- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 December 2014 16:53
- Hits: 1773
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับฐานลงเล็กน้อย โดยเกิดแรงขายจากกลุ่มพลังงาน / กลุ่มปิโตรเคมี ขณะที่กลุ่มธนาคารฟื้นตัวจากสินเชื่อเดือนพ.ย.ที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ SET INDEX วานนี้ปิดลบเพียงเล็กน้อย 5.66 จุด มาอยู่ที่ 1,531.17 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 37,001 ล้านบาท
ต่างชาติ คงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 613 ล้านบาท คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 4,773 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมพักเงินในตลาดตราสารหนี้ 1,837 ล้านบาท ยังคงเป็นภาพของกระแสเงินทุนต่างชาติที่ชะลอตัวต่อเนื่องในความเห็นของเรา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ตลาดหุ้น PSE ปิดทำการในวันนี้ ส่วน HSKI / ตลาดหุ้น – ตลาดล่วงหน้า – ตลาดตราสารหนี้ ของสหรัฐฯ เปิดทำการครึ่งวัน
•DJIA ปิดทะลุ 18,000 จุด คืนวานนี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GDP ใน 3Q57
•เสถียรภาพทางการเมืองในกรีซเริ่มมีประเด็น หลังสภาฯ ไม่รับการเสนอชื่อว่าที่ประธานาธิบดีที่นายกฯ Samaras เสนอ ถึง 2 ครั้ง การโหวตครั้งสุดท้ายในวันที่ 29 ธ.ค. หากไม่ได้รับเสียงสนับสนุน 180 เสียงขึ้นไป จะทำให้กรีซต้องเลือกตั้งทั่วไปภายใน 10 วันหลังจากนั้น
•ตลท. ประกาศรายชื่อหุ้นใน SET50 / SET100 รอบเดือนม.ค.- มิ.ย. 2558 ดังนี้
oSET50 Index: เพิ่ม CK / HEMRAJ / KTIS / SPALI และ ออก BLA / GLOBAL / KKP/ THCOM
oSET100 Index: เพิ่ม ANAN / DEMCO / HANA / ICHI / KTIS / PTG/ SAWAD / SF / SGP / SIM และ ออก BLA / DCC / ESSO / MCOT / NYT / RS/ SRICHA/ TASCO/ THRE/ WHA
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 6 พร้อมกรอบแกว่งแนว 1,525-1,540 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางเฉลี่ย 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท/วันเท่านั้น เพราะเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติได้ชะลอการลงทุนมากยิ่งขึ้นในช่วงที่เหลือจนถึงสิ้นปี กองทุนภายในประเทศ และพอร์ตโบรกเกอร์จะเป็นผู้ลงทุนหลักของตลาดหุ้นไทยในช่วงดังกล่าว เพื่อทำ Window Dressing ทำให้ Downside risk จึงเป็นไปอย่างจำกัด
เมื่อปัจจัยภายในและต่างประเทศในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ขาดความโดดเด่น ขณะที่ตลาดหุ้นที่สำคัญทั้งในเอเชีย และสหรัฐฯ ปิดทำการในวันนี้และวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันคริสมาสต์ ทำให้บรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศ ขาดความโดดเด่นเช่นกัน
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.23 น) เปิดบวก โดยเฉพาะนิเคอิเปิดบวกเด่น เมื่อค่าเงินเยนอ่อนค่ามากขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำ “นักลงทุนต้องการเก็งกำไรรอบสั้น ยังคงจำกัด Position และถือเงินสดให้มากขึ้น เพราะ Upside gain จากปัจจุบันจำกัดเพียง 10-20 จุดเท่านั้น” โดยเน้นหุ้นที่ Valuation ยังคงต่ำ ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น และต่อเนื่องถึงปีหน้า
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Accumulative Buy: TTA
Speculative Buy: KBANK
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.TTA : ราคาปิด 18.00 บาท ราคาเหมาะสม 32.10 บาท
a)TTA ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยออกหุ้นใหม่รวม 865.4 ล้านหุ้น ได้แก่
I.การใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สัดส่วน 614.9 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายเท่ากับราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 30 วันทำการก่อนวันที่ 6 ม.ค. และให้ส่วนลดไม่น้อยกว่า 20% ในสัดส่วน 15 หุ้นเดิม ต่อ 6 หุ้นใหม่ (ขึ้น XR 5 ก.พ.)
II.จัดสรร TTA-W5 ให้กับผู้ใช้สิทธิเพิ่มทุน สัดส่วน 6 หุ้นใหม่ ต่อ 2 Warrant ราคาแปลงสภาพ 18.50 บาท อายุ 4 ปี อัตราแปลงสภาพ 1 ต่อ 1 (ขึ้น XW 5 ก.พ.)
b)พร้อมทั้งประกาศจ่ายเงินปันผล 2557/2558 หุ้นละ 0.25 บาท (XD 3 ก.พ.) และให้ Preemptive Right กับผู้ถือหุ้น TTA เพื่อจองซื้อหุ้น IPO ของ PMTA ในสัดส่วนราว 37 TTA ต่อ 1 PMTA (ขึ้น XB 5 ก.พ.)
c)MBKET ประเมินเบื้องต้นและมีมุมมองเป็นบวก เนื่องจาก TTA จะได้เงินสดจากการเพิ่มทุนราว 1 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินสดในมืออีก 7.6 พันล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทมีเงินสดรวมสูงถึง 1.76 หมื่นล้านบาท จึงมีความพร้อมเต็มที่ในการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ และคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่ TTA รับรู้กำไรได้ทันที และมีนัยสำคัญที่จะหักล้าง Dilution Effect ได้
d)แนะนำ “ทยอยสะสม” เพื่อใช้รับสิทธิ XR, XW และ XB และจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติในวันที่ 28 ม.ค.2558
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.KBANK : ราคาปิด 234.00 บาท ราคาเหมาะสม 265.00 บาท
a)KBANK รายงานสินเชื่อ เดือน พ.ย. +1.5% mom เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เติบโต +0.7% mom (ไม่รวม KTB ที่ยังไม่รายงาน) และธนาคารอื่นๆ เช่น SCB +1.2% , BBL +0.1%, BAY +1.0%
b)คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้อานิสงค์ของการเกิด Window Dressing ในช่วงที่เหลือของปีจากเม็ดเงิน LTF รวมทั้งเป็นเป้าหมายในการเข้าซื้อของ Trigger Fund
a)คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในปีหน้า จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งสินเชื่อภาค Corporate, SME และรายย่อย และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +8.0% yoy เป็น 50,814 ล้านบาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เพียง US$11 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$229 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 40.9 135.0 12,471.2 9,188.0
KOSPI 0.0 n.a 5,727.8 4,875.1
JSE -16.0 -28.9 3,796.2 -1,806.4
PSE 0.3 154.9 1,260.6 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 4.2 7.8 110.5 263.2
SET INDEX -18.6 -39.7 -1,126.9 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายตลาดหุ้นไทยเพียงเบาบาง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -613 -1,306
SET50 Index Futures (สัญญา) +4,773 +7,424
SSF (สัญญา) +893 +389
Metal Futures (สัญญา) -566 +13
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +1,837 -1,161
นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 613 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 1,919 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 37,750 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 4,773 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 12,197 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ S50Z14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้ง 2.27 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium 1.58 จุด
ตลาด Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิอีกครั้ง 566 สัญญา เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกปรับฐานหลุดแนว US$1,180/ounce
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้ กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 1,837 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.12bps ปิดที่ 2.862%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 546 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 437 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTTEP 138.11 16.29% 119.01
PTT 120.11 9.04% 336.82
KBANK 36.70 3.57% 234.64
BTS 33.22 12.60% 9.74
KTB 24.42 4.04% 23.15
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ลักษณะ Basket Orders
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 443 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิเพียง 71 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 3,050 ล้านบาท ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มพลังงานถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 200 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 175 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 108 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 104 ล้านบาท และกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 100 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุด 177 ล้านบาทจากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 125 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 35 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
BBL 178.93 29.60 ADVANC -137.39 8.44
TUF 143.45 19.59 DTAC -57.26 42.14
PTT 86.19 7.01 KBANK -55.90 27.14
ROBINS 48.52 19.82 CPF -50.49 36.05
CPN 47.67 14.65 SCB -32.02 10.03
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong