- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 December 2014 16:10
- Hits: 1710
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ยังคงอยู่ในช่วงพักฐาน
เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้ยังคงอยู่ในช่วงผันผวนเชิงลบ โดยปัจจัยกดดันมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรงต่อเนื่อง หลัง OPEC ปรับลดคาดการณ์ความต้องการของน้ำมันดิบในปีหน้า และ inventories ในสหรัฐปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี แต่อย่างไรก็ตามเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรงจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะต่อกลุ่มขนส่งและก่อสร้างและเม็ดเงิน LTF,RMF จะเริ่มเข้ามาอย่างชัดเจนในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นเป็นโอกาสดีที่จะเข้าเก็บสะสมหุ้นหากดัชนีย่อตัวลงแรงในสัปดาห์นี้
แนวรับ/แนวต้าน : 1525/1600
กลยุทธ์ : เป็นโอกาสดีที่จะเริ่มสะสมหุ้น หากดัชนีปรับลงแรง โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล เช่น กลุ่มรับเหมาและกลุ่มพลังงานทดแทน
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
นักลงทุนระยะสั้น : ITD(8.5), PYLON(12)
นักลงทุนระยะยาว : SAMART(40), IFEC(18)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
- ส.อ.ท.เปิดเผยว่า ไทยกำลังประสบปัญหาความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางด้านพลังงาน ซึ่งมี
แนวโน้มค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้น จากการที่ไทยต้องรับซื้อไฟจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไม่สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เพื่อผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศได้ ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมเสี่ยงขาดทุน ทางด้าน"นักเศรษฐศาสตร์" มองราคาน้ำมัน ฉุดเศรษฐกิจ "รัสเซีย" เผชิญภาวะชะงักงัน ทั้งเงินรูเบิลอ่อนดันเงินเฟ้อพุ่ง ขณะที่ทุนสำรองฯลดต่อเนื่อง โอกาสเบี้ยวหนี้สูง ส่อกระทบท่องเที่ยวไทย เชื่อผลกระทบด้านอื่นน้อย เหตุการค้าระหว่างกันไม่มาก ทั้งธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องมีน้อย
ปัจจัยต่างประเทศ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,533.15 จุด ร่วงลง 268.05 จุด หรือ -1.51%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน ม.ค.ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2552