- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 December 2014 18:50
- Hits: 2514
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ไม่ผ่าน 1540-1550 ขายก่อน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแรงด้วยแรงหนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ รวมถึงการรีบาวด์ของราคาน้ำมันดิบช่วยหนุน Sentiment หุ้นกลุ่มพลังงาน ปิดตลาดดัชนี +22.48 จุด (+1.5%) ที่ 1536.83 สถาบันในประเทศนำซื้อสุทธิ 3.3 พันล้านบาท ตามมาด้วยการซื้อสุทธิของพอร์ตบล. 1.0 พันล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.4 พันล้านบาท และที่เหลือเป็นการขายสุทธิของรายย่อยสำหรับวันนี้ ตลาดอาจจะแกว่งตัวหลังปรับขึ้นแรงเมื่อวาน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่กลับมาอ่อนตัวลง (ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้นจำกัดเพราะสงครามราคาที่ยังไม่สิ้นสุดเร็วๆนี้ยังกดดัน) ขณะเดียวกันอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวช้าก็ลดทอนความคึกคักลงไปอย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าระดับปิดของดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 57 นี้จะอยู่เหนือ 1500 จุดได้ถ้าไม่มีปัจจัยหรือเหตุการณ์ร้ายแรง โดยปัจจัยหนุนในสัปดาห์นี้ คือ แรงซื้อของทริกเกอร์ฟันด์, แรงซื้อจาก LTF และอาจมีการทำราคาปิดสิ้นปี 57 (Window Dressing) ของนักลงทุนสถาบัน กลยุทธ์ เลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพื่อลงทุน ส่วนการเก็งกำไรให้ Follow ตาม Trend ตลาด กล่าวคือ เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อผ่านแนวต้าน Step ต่างๆ ถ้าไม่ผ่านขายก่อน โดยแนวต้านที่ต้องฝ่าไปให้ได้ใกล้ๆ นี้ คือ 1550 ถ้าผ่าน & ยืนได้จึงถือต่อ แต่ถ้าไม่ได้ก็ขายลดพอร์ตก่อน และถ้าหลุดแนวฟิวเตอร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 1520 ก็ให้ Stoploss สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น LPN
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นมากเป็นลบเล็กๆ สัปดาห์นี้มีแนวต้าน 1520-1530, 1540 จุด ยืนเหนือ 1540 ได้ถือลุ้นต่อ แต่ถ้าหลุด1490 จุด ควร Stop Loss สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน List –ไม่มี- ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่ ได้แก่ LPN,SCC, ITD, CHOW ส่วนหุ้นที่หลุด List คือ -ไม่มี- สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและราคาขึ้นมาในพื้นที่ขายทำกำไร คือ SAMART, CSS, SEAFCO
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นต่อ ดัชนี DJIA +154.64 จุด หรือ +0.87% ดัชนีNASDAQ +16.04 จุด หรือ +0.34% ดัชนี S&P500 +7.89 จุด หรือ+0.38% ปัจจัยหนุน คือ ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงผ่านมา ทำให้เฟดมีการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP Growth ปี 57 ขึ้น และแม้ว่ารายงานยอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ย.จะร่วงลง 6.1% สู่ระดับ 4.93 ล้านยูนิตต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แต่ก็กระทบตลาดอย่างจำกัด
- สัญญาน้ำมันดิบลดลง...สงครามราคายังไม่สิ้นสุด โดย WTI ส่งมอบก.พ.ร่วงลง 1.87 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกดดัน คือ คำกล่าวของคณะรัฐมนตรีของซาอุดิอาระเบียที่ยืนยันว่าเศรษฐกิจซาอุดิอาระเบียมีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือกับความผันผวนชั่วคราวของรายได้จากน้ำมันและมองความผันผวนเป็นเรื่องปกตินั้นบ่งชี้ว่าสงครามราคาน้ำมันยังไม่ยุติในเร็วๆนี้ นอกจากนั้นทุกประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ยืนยันที่จะไม่ลดปริมาณการผลิตในปี 58 เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด ทั้งนี้ถ้าราคาน้ำมันดิบยังอยู่เหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล ผู้ผลิตก็ยังมี EBITDA เป็นบวกเมื่อเทียบกับ Maximum Cash Cost ที่ 35-40 ดอลลาร์/บาร์เรล(ต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 10 ดอลลาร์/บาร์เรล)
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบก.พ.ร่วงลง 16.2 ดอลลาร์หรือ -1.35% ปิดที่ระดับ 1,179.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
• เปิดประมูล 4G ในไตรมาส 3/58 ทางกสทช.คาดว่าร่างหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 4G บนย่านความถี่ 1800 MHz จะแล้วเสร็จภายในเดือนก.พ.58 และจะมีการเปิดประมูลได้ในเดือนส.ค.-ก.ย.58 สำหรับภาพรวมตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ณ 7 ธ.ค.57 พบว่ามีเลขหมายทุกคลื่นความถี่รวมกัน103 ล้านเลขหมาย อยู่บนย่านความถี่ 3G 73.5 ล้านเลขหมาย (71.36%)ที่เหลืออยู่บนย่านความถี่อื่นๆ
ความเห็น DBSV Retail Research : การเปิดประมูล 4G เป็น Catalystของหุ้นกลุ่มสื่อสารในปี 58 นอกเหนือจากการย้ายจาก 2G มาเป็น 3G ที่มากขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งทำให้ค่า Regulatory Cost ของผู้ประกอบการลดลงและบริษัทส่วนใหญ่จ่ายปันผลดี (ADVANC, INTUCH, DTAC)
นอกจากนั้นผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบก็มีโอกาสเติบโตสูงจากการใช้เทคโนโลยีในภาคธุรกิจและชีวิตประจำวันมากขึ้น (บริษัทที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ SAMTEL, AIT, LOXLEY, JTS, ILINK, SYMC, IRCP เป็นต้น) หุ้นเด่นในกลุ่มสื่อสาร คือ ADVANC, INTUCH, SAMART (บริษัทแม่ของ SAMTEL)
• QH เปลี่ยนผู้บริหารระดับสูง...คาดไม่กระทบแผนธุรกิจ โดยบอร์ดบริษัท QH มีมติตั้งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็น CEO, MD และประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง แทนนายรัตน์ พานิชพันธ์ที่ลาออก มีผลตั้งแต่ 1ม.ค.58 เป็นต้นไป
+ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : ความผันผวนของค่าเงินหนุนรายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำประกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในปี 58 ซึ่งธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะมีความได้เปรียบในเรื่องนี้ ส่วนสินเชื่อคาดว่าจะเติบโตดีขึ้นจากปีนี้ที่ประมาณ 4% (DBSV คาดการณ์ไว้ที่ 9%สำหรับปี 58 ซึ่งมี Downside Risk เมื่อพิจารณาจากปัจจัยที่เห็นในปัจจุบัน) โดยสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ (รวมถึง SME ที่อยู่ในSupply Chain) คาดว่าจะดีขึ้น แต่สินเชื่อเพื่อการบริโภคและรายย่อยอาจเติบโตจำกัดจากรายได้ภาคเกษตรที่ซบเซา และระดับหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูง โดยรวมเรายังให้ถ่วงน้ำหนักการลงทุนไปที่แบงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีโอกาสขยายรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยได้ดีในปีหน้า หุ้น Top Pick เป็นKBANK เนื่องจากมีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตที่ดี มีฐานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยแข็งแกร่ง และ ROE สูง (ประมาณ 20% ในสิ้นปี 58)
• ปี 58 เคลียร์โครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ค้างท่อ ซึ่งมีอยู่ 1,013MW ให้ดำเนินการให้หมดหลังจากที่ให้ใบอนุญาตไปแล้ว โดย ให้ดำเนินการให้หมดหลังจากที่ให้ใบอนุญาตไปแล้ว โดยในส่วนนี้มี 25โครงการกำลังการผลิตรวม 138 MW ที่ไม่มีปัญหาระบบสายส่ง และจะต้องนำไฟฟ้าเข้าระบบภายในมิ.ย.58 ส่วนที่เหลืออีก 153 โครงการกำลังการผลิตรวม 875 MW ยังมีปัญหาสายส่ง, ที่ดิน, เทคนิค ฯลฯ ให้ทำการย้ายที่ตั้งโครงการให้เสร็จภายในมี.ค.58 ถ้าไม่เสร็จจะถูกตัดสิทธิ์ใบอนุญาต และโครงการทั้งหมด 178 โครงการต้องจ่ายไฟเข้าระบบให้ได้ภายใน 31 ธ.ค.58 ถ้าไม่ทันก็ถูกตัดสิทธิ์ใบอนุญาตเช่นกัน ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าล็อตใหม่ กระทรวงพลังงานคาดว่าจะเป็นปี 59 ส่วนในระยะยาว 10ปีข้างหน้า คาดการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จะเพิ่มเป็น 4,000-5,000MW จากที่มีเป้าหมายจ่ายไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์เข้าระบบ 3,800MW ในปี 58
+ SAMART ออก W1 ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 Wโดยเพิ่มทุน 201.3 ล้านหุ้นเพื่อรองรับการแปลงสภาพ (Warrant อายุ 3 ปีแปลงสภาพ 1 : 1 @ 45 บาท) ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 11 ก.พ.58 ทางDBSV ประเมินมูลค่า SAMART-W1 ไว้ที่ 6.7-9.4 บาท (ใช้ราคาแม่ที่ 39บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]