- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 December 2014 15:51
- Hits: 1570
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Merry X’Mas
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับฐานเป็นวันที่ 2 ปิดลบ 6.11 จุด มาอยู่ที่ 1,525.06 จุด มูลค่าการซื้อขายดีขึ้นกว่าวันก่อนหน้า เป็น 41,059 ล้านบาท โดยกลุ่มธนาคารถูกขายโดดเด่น อีกทั้งภาพรวมการลงทุนขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน
ต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 118 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 2,602 สัญญา คาดว่าทยอยปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง และพักเงินไว้ที่ตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 756 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ตลาดหุ้นในเอเชีย / ยุโรป ส่วนใหญ่ปิดทำการวันนี้ ส่วนตลาดในสหรัฐฯ ทุกตลาด ปิดทำการเช่นกัน
•การทำ Window Dressing มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ช่วยจำกัด Downside risk ของ SET Index
•กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี มีแนวโน้มอ่อนตัวลง หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX / Brent ปรับตัวลงกว่า US$1/barrel จากปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
•ตลท. ประกาศรายชื่อหุ้นใน SET50 / SET100 รอบเดือนม.ค.- มิ.ย. 2558 ดังนี้
oSET50 Index: เพิ่ม CK / HEMRAJ / KTIS / SPALI และ ออก BLA / GLOBAL / KKP/ THCOM
oSET100 Index: เพิ่ม ANAN / DEMCO / HANA / ICHI / KTIS / PTG/ SAWAD / SF / SGP / SIM และ ออก BLA / DCC / ESSO / MCOT / NYT / RS/ SRICHA/ TASCO/ THRE/ WHA
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 7 ประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,515-1,530 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ด้วยกระแสเงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุนมากยิ่งขึ้นในช่วงที่เหลือจนถึงสิ้นปี เพราะเป็นช่วงเทศกาลวันสำคัญของชาวตะวันตกและชาวคริสต์ ขณะที่ Downside Risk ของ SET INDEX ยังคงเป็นไปอย่างจำกัด แนวรับ 1,510-1,520 จุด จะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง จากการทำ Window Dressing ของกองทุนและพอร์ตการลงทุน
ตลาด Nikkei เช้านี้ (7.16 น) เปิดย่อตัวลง เป็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน อีกทั้งราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงคืนวานนี้
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำ “นักลงทุนต้องการเก็งกำไรรอบสั้น ยังคงจำกัด Position และถือเงินสดให้มากขึ้น เพราะ Upside gain จากปัจจุบันจำกัดเพียง 10-20 จุดเท่านั้น” โดยเน้นหุ้นที่ Valuation ยังคงต่ำ ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น และต่อเนื่องถึงปีหน้า
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Accumulative Buy: LPN / TTA
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.TTA : ราคาปิด 18.40 บาท ราคาเหมาะสม 32.10 บาท
a)TTA ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยออกหุ้นใหม่รวม 865.4 ล้านหุ้น ได้แก่
I.การใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สัดส่วน 614.9 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายเท่ากับราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 30 วันทำการก่อนวันที่ 6 ม.ค. และให้ส่วนลดไม่น้อยกว่า 20% ในสัดส่วน 15 หุ้นเดิม ต่อ 6 หุ้นใหม่ (ขึ้น XR 5 ก.พ.)
II.จัดสรร TTA-W5 ให้กับผู้ใช้สิทธิเพิ่มทุน สัดส่วน 6 หุ้นใหม่ ต่อ 2 Warrant ราคาแปลงสภาพ 18.50 บาท อายุ 4 ปี อัตราแปลงสภาพ 1 ต่อ 1 (ขึ้น XW 5 ก.พ.)
b)พร้อมทั้งประกาศจ่ายเงินปันผล 2557/2558 หุ้นละ 0.25 บาท (XD 3 ก.พ.) และให้ Preemptive Right กับผู้ถือหุ้น TTA เพื่อจองซื้อหุ้น IPO ของ PMTA ในสัดส่วนราว 37 TTA ต่อ 1 PMTA (ขึ้น XB 5 ก.พ.)
c)MBKET ประเมินเบื้องต้นและมีมุมมองเป็นบวก เนื่องจาก TTA จะได้เงินสดจากการเพิ่มทุนราว 1 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินสดในมืออีก 7.6 พันล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทมีเงินสดรวมสูงถึง 1.76 หมื่นล้านบาท จึงมีความพร้อมเต็มที่ในการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ และคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่ TTA รับรู้กำไรได้ทันที และมีนัยสำคัญที่จะหักล้าง Dilution Effect ได้
d)แนะนำ “ทยอยสะสม” เพื่อใช้รับสิทธิ XR, XW และ XB และจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติในวันที่ 28 ม.ค.2558
2.LPN : ราคาปิด 22.70 บาท ราคาเหมาะสม 26.00 บาท
a)ราคาหุ้น LPN วานนี้ปรับตัวลง 5.81% เทียบกับกลุ่มอสังหาฯ ที่ปิดลดลงเพียง 1.98%
b)LPN รายงานยอดการคืนการจองในโครงการคอนโดมิเนียมที่จังหวัดอุดรธานี ที่สูงกว่าปกติ ทำให้รายได้ของ LPN ปีนี้ ต่ำกว่าเป้าเพียง 5% เท่านั้น เป็น 12,800 – 12,900 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ 12,871 ล้านบาท
a)เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในปี 2558 ด้วยรายได้ 18,864 ล้านบาท ซึ่งมี Backlog รอรับรู้รายได้ 85% ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปีหน้าที่ 3,200 ล้านบาท จะมี Downside risk ที่จำกัด ขณะที่กำไรสุทธิระดับดังกล่าว เติบโต 43.7% yoy เป็นระดับสูงสุดของกลุ่มที่อยู่อาศัย
b)การปรับตัวลงมาของ LPN วานนี้ จึงเป็นโอกาสของการเข้าสะสมหุ้น
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ US$49 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$11 ล้าน
JSE เป็นตลาดเดียวที่ถูกขายสุทธิ
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 101.6 40.9 12,572.5 9,188.0
KOSPI 65.0 0.0 5,793.4 4,875.1
JSE -222.9 -16.0 3,573.5 -1,806.4
PSE 0.3 0.3 1,260.6 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 3.6 4.2 114.1 263.2
SET INDEX 3.6 -18.6 -1,123.3 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิ 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +118 -613
SET50 Index Futures (สัญญา) +2,602 +4,773
SSF (สัญญา) +432 +893
Metal Futures (สัญญา) -257 -566
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +756 +1,837
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 118 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,919 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 37,632 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 2,602 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 14,799 สัญญา คาดเป็นการทยอยปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมสัญญาการ Rollover ไปสัญญา Series H ซึ่ง S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างถึง 11.37 จุด
ตลาด Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 257 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 823 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้า เนื่องจากตลาดทองคำในลอนดอนเปิดทำการครึ่งวันในวานนี้ และปิดทำการในวันนี้ ทำให้ขาดราคาอ้างอิง
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้ ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 756 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,593 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 0.93bps ปิดที่ 2.871%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 284 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 546 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
BMCL 44.42 2.47% 2.01
TRUE 35.70 4.14% 11.90
ADVANC 23.87 3.09% 251.25
SIRI 21.15 12.61% 1.76
PTTGC 20.28 8.53% 54.00
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เน้น ICT เพียงกลุ่มเดียว
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 301 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 443 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ซื้อสุทธิ 3,351 ล้านบาท ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่ม ICT ถูกกลับมาซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 621 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 177 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 44 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 200 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มธนาคาร ถูกขายสุทธิสูงสุด 210 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 100 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 192 ล้านบาท และกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ขายสุทธิ 43 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
INTUCH 600.63 18.93 KBANK -268.62 32.96
ADVANC 73.54 12.70 BTS -245.53 36.59
ROBINS 66.78 24.85 DTAC -104.10 27.65
BBL 49.94 31.20 SPALI -59.35 16.15
LPN 46.98 4.91 NMG -43.90 11.50
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong