- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 December 2014 16:34
- Hits: 1549
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดบวกขึ้นเล็กน้อย 2.90 จุด แล้วไหลลงมาที่จุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1461.33 จุด ลดลง 0.41 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับขึ้นมาทำให้ดัชนีพลิกฟื้นขึ้นอีกครั้ง แกว่งตัวค่อนข้างผันผวนที่อยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน ขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ 1487.48 จุด บวก 25.74 จุด มีกรอบการเคลื่อนทั้งวันอยู่ที่ 26.15 จุด โดยมีแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTT, PTTEP กลุ่มสื่อสารและกลุ่มแบงก์ ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1480.20 จุด เพิ่มขึ้น 18.46 จุด (+1.26%) มูลค่าการซื้อขาย 63,479 ล้านบาท กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนบัญชี บล.มียอดขายสุทธิ 5,830 // 1,059 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปมียอดซื้อสุทธิ 5,199 // 1,690 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
พิจารณาดัชนีวานนี้ เริ่มมีภาพที่เป็นบวกมากขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลงไปลึกมาก ด้วยการเปิดต่ำและปิดสูงพร้อมกับยก Low สูงขึ้น และขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1488 จุด (SMA 200 วัน) ด้วยพฤติกรรมการเคลื่อนที่ตรงนี้ ทำให้การคาดหวังดัชนีที่น่าจะเคลื่อนที่เข้าใกล้ 1500 จุดได้อีกครั้ง จาก Oscillators โดยเฉพาะ RSI // MACD ที่ตัดค่าเฉลี่ยตัวเองขึ้นมาได้ โดยในช่วงนี้ด้วยภาพที่เป็นแนวโน้มยังกดดันไม่ให้ดัชนีขึ้นได้ไกล แต่การเคลื่อนที่ตรงนี้สามารถคาดหวังส่วนต่างได้พอสมควร
กลยุทธ์ : ซื้อเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง // Let Profit Run // รอซื้อแนวรับ
Support 1450 -1440 // 1406 // 1360 จุด Resistance 1524// 1540-1560 จุด
สุนีย์ จันทร์เปล่ง
เลขทะเบียน :18199
Technical Analyst
Tel 02 - 6481121 / 1616
Email: [email protected]
พรรณนภา เขมะสุรัตน์
Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110
Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (17 ธ.ค.) SET Index ปิดที่ 1480.20 จุด เพิ่มขึ้น 18.46 จุด หรือ 1.26%
ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63,479 ล้านบาท แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศจะไม่เป็นใจนัก เพราะกังวลกับ
ราคาน ้ามันที่ร่วงลงและการชะลอตัวของเศรษฐกิจบางประเทศ แต่เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทย
ปรับตัวลงมาแรงจากกระแสข่าวลือ ท าให้ดัชนีฯ ในช่วง 8-16 ธ.ค.ปรับตัวลงมามากถึง 7%
ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโลก (Bloomberg World Index) ลดลงเพียง 4% เมื่อความกังวลเรื่องข่าว
ลือจางลง จึงมีนักลงทุนบางส่วนกลับเข้ามาซื้อหุ้น โดยมุ่งไปที่กลุ่มพลังงานเนื่องจากราคา
ปรับตัวลงมามากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น
ตลาดห้นุ ต่างประเทศวนัที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นบวกในคืนที่ผ่านมา ตามราคาน ้ามันที่
สูงขึ้น และ FOMC คงอัตราดอกเบี้ยไว้ พร้อมทั้งยืดเวลาการขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก (เร็วที่สุด
คาดว่าจะเป็นการประชุมในวันที่ 30 เม.ย.) ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป รับรู้ข่าวบวกเฉพาะเรื่องราคา
น ้ามัน แต่ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีความกังวลในเรื่องการเงิน
ของกรีซเข้ามา
ราคาน้ำมันดิบ WTI (Jan) ตลาด NYMEX ปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ 56.47 ดอลล่าร์/บาร์เรล สูงขึ้น 0.54ดอลล่าร์ จากตัวเลข stock น ้ามันดิบของสหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง ทำให้
ความกังวลด้าน supply ของน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง ซึ่งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน ้ามันดิบ
รายใหญ่ (กำลังการผลิต 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เกือบเท่ากับประเทศซาอุฯ) ที่มีการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาก
ช่วงก่อนหน้านี้
กนง. คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.0% ทั้งนี้กนง.ประเมินว่านโยบายการเงินปัจจุบันยังผ่อน
ปรนเพียงพอต่อเศรษฐกิจที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวในปี 58 และสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพ
ทางการเงินในระยะยาว
จำนวนนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาไทย ช่วงเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 2.5% และช่วง 11 เดือนแรก
ลดลง 8.6%
ทิศทางตลาดห้นุ ไทย แรงซื้อที่เริ่มมีเข้ามาในตลาด และผ่านช่วงของการประชุมธนาคารกลาง
ของไทยและของสหรัฐฯไปในวันที่ผ่านมาแล้ว แม้ผลการประชุมของ กนง. ของไทยจะไม่สร้าง
ความแปลกใจให้กับตลาด แต่ FOMC ของสหรัฐฯ นั้นท าให้นักลงทุนเชื่อว่าสหรัฐฯจะคงดอกเบี้ย
ระดับต่ำไปอีกหลายเดือน น่าจะท าให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นบวกต่อ คาจะมี
แรงซื้อหุ้น กระจายไปในหุ้นกลุ่มอื่นๆนอกเหนือจากกลุ่มพลังงาน เช่นกลุ่มธนาคาร แต่ปัจจัย
ควรติดตามในระหว่างวัน คือ การซื้อ-ขาย ของนักลงทุนต่างประเทศว่าจะยังมีการขายสุทธิต่อ
หรือไม่ และทิศทางราคาน้ำมัน
กลยุทธ์การลงทุน ยังถือเป็นช่วงเวลา rebound ของหุ้นตัวที่ราคาปรับตัวลดลงมากในช่วงที่
ผ่านมา แน่นอนว่า หุ้นที่ราคาปรับตัวลงมากจะถูกเลือกเข้าซื้อก่อน ส าหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นไว้
วันนี้แนะให้ถือต่อ ส่วนการเข้าซื้อเพื่อลงทุน กลุ่มที่น่าสนใจ จะเป็นกลุ่ม ICT (ADVANC ,
TRUE , SAMTEL, SAMART) ซึ่งมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและไม่เสี่ยงกับความผันผวนทาง
เศรษฐกิจมากนัก .... ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมัน (NOK, THAI , RCL) ยังเป็นกลุ่มที่
น่าลงทุนอยู่ต่อไป ......ขณะที่เสน่ห์ของหุ้นอสังหาฯ ในกลุ่มบ้าน-คอนโด แม้ กนง. จะคงอัตรา
ดอกเบี้ยไว้ แต่ก็ถูกชดเชยด้วยราคาที่ลงมามากจน P/E ต ่ากว่าระดับปกติ ถ้ากลับมาดูที่
ผู้ประกอบการที่จับตลาดกลาง-บน (SC, AP) ที่ยังมีการเติบโตได้โดยไม่ต้องพึ่งดอกเบี้ยที่ต ่า
ราคาจึงมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้
Stock in Focus
TMB-THCOM มีสัญญาณซื้อหุ้นกลับ เพราะราคาลงมามาก แรงซื้อที่จะมีเข้ามาใน
วันนี้ จะเริ่มที่หุ้นตัวที่ราคาปรับตัวลดลงมากในช่วงที่ผ่านมาเป็นล าดับแรก อย่างที่เรา
เห็นราคา PTT และ PTTEP ปรับตัวสูงขึ้นก่อนหุ้นตัวอื่นๆ ในวันนี้ หากตลาดเปิดด้วย
แรงซื้อ เราน่าจะเห็นการดีดตัวของหุ้นในกลุ่มอื่นๆ เราพิจารณาหุ้นนอกกลุ่มพลังงาน
ลำดับแรก คือ TMB ((ราคาปิด 2.96 บาท ; ราคาเป้าหมายเฉลยี่ โดย IAA Consensus
3.06 บาท) นอกจากราคาหุ้นจะลงมามากแล้ว ความน่าสนใจอยู่ที่เป็นธนาคารที่ถูกคาด
ว่าจะมีก าไร ปี 2558 ขนาดตัวมากถึง 14.5% ซึ่งไม่ธรรมดาส าหรับหุ้นธนาคาร และวันที่
ผ่านมา ก็มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สำหรับหุ้นตัวที่สอง คือ THCOM (ราคาปิด 34.50 บาท ; ราคาเป้าหมายเฉลยี่ โดย IAA
Consensus 50.50 บาท) ผลประกอบการงวด 9 เดือน 2557 มีก าไร 1.17 พันลบ.เติบโต
ถึง 40% จากปีก่อน และคาดว่าก าไรปีหน้าของบริษัทจะยังมีการขยายตัวต่ออีก 30%
(IAA & Bloomberg) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมามาก จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้ซื้อใน
ราคาที่ถูก นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. บริษัทฯเพิ่งลงนามในสัญญาเงินกู้ เพิ่อลงทุนใน
ดาวเทียมไทยคม 8 มีแผนส่งขึ้นสู่วงโคจรภายในครึ่งแรกของปี 2559
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด ้านหลักทรัพย์
Licence No: 001937 Tel: 02-648-1123
และทีมวิเคราะห์