามซื้อขายชั่วคราว / ห้าม Net Settlement / ห้ามขายหลักทรัพย์ที่ยืมมาเพื่อการส่งมอบ ที่คาดส่งผลต่อหุ้นขนาดกลาง / เล็ก
.....และแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 ซึ่ง ครม. อนุมัติเมื่อ 21/10/57 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยล่าสุด (18/11/57) ครม. อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหนองคาย – มาบตาพุด ระยะทาง 867 กม. ระหว่างไทย – จีน ด้วยวิธี G to G เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี’59
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.04 อยู่ที่ 2.21% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.56 อยู่ที่ 15.06
หุ้นแนะนำ : KBANK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (30 ธค.’57 – 2 มค.’58)
30/12/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคาบ้าน - ตค. (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค – ธ.ค.
31/12/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) – ธ.ค. (2) ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) – พ.ย. (3) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (4) สต็อกน้ำมัน
1/1/58 : ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ - หน่วยงานราชการ ตลาดหุ้นและตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ –
2/1/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย – ธ.ค. (2) ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง – พ.ย. (3) ดัชนีภาคการผลิต – ธ.ค.
หุ้นแนะนำ
KBANK : ราคาเป้าหมาย (ปี’58) 281 บาท
KBANK วางยุทธศาสตร์ปี’58 ตั้งเป้าภาพรวมสินเชื่อขยายตัว 8-9% เพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมเป็น 40% พร้อมดูแลสัดส่วน NPL ไม่เกิน 2.3%
คาดแนวโน้มสินเชื่อเติบโตดีขึ้นตามลำดับหลังจากนี้ไป ตามภาพรวมของกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะสินเชื่อ Corporate loans ที่คาดจะเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นในปี’58 ขณะที่ KBANK มีจุดเด่น ใน Port สินเชื่อ ที่กระจายความเสี่ยงได้ดี เมื่อเทียบกับ ธ.พ. ใหญ่ที่เป็นคู่แข่ง
KBANK มีความสามารถในการหารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยได้ดี เมื่อเทียบกับกับ ธ.พ. ใหญ่ที่เป็นคู่แข่ง หลักๆ คาดมาจาก (1) รายได้จากการประกันชีวิต (2) Trade finance และ (3) ใน 2H/57 จาก Gain on Investment จากทิศทางดอกเบี้ยขาลงที่จำกัด โดยเราคาดทั้งปีรายได้ในส่วนที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบได้ในระดับ 13%
KBANK มีสภาพคล่องที่ยังเหลือมากพอรองรับการขยายตัวของสินเชื่อ ทั้งสัดส่วนของ NPL/LOANS ในระดับ 2.14% และ Loans/Deposit 93.9 % ยังอยู่ระดับต่ำเมื่อเทียบกับ ธ.พ.อื่นๆ ขณะที่มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ 16.06% สูงกว่าค่าเฉลี่ย ธ.พ.ใหญ่ พร้อมประเมินราคาเป้าหมายปี’58 ไว้ที่ 281.00 บาท อ้างอิง PBV ประมาณ 2.3 เท่า
นักวิเคราะห์ :
ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์, 02-684-8789